บทที่ 1190 ความเปลี่ยวเหงาไม่รู้จบ – ตอนที่ต้องอ่านของ ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
ตอนนี้ของ ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1190 ความเปลี่ยวเหงาไม่รู้จบ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
บทที่ 1190 ความเปลี่ยวเหงาไม่รู้จบ
หานเหลียงเริ่มสั่นสะท้าน กายเนื้อของเขาค่อยๆ หดเล็กลง
ในเวลานี้เอง สิงหงเสวียนและลี่เหยาปรากฏตัวขึ้นขนาบร่างเขา พวกนางคิดจะพยุงหานเหลียงขึ้นมา ผลคือคือถูกพลังแกร่งกล้าสายหนึ่งดีดกระเด็นออกไป
สตรีทั้งสองมีสีหน้าตื่นตระหนก
“อย่าเข้ามา ข้าไม่เป็นไรขอรับ!”
หานเหลียงกอดสองแขนของตนไว้แน่น เสียงสั่นพร่า เซียนซีเสวียนและพวกเซวียนฉิงจวินก็พากันเดินออกมาจากอารามเต๋าแล้ว
เห็นเพียงว่าหานเหลียงเริ่มหดคู้อยู่บนพื้น ร่างกายหดเล็กลงเรื่อยๆ
เหล่าสตรีไม่สามารถช่วยเหลือหานเหลียงได้ ทำได้เพียงมองเขาเปลี่ยนแปลงจากบุรุษกลายเป็นเด็กหนุ่ม จากนั้นก็กลายเป็นเด็กเล็ก สุดท้ายก็กลายเป็นทารก ประเด็นสำคัญที่สุดคือเขายังคงหดเล็กลงอย่างต่อเนื่อง
พวกนางตื่นตระหนกแล้ว
สิงหงเสวียนหันหลังกลับทันที คิดจะเข้าไปในอารามเต๋าของหานเจวี๋ย ผลคือไม่สามารถเปิดประตูอารามเต๋าได้
คล้ายว่านางจะตระหนักอะไรขึ้นมาได้ พลันสงบอารมณ์ลง
คนที่เหลือเองก็เป็นเช่นนี้
พวกนางล้วนคิดว่าความเปลี่ยนแปลงของหานเหลียงอาจจะเกี่ยวข้องกับหานเจวี๋ย ปกติแล้วหานเจวี๋ยจะไม่ปิดกั้นอารามเต๋าเอาไว้โดยเฉพาะ หากไม่ปล่อยให้สิงหงเสวียนเข้าไป นั่นย่อมหมายความว่าจะต้องเกิดอะไรขึ้นแน่นอน
พวกนางล้วนมีความเชื่อมั่นในตัวหานเจวี๋ยอย่างยิ่ง
มีหานเจวี๋ยอยู่ ถึงฟ้าถล่มลงมาก็ไม่จำเป็นต้องกลัว!
ในไม่ช้าหานเหลียงก็กลายเป็นดวงแสงสีม่วงลูกหนึ่ง เริ่มลอยพุ่งขึ้นไป ลอยออกจากอาณาเขตเต๋ามายังห้วงอวกาศสีม่วง ลอยสูงขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง
ภายในดวงแสงสีม่วง จิตรับรู้ของหานเหลียงยังคงอยู่ด้านใน เขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เห็นเพียงว่าตัวเองกำลังลอยสูงขึ้นไปเรื่อยๆ
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่”
หานเหลียงหวาดผวาอยู่ในใจ ทว่าทำอะไรไม่ได้เลย
เจ้าอวิชชาฟ้าบุพกาลและมหาเทวาผลาญนภาไร้สิ้นสูญปรากฏตัวขึ้น พอเห็นพวกเขา หานเหลียงก็อุ่นใจขึ้นมา
แต่ว่าพอสองผู้สร้างมรรคาทั้งสองยกมือคว้า ลูกแสงสีม่วงกลับทะลุผ่านมือไป ซ้ำยังทำร้ายพวกเขาด้วย
“นี่มันพลังอะไรกัน”
มหาเทวาผลาญนภาไร้สิ้นสูญถามขึ้นมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ
เจ้าอวิชชาฟ้าบุพกาลไม่ได้ตอบ เนื่องจากเขาก็ไม่ทราบเช่นกัน
ลูกแสงสีม่วงพลันเลือนหายไป หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย แม้แต่กลิ่นอายก็ไม่เหลืออยู่เลยสักเสี้ยว
วินาทีนี้ สองผู้สร้างมรรคาเหม่อลอยไปครู่หนึ่ง
เจ้าอวิชชาฟ้าบุพกาลพลันเอ่ยถาม “เหตุใดพวกเราถึงมาปรากฏตัวที่นี่”
มหาเทวาผลาญนภาไร้สิ้นสูญเอ่ยด้วยความแปลกใจ “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน หรือว่าจะถูกชักจูงมาเพราะเหตุอาเพศนี้”
สองผู้สร้างมรรคาพากันจากไป
พวกเขาต่างสงสัยอยู่ในใจ คล้ายจะหลงลืมอะไรบางอย่างไป ด้วยตบะของพวกเขาจะมีอาการหลงลืมไปได้อย่างไร
ความรู้สึกนี้ทำให้พวกเขารู้สึกอึดอัดนัก พวกเขาทำได้เพียงโยนความผิดให้เคราะห์ลึกลับที่กำลังจะมาถึง
….
จิตรับรู้ของหานเหลียงฟื้นฟูกลับมา เขาพบว่าตนล่องลอยอยู่ในโลกมนุษย์ เขาไม่สามารถขยับเขยื้อนหรือเปล่งเสียงได้ ทำได้เพียงลืมตามองฉากเหตุการณ์เบื้องหน้าที่แปรเปลี่ยนไป มีทั้งโลกมนุษย์ โลกขนาดใหญ่ โลกมหามรรค
เขาถึงขั้นที่มองเห็นคนคุ้นเคยบางส่วนด้วย แต่ไม่มีใครสังเกตเห็นเขาเลย
ราวกับเขาเป็นผู้เฝ้ามองทุกสิ่งอยู่รอบนอก อีกทั้งคล้ายตกอยู่ในความฝันที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
ความฝันนี้ยาวนานอย่างยิ่ง
หนึ่งปี
หมื่นปี
ร้อยล้านปี
พันล้านปี
หานเหลียงเคยสิ้นหวัง เคยโกรธเคือง เคยทุกข์ทรมาน สุดท้ายก็กลายเป็นด้านชาไปหมด
เขามองเห็นฉู่เสี่ยวชีพิสูจน์มรรคสำเร็จเป็นผู้สร้างมรรคา ผู้สร้างมรรคาทั้งหมดล้วนไปแสดงความยินดีกับฉู่เสี่ยวชี แต่ไม่มีใครเอ่ยถึงเขาเลยสักคน
แม้แต่บิดามารดาของเขาก็ไม่เคยกล่าวถึงเขาเช่นกัน
ในช่วงที่จิตรับรู้ล่องลอยไป เขาไม่เคยได้ยินสิ่งมีชีวิตใดเอ่ยถึงเขาเลย
ราวกับเขาไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน ความรู้สึกนี้ทำให้เขาแตกสลาย
เขาไม่เข้าใจเลยว่าตนกำลังเผชิญกับสิ่งใดอยู่
ต่อมาเขามองเห็นเงาร่างหนึ่งที่ใช้พลังเวทอันไร้สิ้นสุดทำลายโลกมหามรรคไปทีละแห่งๆ มหาเคราะห์มาเยือนยุคสมัยไร้สิ้นสุดแล้วจริงๆ
จิตใจของหานเหลียงยังคงด้านชาอยู่ เนื่องจากไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ล้วนไม่เกี่ยวข้องกับเขาทั้งสิ้น
‘เหตุใดข้าถึงต้องเผชิญสถานการณ์เช่นนี้…’
‘จะดำเนินไปอีกนานเพียงใดกัน…’
‘ปลายทางของข้าอยู่ที่ใดกันแน่…’
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...