อันหลินถ่ายทอดวิชาทำสมาธิยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ให้กับหลิ่วเชียนฮ่วนบนยอดเขาหินนิลดำ
หลังหลิ่วเชียนฮ่วนทำสำเร็จแล้ว ก็ส่งอันหลินกลับผืนดินอย่างพึงพอใจ
จากนั้นนางก็ใช้วิชาลี้แสงเหาะไป ค้นหาคนที่จะฝึกสกิลด้วย
อันหลินที่ได้รับอิสรภาพอีกครั้ง อารมณ์ดียิ่งนัก ก้าวเข้าสู่เส้นทางล่าเหยื่อที่พลังชีวิตใกล้หมดอีกครั้ง
ตอนนี้พลังบงกชพสุธาของเขาบรรลุขั้นหนึ่งแล้ว ความสามารถก้าวกระโดดไม่น้อยเลย
แต่แข็งแกร่งถึงปานไหน เขายังไม่มีความคิดที่แน่นอน จำต้องหาคนมาประมือสักหน่อยจึงจะรู้
นักเรียนที่สามารถเข้าเรียนสำนักนี้ได้ ล้วนเป็นอัจฉริยะของรุ่น
วรยุทธ์ที่พวกเขาฝึก ก็จำต้องเป็นวรยุทธ์ชั้นสูงแห่งแดนบำเพ็ญเซียน
ดังนั้นแม้อันหลินจะมีพลังบงกชพสุธา แต่ในการต่อสู้ของระดับเดียวกัน เขาก็ยังรู้สึกไร้ความมั่นใจอยู่ดี
อืม…หวังว่าครั้งนี้จะเจอคนที่มีระดับต่ำกว่าตัวเองก่อนสักคน เพื่อทำความคุ้นเคยกับความสามารถของตัวเอง
อันหลินคิดเช่นนี้ จากนั้นเขาก็เจอคนคนหนึ่งเข้า เขาคุ้นเคยกับคนคนนี้มาก
เขาชื่อเว่ยจี๋ เป็นเพื่อนร่วมห้องของอันหลิน พลังยุทธ์กายแห่งมรรคขั้นเก้า…
เมื่อเว่ยจี๋เจอกับอันหลิน สีหน้าก็ตะลึงเล็กน้อย นึกไม่ถึงว่าจะได้เจอกับเขาที่นี่
เจ้าคนไร้ประโยชน์คนนี้รอดมาถึงวันที่สองได้ด้วยหรือ
เว่ยจี๋แปลกใจอย่างยิ่ง ประเมินอันหลินตั้งแต่หัวจรดเท้า
อันที่จริงเขารังเกียจอันหลินเป็นอย่างมาก แต่เพราะการอบรมสั่งสอนที่ดี ทำให้เขาสันทัดในด้านการเก็บซ่อนความรู้สึกของตัวเอง ไม่ยอมให้ความเกลียดชังปรากฏออกมาง่ายๆ
หึๆ แต่ในเมื่อเขามาปรากฏกายต่อหน้าข้าแล้ว เช่นนั้นข้าก็จะถือโอกาสกำจัดขยะชิ้นนี้ทิ้งเลยก็แล้วกัน…
เว่ยจี๋แสยะยิ้มในใจ แต่ใบหน้ากลับแสดงสีหน้าอ่อนโยน ทำท่าทางผายมือ เอ่ยปากบอกว่า “สหายอันหลิน ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วย!”
อันหลินเห็นว่าลมปราณของเว่ยจี๋ปะทุออกมาแล้ว จึงรู้ว่าศึกนี้เขาเลี่ยงไม่ได้
เขาคับข้องใจมาก ทำไมตอนที่เขาอยากเจอศัตรูกายแห่งมรรคขั้นเจ็ดสักคน กลับมีคู่ต่อสู้กายแห่งมรรคขั้นเก้าโผล่มากันนะ!
แต่ในเมื่อหลบเลี่ยงไม่ได้ งั้นก็รบเถอะ!
“สหายเว่ยจี๋ ฝากเนื้อฝากตัวด้วย!”
ตราดอกบัวสีทอง ปรากฏขึ้นบนหน้าผากของอันหลิน
บัดนี้ลมปราณของเขาก็แปรเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง หนักแน่นดุจขุนเขา ราวกับพลังใดก็ไม่อาจสะเทือนได้
รอบตัวเว่ยจี๋มีลมพัดหวีดหวิว ร่างกายของเขากลายเป็นเกราะแห่งสายลม กำปั้นฉายลำแสงสีขาววาบ มันเป็นลำแสงพลังงานที่ถือกำเนิดหลังความกดอากาศลดฮวบอย่างรุนแรง
ฟิ้ว!
เว่ยจี๋เคลื่อนไหวแล้ว เขารวดเร็วยิ่งยัก พุ่งเข้ามาประชิดอันหลินในพริบตา กำปั้นที่ปล่อยลำแสงสีขาว กระแทกใส่อันหลินอย่างไม่ปราณี
เขาใช้ท่าไม้ตายอันแสนภูมิใจตั้งแต่เริ่มต้น มันคือหมัดพิฆาตเวหา!
ลำแสงสีขาวบนกำปั้น จะระเบิดในชั่ววินาทีที่สัมผัสอันหลิน
อานุภาพของหมัดพิฆาตเวหานี้ สามารถทำให้ก้อนหินขนาดใหญ่แหลกละเอียดได้
เว่ยจี๋มั่นใจว่า หากอันหลินถูกกระบวนท่านี้โจมตีเข้าอย่างจังนอกเขตแดนล่ะก็ ต้องตายเป็นแน่แท้!
ตอนนี้มีแสงทองคุ้มกันจากยันต์ประเมินผลแพ้รบ ท่านี้จะทำให้อันหลินบาดเจ็บสาหัสหรือว่าพิการกันแน่นั้น ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะตัดสินใจได้
เว่ยจี๋แสยะยิ้ม หากว่าข้ารุนแรงกับเจ้า เจ้าอย่าโทษข้าล่ะ ต้องโทษที่ตัวเจ้าเองอ่อนแกเกินไป!
เมื่อเจอกับหมัดของเว่ยจี๋ อันหลินก็ปล่อยหมัดออกไปเช่นเดียวกัน
หมัดสะเทือนขุนเขา!
กำปั้นสีทองขนาดหนึ่งจั้งโผล่มาจากหมัดของเขา บงกชสีทองกลางหน้าผากหมุนคว้าง พลังแห่งปฐพีไหลหลั่งเข้ามาในหมัดสีทองโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง…
เมื่อเห็นวิชาเซียนที่อันหลินใช้ สีหน้าของเว่ยจี๋ก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่หมัดของเขากลับไม่หยุดเคลื่อนไหว พุ่งไปหากำปั้นสีทอง
เขาคิดในใจว่า นั่นแค่วิชาเซียนชั้นสามก็เท่านั้น คอยดูหมัดของเขาให้ดี!
ตูม!
สองหมัดชนกัน ลำแสงสีขาวระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว พลังยิ่งใหญ่ปะทุ สะเทือนผืนดินในรัศมีสามจั้งจนแยกออก ยิ่งไปกว่านั้น ผิวดินบริเวณศูนย์กลางการระเบิดทรุดตัวลงไปแล้ว
ตอนแรกเว่ยจี๋คิดว่าหมัดของตนจะสะเทือนหมัดสีทองจนแตกละเอียด จากนั้นทำให้อันหลินได้รับบาดเจ็บสาหัส
แต่หลังพลังงานระเบิดแล้ว หมัดสีทองยังคงไม่แตกกระจาย มีแค่แสงสว่างหม่นมัวลงเล็กน้อยก็เท่านั้น
ต่อมา หมัดก็ทลายเกราะแห่งสายลมของเขา กระแทกใส่ร่างของเขาอย่างจัง…

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม