ทุกคนพักผ่อนอยู่ที่เดิม ฟื้นฟูร่างกายให้ดีแล้วค่อยออกเดินทางสู่ประตูมิติบานสุดท้าย
ภายในมิติมืดมนแห่งหนึ่ง หญิงผมดำขลับนั่งขดหางงูอยู่บนเก้าอี้ มองพวกอันหลินบนหน้าจอด้วยรอยยิ้ม
ชายหัวโล้นยืนอยู่ข้างกายด้วยท่าทางนอบน้อม
หลังปลดการผลึกพลังแล้ว บาดแผลที่น่าสยดสยองตามตัวเขาก็อาศัยความสามารถในการสมานแผลที่ยิ่งใหญ่สมานกันด้วยตัวเอง แม้จะช้ำในอยู่ไม่น้อย แต่ไม่กระทบต่อการเคลื่อนไหวทั่วไปมากนัก
“มีคนที่ร้ายกาจจริงๆ โผล่มาแล้ว ผู้ทดสอบจากสรวงสวรรค์ไม่มีคนไหนธรรมดาเลย” พญางูนิลเห็นการต่อสู้ทั้งหมดแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นคะแนนการต่อสู้นั้นมาจากการประเมินของนางด้วยซ้ำ ด้วยเหตุนี้นางจึงเอ่ยปากชมเหล่าสมาชิกอย่างไม่ตระหนี่
“หากไม่เข้มงวดกับพวกเขาระหว่างที่ทดสอบ จะไม่รู้ตื้นลึกหนาบางของพวกเขา ดูจากตอนนี้แล้ว สมาชิกกลุ่มที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ คู่ควรกับมรดกของเซียนสวรรค์โสว่หยางแล้ว…” พญางูนิลพูดต่อ
ชายหัวโล้นพยักหน้า “พรสวรรค์ วรยุทธ์ เจตจำนง มรรคา พวกเขาล้วนเป็นตัวเลือกที่เหนือชั้น โดยเฉพาะห้าคนนั้น หากไม่ได้ต่อสู้กันซึ่งหน้า ไม่มีทางเชื่อเลยว่าพวกเขาจะระเบิดพลังที่ยิ่งใหญ่ปานนี้ได้”
พญางูนิลขำเบาๆ “คนหนึ่งเป็นต้นกล้าเซียนกระบี่สะท้านโลกาผู้มีกายวิถีกระบี่ คนหนึ่งเป็นผู้สืบทอดวิถีธาตุแท้แห่งสรรพสิ่ง คนหนึ่งเป็นหญิงอัศจรรย์ที่มีเลือดผสมระหว่างมังกรและหงส์ คนหนึ่งเป็นผู้สืบทอดวังจันทราที่มีกายจันทรา อีกคน…อีกคนเป็นชายหนุ่มที่มีบั๊ก พวกเขาเอาชนะเจ้าได้ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้”
ชายหัวโล้นได้ฟังก็สะดุ้งอีกครั้ง เขาไม่คิดว่าพญางูนิลจะรู้จักทั้งห้าคนดีเช่นนี้ แต่ชายหนุ่มที่มีบั๊กหมายความว่าอย่างไร
เขาหวนคิดถึงตอนที่สู้รบ ความน่ากลัวตอนที่อันหลินแผ่ไอดำทั้งตัว ใช้เพลงกระบี่ไร้ราตรีกับเขา ก็รู้สึกเช่นกันว่าอันหลินใช้โปรแกรมโกงจริงๆ…
ไม่บังอาจ ไม่บังอาจ…
“อย่างไรเสียโส่วหยางก็เคยผ่านอะไรมาด้วยกัน พวกเรามาทำก้าวสุดท้ายให้ดีกันเถอะ” มือของพญางูนิลเคลื่อนไหวบนหน้าจออย่างรวดเร็ว มรดกอย่างสมบัติ วรยุทธ์และกระบวนท่าต่างๆ เริ่มถูกเคลื่อนย้ายไปยังมิติแห่งหนึ่ง
ชายหัวโล้นมองสมบัติเหล่านั้นพลางกลืนน้ำลายอย่างอิจฉา
…
ครึ่งชั่วยามต่อมา
เหล่าสมาชิกพักกันเสร็จแล้ว ส่วนคนที่บาดเจ็บค่อนข้างสาหัส แน่นอนว่าต้องนอนแบ็บ
เซวียนหยวนเฉิงเอาพรมศาสตราเวทออกมา เมื่อนอนลงไปทั้งนุ่มและอบอุ่น สบายอย่างยิ่ง แถมยังนอนได้หลายคนด้วย
ถังซีเหมินเห็นของสิ่งนี้ก็น้ำตาแตกทันใด พับผ่าสิ มีของดีขนาดนี้ทำไมไม่เอาออกมาตั้งแต่แรก! ไม่รู้หรือว่าข้านอนบนก้อนอิฐของอันหลินทั้งแข็งและไม่สบายตัว!
ด้วยเหตุนี้สามคนที่อัมพาตอย่างอันหลิน หลิวเชียนฮ่วนและถังซีเหมินจึงพากันนอนลงบนพรมที่อ่อนนุ่ม ใบหน้าชื่นมื่น แม้แต่ซูเฉี่ยนอวิ๋นกับเซวียนหยวนเฉิงที่บาดเจ็บสาหัสก็ตัดสินใจนอนลงบนพรมเช่นกัน ช่วยไม่ได้ เจ็บหนักเหลือเกิน ไม่อยากขยับตัวแล้วจริงๆ
สวีเสี่ยวหลาน หูก้วนและเหยาหมิงซีแค่บาดเจ็บเล็กน้อย จึงไม่มีความคิดนี้
อันหลินเห็นภาพนี้ก็อดทอดถอนใจไม่ได้ การทดสอบครั้งนี้เจ็บหนักกันมากจริงๆ นอกจากปลาเค็มสองตัวแล้ว บาดเจ็บสาหัสห้าคน บาดเจ็บเล็กน้อยสามคน ถ้าไม่สู้สุดชีวิต อาจจะตายยกกลุ่มก็ได้…
พรมบรรทุกทั้งห้าคน ค่อยๆ เหาะไปยังประตูมิติบานนั้นอย่างเชื่องช้า
อันหลินคิดในใจว่าถ้าครั้งนี้ไม่ได้สมบัติชั้นยอดละก็ คงจะไม่คู่ควรกับการทุ่มเทต่อสู้ด้วยชีวิตของทุกคน
แล่นผ่านเส้นทางขาวโพลน สิ่งที่ปรากฏสู่สายตาทุกคนเป็นแท่นบูชาทรงกลมสีขาว
รูปสลักของบุรุษสูงสามจั้งตั้งอยู่ใจกลางแท่นบูชา
ชายคนนี้มีใบหน้าเคร่งขรึม มือถือกระบี่เล่มใหญ่ ทอดมองไปไกลด้วยความสง่างาม แววตามั่นคงเด็ดเดี่ยว
หลังอันหลินเห็นรูปสลักชายนี้แล้ว ก็รู้ตัวตนของชายคนนี้ได้ด้วยตัวเอง เซียนสวรรค์โส่วหยาง!
เขาสอดส่ายสายตามองรอบทิศหมายค้นหาสิ่งของบางอย่าง แต่รอบกายว่างเปล่า ทำให้เขาอดผิดหวังไม่ได้
ในตอนนั้นเอง ม่านแสงลอยลงมาจากเบื้องบนอีกครั้ง ด้านบนแสดงผลคะแนนของทุกคน



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม