เข้าสู่ระบบผ่าน

ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม นิยาย บท 250

มิ่งเหล่าใจสลาย เพราะเขามองไม่เห็นดวงชะตาของอันหลินเลยสักนิด

ถ้าบอกว่าเขาเจอการขัดขวางด้วยกำแพงอันแน่นหนายามตรวจดูความสัมพันธ์ระหว่างสวีเสี่ยวหลานกับตำหนักแห่งสวรรค์ เช่นนั้นการตรวจดูชะตาของอันหลิน ก็คงเป็นม่านหมอกที่ทำให้คนหาทิศทางไม่เจอโดยสิ้นเชิง

อย่าว่าแต่ทำนายดวงชะตาของอันหลินเลย ต่อให้ดูว่าพรุ่งนี้เขาจะมีข้าวกินหรือไม่ ก็ยังทำนายไม่ได้

ไยจึงเป็นเช่นนี้…ไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย…

พลังยุทธ์สูงเกินหยั่งหรือ แต่ชายคนตรงหน้าอยู่แค่ในระดับหล่อเลี้ยงวิญญาณเท่านั้นนี่นา…

มิ่งเหล่ายิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกไม่ชอบมาพากล ยิ่งคิดก็ยิ่งกระวนกระวาย

อันหลินเมื่อเห็นสีหน้าของมิ่งเหล่าผิดปกติ ก็คิดว่าเส้นทางความรักของตนมีอุปสรรค เริ่มวิตกกังวล “เป็นอย่างไรบ้าง ข้าจะมีคู่เมื่อใดกันแน่”

มิ่งเหล่าลอบกลืนน้ำลาย เขาคิดว่าหากตนพูดความจริง ต้องถูกมองว่าหลอกลวง ถึงตอนนั้นสี่หมื่นหินวิญญาณอาจถูกแย่งกลับไป

หรือจะโกหกเขา

มิ่งเหล่าคิดๆ ดูแล้วก็กระแอมเล็กน้อย ส่ายหน้าพูดว่า “มองเห็นสีสันของภูเขาอยู่ไกลๆ เมื่อเข้าใกล้กลับไม่ได้ยินเสียงน้ำไหล ความรักของเจ้าอยู่ไม่ไกลแล้ว ได้ร่วมทุกร่วมสุข สองใจเกื้อหนุนกันในอีกร้อยปี เจ้ากับนางจะเป็นคู่รักที่ใครๆ ก็อิจฉา…”

แน่นอนว่า ทักษะการเอาตัวรอดของมิ่งเหล่าเลิศล้ำอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะใช่เรื่องจริงหรือไม่ อย่างไรเสียอันหลินก็ถูกชมจนยิ้มไม่หุบแล้ว คิดว่าหนึ่งหมื่นวิญญาณนั้นคุ้มค่า

อันหลินกับสวีเสี่ยวหลานจึงไปจากตำหนักแห่งชะตาด้วยประการละฉะนี้

ตอนแรกอันหลินอยากจะทำนายดวงชะตาด้านอื่นด้วย กลับถูกมิ่งเหล่าปฏิเสธ บอกว่าแต่ละคนทำนายได้แค่ข้อเดียว สั่งให้เขารีบไป เขาก็จนปัญญา ทำได้เพียงออกจากที่นั่นด้วยความเสียดาย

“เสี่ยวหลาน เจ้าว่าตาแก่พยากรณ์แม่นหรือไม่” อันหลินถามอย่างสบายใจเฉิบ

“อา” สวีเสี่ยวหลานก้มหน้า ใบหน้าขาวผ่องเป็นยองใยแดงเรื่อ ตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “น่าจะเชื่อได้กระมัง ตำหนักที่ตั้งขึ้นมาโดยเฉพาะ คงจะไม่ใช้มาหลอกเงินหรอก เช่นนั้นจะไร้ศีลธรรมเกินไป”

อันหลินพยักหน้า ชัดเจนว่าเห็นด้วยอย่างมาก “คู่ของข้าจะมาภายในหนึ่งร้อยปี อันที่จริงระยะเวลานี้ข้าก็พอใจมากทีเดียว ไม่ช้าและไม่เร็วเกินไป”

สวีเสี่ยวหลานพยักหน้าเห็นด้วย “หนึ่งร้อยปีเพียงพอจะพิสูจน์คนคนหนึ่งแล้ว และเพียงพอจะหาคนที่จะจับมือร่วมทางไปด้วยกันแล้ว”

“อันหลิน คู่อุดมคติในใจเจ้าเป็นอย่างไรหรือ” นางเงยหน้ามองอันหลิน นัยน์ตาหยาดเยิ้ม ดึงดูดใจยิ่งนัก

อันหลินกับสวีเสี่ยวหลานสบตากัน ใจเต้นราวกับขี่รถไฟเหาะ เขารีบหลบสายตาทันที

ไม่ได้ ต้องนิ่งไว้! ถ้าตอนนี้บุ่มบ่ามไป เราจะเสียแม่นางหลานไปได้

“เอ่อ…ข้ายังเด็ก ยังไม่เคยคิดเรื่องพวกนี้” อันหลินตอบส่งๆ ไป

“ใช่แล้ว เป็นเด็กเป็นเล็ก คิดเรื่องไกลปานนั้นไปทำไม วัยในตอนนี้ ควรจะไปเที่ยวซ่องคณิกากับเจ้าสำราญต้าไป๋ โฮ่ง!” ต้าไป๋พูดแทรกอย่างฉะฉาน

สวีเสี่ยวหลาน “อันหลิน เจ้าเคยไปเที่ยวซ่องคณิกาหรือ”

อันหลินรีบชี้แจงเป็นพัลวันว่า “ที่ไหนกัน ข้าจะไปเที่ยวซ่องคณิกาได้อย่างไร!”

ต้าไป๋แสยะยิ้ม “เจ้าลืมพี่หลานเยว่แห่งหอชุนเจียงไปแล้วหรือ โฮ่ง”

“พับผ่าสิ! ต้าไป๋ เจ้ายังมีหน้ามาพูดอีก ครั้งนั้นถ้าไม่ใช่เพราะไปลากเจ้ากลับมา ข้าจะไปหรือ” อันหลินโกรธจนเส้นเลือดปูด กำมือแน่นเตรียมจะสั่งสอนต้าไป๋ให้เป็นหมาที่ดี

ต้าไป๋เห็นดังนั้นก็สาวเท้าวิ่งทันที

“อย่าหนีนะ!” อันหลินตะโกนลั่นแล้วไล่ตามไป

“ตามข้าให้ทันสิ ถ้าตามทัน ข้าจะยอมเจ้าหึๆ ๆ…” ต้าไป๋วิ่งไปด้วยตะโกนไปด้วย

สวีเสี่ยวหลาน “…”

นางนวดขมับ สรุปแล้ว…อันหลินเคยไปซ่องคณิกาแล้วใช่ไหม

ต้าไป๋ถูกอันหลินจับได้อยู่ดี จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงปึกปัก

พอสั่งสอนต้าไป๋เสร็จ ทุกคนก็ออกเดินทางต่อมายังตำหนักเหลือง

ท่าทางสี่ตำหนักสุดท้ายจะไม่พ้น ‘สวรรค์ดำธรณีเหลือง’

อันหลินคิดว่า อันที่จริงยังสามารถเพิ่ม ‘จักรวาลมืดมน’ ได้ด้วย แต่พอคิดๆ ดูแล้ว เหมือนว่าจะอหังการเกินไป เสิ่นอิงไม่เพิ่งเข้าไปก็พอจะเข้าใจได้

ก่อนเข้าไปในประตู อันหลินให้ต๋าอีกับต๋าเอ้อร์นำไปก่อน

กันดั้มที่หนังหยาบเนื้อหนา แถมยังมีพลังแก่กล้า เหมาะแก่การทำเรื่องแบบนี้ที่สุด

พอเปิดประตู มีพลังที่กดดันอย่างยิ่งม้วนตัวออกมาจากข้างใน ประหนึ่งมีภูเขาลูกใหญ่กดทับจนแทบหายใจไม่ออก

ต๋าอีกับต๋าเอ้อร์ปล่อยบาเรียไอออนออกมาขวางกั้นแรงกดดันมหาศาล

ตอนที่ 250 ในที่สุดก็เกิดศึก 1

ตอนที่ 250 ในที่สุดก็เกิดศึก 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม