การต่อสู้ระหว่างหวังเสวียนจ้านกับเซวียนหยวนเฉิงปะทุอีกครั้ง ทุกครั้งที่หอกกับกระบี่ประสานงากัน จะทำให้พลังปราณซัดสาดและระเบิด อานุภาพน่ากลัวเป็นที่สุด
หากคนทั่วไปเข้าใกล้ตำแหน่งที่พวกเขาต่อสู้กัน อาจจะตายด้วยคลื่นลูกหลงโดยที่ไม่มีความผิดเลยก็ได้
หวังเสวียนจ้านไม่ปล่อยหอกสะเทือนฟ้าเช่นก่อนหน้านี้อีกแล้ว เพราะท่านั้นใช่ว่าจะใช้ได้ตามใจชอบ
เซวียนหยวนเฉิงบาดเจ็บแล้ว แพ้พ่ายเป็นเรื่องที่ต้องเกิดไม่ช้าก็เร็วแน่นอน
และอีกประการหนึ่งที่สำคัญที่สุดนั่นก็คือ เฉินเฉินยังไม่ไปจากที่นี่
ในใจของหวังเสวียนจ้านยังคงอยากรักษาพลังบางส่วนไว้เพื่อต่อกรกับเฉินเฉินอยู่ดี พยายามไม่ใช้กระบวนท่าที่ผลาญพลังงานมากเกินไป
อีกด้านหนึ่งของสมรภูมิรบ เฉินเฉินทำหน้าลังเล ไปหรือไม่ไป มันเป็นปัญหาที่คิดไม่ตก
หากว่าเขาเลือกจากไป เช่นนั้นหวังเสวียนจ้านต้องสู้สุดชีวิต ทุ่มเทพลังอย่างมหาศาลเพื่อปิดฉากการต่อสู้ครั้งนี้โดยไวเป็นแน่
ถึงตอนนั้น เซวียนหยวนเฉิงจะต้องแพ้อย่างน่าอนาถแน่นอน!
เฉินเฉินคิดว่าหากเขาทำเช่นนี้ ก็จะรู้สึกผิดกับเซวียนหยวนเฉิงที่ขวางข้างหน้าเขา ช่วยเหลือเขาอย่างไม่คิดชีวิต
แต่หากไม่ไปละก็ เซวียนหยวนเฉิงจะโมโหจนกระอักเลือดเพราะเขาหรือไม่
เพราะเขาหวังดีฉวยโอกาสให้ตัวเองหลบหนี แต่ตัวเองกลับชมศึกอยู่ตรงนี้…
“เฮ้อ ทำไมถึงเจอเรื่องที่ยุงยากขนาดนี้กันนะ…”
ใบหน้าหล่อเหลาของเฉินเฉินเต็มไปด้วยร่องรอยของกาลเวลา รู้สึกราวกับแก่ขึ้นหนึ่งวัน
“ช่างเถอะ รอให้ศิษย์น้องเซวียนหยวน ปิดฉากการต่อสู้ครั้งนี้ด้วยผลลัพธ์ที่เสมอกันก่อนค่อยว่ากัน”
เฉินเฉินตัดสินใจได้แล้ว ใบหน้าเริ่มกลับสู่ความเรียบเฉย ยืนชมการต่อสู้อยู่กับที่ต่อไป
หวังเสวียนจ้านเป็นผู้แข็งแกร่งระดับหล่อเลี้ยงวิญญาณขั้นปลายอยู่แล้ว ซ้ำตอนนี้ยังปลุกพลังแห่งสายเลือดอีก เวลานี้พลังต่อสู้จึงพุ่งพล่านแล้ว
ทุกกระบวนท่าของเขา ล้วนแฝงอานุภาพอันยิ่งใหญ่ บีบคั้นจนเซวียนหยวนเฉิงถอยหลังไม่หยุด บาดเจ็บอย่างต่อเนื่อง
ในขณะนั้นเอง ก็มีสุนัขตัวใหญ่เหาะผ่านไปช้าๆ มีชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่งนั่งอยู่ข้างบน
เขากวาดสายตามองบริเวณที่มีการต่อสู้ จู่ๆ สีหน้าก็เปลี่ยนไป
“มังกรสยบ!”
หวังเสวียนจ้านพบช่องโหว่เพียงน้อยนิดของเซวียนหยวนเฉิง แทงหอกจากบนลงล่างสุดแรง
ภาพมายาของมังกรเขียวตามหอกลงมา ปรากฏกายกลางอากาศ กระโจนไปหาเซวียนหยวนเฉิงที่อยู่เบื้องล่าง
ครืน!
ร่างของมังกรทะลวงม่านอากาศทรงกลมของเซวียนหยวนเฉิง ระเบิดโดยพลัน
เพียงพริบตา พลังอันน่ากลัวก็กระจายตัว ผิวดินในรัศมีสามจั้งรอบตัวเซวียนหยวนเฉิงทรุดตัวลงไป กระแสอากาศม้วนตัวไปทั่วทุกสารทิศอย่างบ้าคลั่ง ก่อตัวเป็นพายุหมุนหลายลูก
เลือดแดงฉานพุ่งออกจากปากของเซวียนหยวนเฉิง ร่างของเขาโอนเอน สุดท้ายก็ต้านทานไม่ไหวล้มหงายหลังลงไป
ม่านคุ้มกันสีทองปรากฏขึ้นรอบตัวเขา เซวียนหยวนเฉิงแพ้แล้ว!
หวังเสวียนจ้านหายใจหอบ เขาไม่คิดว่าเซวียนหยวนเฉิงจะต้านทานได้นานปานนั้น การเอาชนะผู้แข็งแกร่งระดับหล่อเลี้ยงวิญญาณขั้นกลางยังไม่ยากปานนี้เลย ความยากของสงครามนี้เหนือความคาดหมายของเขาอย่างมาก
สายตาของเขาเบนไปทางเฉินเฉินที่อยู่อีกมุม ใบหน้าแสดงอาการตื่นเต้น “คราวนี้ไม่มีใครมารบกวนการต่อสู้ระหว่างเราสองคนได้แล้ว ข้าจะ…”
เขายังพูดไม่ทันจบ ก็มีเสียงตะโกนดังลั่นมาจากบนนภา
“ใจกล้านัก! บังอาจทำร้ายพี่เฉิงของข้า ตายเสียเถอะ!”
พูดจบ หนึ่งคนหนึ่งสุนัขก็พุ่งลงมาจากฟ้า!
หวังเสวียนจ้านเงยหน้ามองท้องฟ้า ใบหน้ากระตุก…
วันนี้มันอะไรกัน ข้าไปทำอะไรใครไว้หรือ
…
ตอนแรกเฉินเฉินตั้งใจว่าจะเผ่นแล้ว แต่เมื่อเห็นฉากบนท้องฟ้า กลับยืนนิ่งอยู่กับที่ด้วยความมึนงง
คนที่มีปฏิกิริยาไวที่สุดคือเซวียนหยวนเฉิง เมื่อเขาเห็นผู้มาเยือนก็รีบตะโกนทันทีว่า “สหายอันหลิน อย่าเข้ามา รีบหนีเร็ว!”
แต่ทว่า หนึ่งคนหนึ่งสุนัขกลางนภา ไม่มีทีท่าว่าจะจากไปเลยแม้แต่นิด กลับพุ่งเข้ามารวดเร็วยิ่งขึ้น!
เซวียนหยวนเฉิงเรียกได้ว่าเหนื่อยใจ เดิมคิดว่าตัวเองก้าวออกมาอย่างห้าวหาญ จะทำให้เฉินเฉินหนีไปได้

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม