เมื่อได้ยินเสียง เหล่านักพรตต่างก็พากันจ้องมองไปที่กระเป๋าของอันหลิน
ผู้พิทักษ์คนหนึ่งพูดขึ้นอย่างแปลกใจว่า “สหายอันหลิน นายแอบซ่อนหญิงงามไว้นี่นา!”
อันหลิน “…”
เซียนหญิงเมิ่งอินก็พูดด้วยความตกใจเช่นกันว่า “นี่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ! สำคัญที่มันเป็นดอกไม้ เมื่อกี้มันบอกว่าอยากลองดู มีวิธีดีๆ อะไรงั้นเหรอ”
“ไม่ใช่ประเด็นสำคัญอะไรกัน มันไม่ใช่ความจริงซะหน่อย!” อันหลินโต้แย้งเสียงดัง
ไม่มีใครสนใจคำโต้แย้งของเขา เหล่านักพรตต่างก็มองดอกไม้สีแดงดอกนั้นด้วยแววตาเปี่ยมความคาดหวัง
เหล่านักพรตเตรียมจะถอดใจแล้ว ตอนนี้เสี่ยวหงกลับโพล่งออกมาว่าอยากลองดู จุดความหวังของพวกเขาขึ้นมาอีกครั้งอย่างไม่ต้องสงสัย
เสี่ยวหงถูกมองจนรู้สึกเก้อเขิน หดหัวเข้าไปในกระเป๋า พูดเสียงเบาหวิวว่า “ข้าไม่กล้ารับปากว่าจะสำเร็จ เพียงแต่ว่าข้ามีอยู่วิธีหนึ่ง บางทีอาจจะลองดูได้”
อันหลินล้วงเสี่ยวหงออกมา วางลงบนฝ่ามือแล้วพูดเสียงตื่นเต้นว่า “ไม่เป็นไร เจ้าลองบอกวิธีมาก่อนเถอะ!”
เสี่ยวหงจึงปรากฏสู่สายตาของทุกคนด้วยเหตุนี้ ใบหน้าของมันแดงก่ำยิ่งขึ้น แม้จะเป็นสีแดงอยู่แล้วก็ตาม
“อืม คืออย่างนี้ เพราะจุดกำเนิดพลังปราณของข้าจวนจะเป็นรูปเป็นร่างแล้ว ตลอดระยะเวลานี้ ข้าได้พลังวิเศษชนิดหนึ่งมา” เสี่ยวหงเอ่ยเสียงกังวล
ตาของอันหลินเป็นประกาย “พลังวิเศษอะไร”
เสี่ยวหง “พลังวิเศษของข้าสุดยอดเชียวล่ะ ชื่อว่าคาถามหาเสน่ห์!”
…
ผู้พิทักษ์ตกตะลึง “พระเจ้าช่วย สหายอันหลิน นายทำอะไรกับภูตพฤกษากัน ทำไมภูตพฤกษาถึงมีพลังวิเศษชนิดนี้…นาย…แม้แต่ดอกไม้นายก็ไม่เว้นเหรอ!”
เซียนหญิงเมิ่งอินก็อุทานอย่างตกใจ “นี่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ! สำคัญที่มันเป็นดอกไม้ หรือคิดจะใช้พลังวิเศษชนิดนี้ล่อลวงราชาปีศาจอำมหิต!”
อันหลินได้ฟังก็จะร้องไห้อยู่รอมร่อแล้ว “ไม่ใช่ประเด็นสำคัญอะไรกัน มันไม่ใช่ความจริงซะหน่อย! ฉันไม่เคยทำอะไรกับมันทั้งนั้น”
เสี่ยวหงเองก็พยักหน้ารัวๆ แก้ต่างแทนอันหลินว่า “นั่นสิ พวกเจ้าคิดมากเกินไปแล้ว นายท่านดีกับข้าที่สุด สิ่งที่ข้าชอบที่สุดก็คืออ้อมกอดอันอบอุ่นของนายท่าน!”
เมื่อเหล่านักพรตได้ยินประโยคนี้ ก็มองอันหลินด้วยสายตาแปลกพิกล ราวกับกำลังบอกว่า กอดดอกไม้ตลอดทั้งวัน หากไม่วิปริตจะเป็นอะไรได้
อันหลินได้ฟังคำพูดอันน่าขนลุกของเสี่ยวหง น้ำตาก็รื้นขอบตา…
ทำไมภูตตนนี้ถึงชอบทำให้เขาอับอายอยู่เรื่อยเลย
เสี่ยวหงแค่อยากอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับนายท่านให้งดงามเท่านั้น กลับพบว่าเหล่านักพรตเหมือนจะเข้าใจผิดนายท่านยิ่งกว่าเดิม หยดน้ำผุดขึ้นบนดอกไม้โดยไม่รู้ตัว
ในตอนนั้นเอง เซวียนหยวนเฉิงก็พูดขึ้นทันควัน เบี่ยงเบนความสนใจของทุกคน “เสี่ยวหง คาถามหาเสน่ห์ที่เจ้าว่าจะใช้กับราชาปีศาจอำมหิตหรือ มันมีผลลัพธ์อย่างไรกัน”
“อืม คาถามหาเสน่ห์ของข้าจะใช้กับราชาปีศาจอำมหิต สามารถปลุกความคิดในใจของเขาได้ เมื่อความคิดถูกปลุก จะไม่ยอมให้เขาทำสำเร็จ กระตุ้นประสาทและความปรารถนาของเขา จากนั้นให้เขาเชื่อฟังคำข้า!” เสี่ยวหงพูดเสียงหวาน
เซวียนหยวนเฉิงลูบคาง “พูดง่ายๆ ก็คือ…ให้เหล่าหญิงงามยั่วยวนเขาไม่หยุด บีบคั้นจนเขาขาดสติ สุดท้ายยอมจำนนให้กับพลังของเจ้าใช่ไหม”
เสี่ยวหงพยักหน้า “ใช่ๆ เช่นนี้นี่แหละ”
นักพรตหญิงอย่างเถียนหลิงหลิงกับเซียนหญิงเมิ่งอินได้ฟังก็หน้าแดงก่ำ ส่วนหวงซานซานกลับถ่มน้ำลายอย่างไม่สบอารมณ์
แต่ทว่า นักพรตชายกลับดวงตาลุกวาวเมื่อได้ยิน
เซียนกระบี่ชิงเหอนึกขึ้นได้ทันทีว่า “ใช่แล้ว! จากข้อมูลกระจัดกระจายของราชาปีศาจที่สำนักรวบรวมมาได้ ราชาปีศาจอำมหิตตนนี้มีนิสัยมักมากในกาม ไม่แน่ว่าอาจเป็นจุดอ่อนของเขาก็ได้ เริ่มจากจุดนี้ อาจจะสำเร็จก็ได้!”
เหล่านักพรตชายพยักหน้ากันระนาว มองเสี่ยวหงด้วยแววตาเร่าร้อน
อันหลินรู้สึกกังวลใจ “เสี่ยวหง เจ้าจะกลายร่างเป็นหญิงงามมายั่วยวนราชาปีศาจอำมหิตหรือ”
เสี่ยวหงส่ายหน้า “นายท่าน แม้แต่แปลงร่างข้ายังทำไม่ได้ จะกลายเป็นหญิงงามได้อย่างไร พลังวิเศษของข้าจะฉายภาพในสมองของราชาปีศาจอำมหิตโดยตรง ทำให้เขาเกิดความรู้สึกราวกับเกิดขึ้นจริง หากว่าเขาเด็ดเดี่ยวไม่มากพอ เช่นนั้นคาถาของข้าก็จะสำเร็จ!”
นักพรตชายได้ฟังก็ถอนหายใจด้วยความผิดหวัง แต่อันหลินกลับรู้สึกโล่งอกไป
ยังดีที่พลังนี้เป็นเพียงวิชาที่คล้ายคลึงกับคาถาลวงตา
“เอาเถอะ งั้นเจ้าก็ลองดู” ขณะที่พูด อันหลินก็วางเสี่ยวหงลงตรงหน้าราชาปีศาจอำมหิต
“เอ่อ นายท่าน ยังไม่ได้ ตอนนี้ข้ายังขาดวัสดุ!” เสี่ยวหงกล่าว
“วัสดุ?” อันหลินกะพริบตาปริบๆ อย่างมึนงง
เสี่ยวหงโคลงหัว “ต้องสร้างภาพของหญิงงามในห้วงความฝันของราชาปีศาจอำมหิต ข้าต้องการมนุษย์มาเป็นต้นแบบ จากนั้นจำลองหญิงงามออกมาเพื่อทำการยั่วยวน!”


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม