“ยังไม่รีบขอบคุณรัชทายาทอีก!”
อู่จ้านเห็นหลัวเหิงยังอึ้งอยู่จึงรีบเตือน
“ขอบคุณพระคุณยิ่งใหญ่ของรัชทายาทมากขอรับ ข้าน้อยหลัวเหิงตัวแทนค่ายทานหลาง ขอสวามิภักดิ์แด่รัชทายาท จะจงรักภักดีจนตัวตาย!”
ครั้นหลัวเหิงได้สติกลับคืนมาก็คุกเข่าลงทันที คำนับฉินอวิ๋นฟานแรง ๆ!
ฉินอวิ๋นฟานประคองหลัวเหิงขึ้นมาและบอกว่า “คนที่ติดตามข้า ต่อไปก็คือพี่น้องบ้านเดียวกัน ขอเพียงข้าฉินอวิ๋นฟานยังมีหนึ่งเฮือกลมหายใจจะต้องไม่ให้เหล่าพี่น้องได้รับความอยุติธรรม ใครรังแกพวกเจ้าก็คือเป็นศัตรูกับข้าฉินอวิ๋นฟาน ข้าจะให้มันชดใช้อย่างแสนสาหัส”
หลัวเหิงในเวลานี้ถูกมนต์เสน่ห์ของฉินอวิ๋นฟานสยบโดยสิ้นเชิงแล้ว เวลานี้เขาเข้าใจสักที นานหลายปีอย่างนี้แล้วทำไมอู่จ้านยังคงจงรักภักดีต่อรัชทายาท
รัชทายาทเช่นนี้ คู่ควรให้เหล่าพี่น้องทุ่มเทเพื่อเขา!
“หานซิ่นเป็นทหารอัจฉริยะที่ข้ารับมาใหม่ ตอนนี้ข้าจะให้เขาเป็นกุนซือ พวกเจ้าร่วมมือกันดี ๆ พยายามทำให้ค่ายทานหลางแข็งแกร่ง เตรียมตัวทำงานใหญ่”
ฉินอวิ๋นฟานเอ่ย
“น้อมรับคำสั่งรัชทายาท!”
ตอนนี้หลัวเหิงเลื่อมใสฉินอวิ๋นฟานชนิดหมอบราบคาบแก้วแล้ว ย่อมทำตามคำสั่งเขาทุกอย่าง!
“รัชทายาท...ท่านเชื่อใจข้าขนาดนั้นเลยหรือ”
หานซิ่นในชุดซอมซ่อปุปะกรอบตาแดง โชคดีแค่ไหนที่ได้พบนายผู้ปราดเปรื่องเช่นนี้ ไม่มีการถามใด ๆ ไม่มีข้อสงสัย เชื่อเขาสนิทใจ รัชทายาทเช่นนี้ทำให้เขาประทับใจจากก้นบึ้งหัวใจ
“ข้าใช้คนไม่เคยระแวงมาก่อน หากระแวงจะไม่ใช้ หนึ่งทรยศไม่ใช่ชั่วชีวิต นี่คือการให้โอกาสเจ้าหนึ่งครั้ง และให้โอกาสข้าเองหนึ่งครั้งด้วย”
ฉินอวิ๋นฟานตบบ่าของหานซิ่นและพูดว่า “ข้ามอบเวทีให้เจ้าแล้ว แสดงความสามารถบันลือโลกของเจ้าให้ข้าได้เห็นหน่อยเถิด หากมีความลำบากอะไรก็มาหาข้าโดยตรงก็พอ!”
หานซิ่นคุกเข่าลงตุบอยู่หน้าฉินอวิ๋นฟาน กล่าวอย่างจริงจัง “หานซิ่นขอปฏิญาณว่าจะภักดีต่อรัชทายาท ชาตินี้ไม่เสียใจขอรับ!”
......
หลัวเหิงนำเงินแสนกว่าตำลึงกลับค่ายทานหลางพร้อมหานซิ่น ค่ายทานหลางดีใจลิงโลดกันยกใหญ่ ประทับใจกับการกระทำอันมีเมตตาละมีคุณธรรมของรัชทายาทอย่างยิ่ง!
ยามนี้ฉินอวิ๋นฟานกลับถึงตำหนักรัชทายาทแล้ว เขาเดินตรงไปถึงตำหนักปีก หลู่หนีกลับพาลูกศิษย์มารออยู่นานแล้ว เมื่อเห็นฉินอวิ๋นฟานก็รีบค้อมตัวต้อนรับ
“หลู่หนี ในเมื่อเจ้าเข้าร่วมกับข้าแล้ว ก็น่าจะรู้ว่าเรื่องที่เราทำสำคัญมาก ระหว่างเราสำเร็จร่วมกัน หากเล็ดลอดออกไปจะต้องจ่ายในราคามหาศาลแค่ไหนเจ้าน่าจะรู้ดี”
ฉินอวิ๋นฟานเอ่ยเสียงเข้ม
“รัชทายาทโปรดวางใจ เกี่ยวพันกับส่วนรวม ข้าย่อมรู้จักพอดี”
หลู่หนีไม่หยิ่งผยองเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว แต่เอ่ยอย่างจริงจัง “ในเมื่อเลือกเข้าร่วมฝ่ายรัชทายาท ข้าขอรับประกันด้วยเกียรติและศักดิ์ศรี จะภักดีต่อรัชทายาท ร่วมกันสู่ความยิ่งใหญ่แน่นอน!”
มีคำพูดนี้ของหลู่หนี ฉินอวิ๋นฟานวางใจได้แล้ว เขาล้วงภาพวาดหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อแล้ววางตรงหน้าหลู่หนี
“นี่ นี่คือ?”
หลู่หนีเมื่อเห็นภาพที่ละเอียดยิบ ชิ้นส่วนแต่ละชิ้นเล็กมาก ดูจะใหญ่เท่าฝ่ามือแล้วก็ทำเอามึนงงไปหมด
“ของสิ่งนี้เรียกว่าปืนสั้น เป็นสิ่งที่ไร้เทียมทานในการต่อสู้ระยะสั้น พลังการทำลายล้างสูงมาก เจ้าต้องตั้งใจให้ดี รักษาความลับให้ได้ อย่าให้ใครรู้เป็นอันขาด เข้าใจหรือไม่?”
ฉินอวิ๋นฟานเอ่ยเสียงหนัก
“จริงหรือ?”
“แต่ไม่รู้ว่าใครนะ เมื่อวานดูจะดื่มด่ำมากทีเดียว ไม่อย่างนั้นเราก็ไปศึกษาเชิงลึกกันหน่อยเป็นไง?”
“เจ้า เจ้า ต่อให้เจ้าได้ร่างกายข้าก็อย่าคิดว่าจะได้ใจข้า ฉินอวิ๋นฟาน ชาตินี้เจ้าอย่าคิดจะให้ข้ามู่หรงจิ่นปรนนิบัติด้วยความสมัครใจเลย!”
มู่หรงจิ่นกำหมัดแน่น ดวงหน้าสวยจ้องด้วยความโกรธ ในดวงตามีแต่ความแค้นเต็มประดา นางเห็นพรหมจรรย์ดั่งชีวิต แต่กลับถูกรัชทายาทโง่งมชิงไปง่าย ๆ นี่ทำให้นางปวดใจยิ่งนัก
“ไม่ได้ใจเจ้างั้นหรือ? คำพูดนี้เกรงว่าจะเร็วไปหน่อยกระมัง?”
ฉินอวิ๋นฟานท้า “พวกเราเป็นสามีภรรยากัน นี่คือเรื่องที่เจ้าเปลี่ยนแปลงไม่ได้ตลอดชีวิต ข้าสามารถใช้สิทธิ์การเป็นสามีได้ทุกวัน แค่ข้าขยันพอ ทักษะและคุณภาพดีพอ ยังกลัวว่าจะไม่ได้ใจเจ้าหรือ?”
“เจ้า เจ้า เจ้าผีทะเล!”
มู่หรงจิ่นแพ้ให้กับความหน้าด้านของฉินอวิ๋นฟานโดยสิ้นเชิง นางทั้งอายทั้งโกรธอย่างหาที่เปรียบมิได้ก่อนจะพูดว่า “คิดไม่ถึง ข้ามู่หรงจิ่นจะต้องมาเสียตัวให้กับผีทะเลไร้ยางอายอย่างเจ้า ยังเป็นพี่จวิ้นที่ดี ถ้าเขาอยู่ จะต้องไม่หยาบคายเช่นนี้แน่ เทียบกับเขาแล้ว เจ้ามันไม่ใช่คน!”
ทันทีที่ได้ยินมู่หรงจิ่นพูดถึงเหลียงคังจวิ้นต่อหน้าเขา ฉินอวิ๋นฟานหน้าตึงเดี๋ยวนั้น เรื่องต้องห้ามสำหรับผู้ชายก็คือมีสวนหญ้าเขียวขจีอยู่บนหัว[footnoteRef:1] จะร่างกายหรือจิตวิญญาณก็ไม่ได้ทั้งนั้น นี่มู่หรงจิ่นกำลังท้าทายเขาอย่างเปิดเผย [1: ในที่นี้หมายถึงมีชู้]
“ขี้เหล้าที่วัน ๆ เอาแต่ขับกลอนให้ท่า คู่ควรเอามาพูดเปรียบเทียบกับข้าหรือ?”
ฉินอวิ๋นฟานเอ่ยเสียงเย็น
มู่หรงจิ่นพูดดูถูก “เฮอะ แล้วจะยังไง? พี่จวิ้นมีความรู้การศึกษา ความสามารถเหนือคน เทียบกับพี่จวิ้นแล้วเจ้ามันไม่นับเป็นอะไรทั้งนั้น แม้แต่นิ้วเท้าเขานิ้วหนึ่งก็ยังเทียบไม่ติด นอกจะอิจฉา เจ้าก็ได้แต่อาละวาดแบบไม่มีปัญญาต่อหน้าข้า”
สำหรับการใช้วาจาถากถางของมู่หรงจิ่น ได้จุดชนวนไฟโทสะของฉินอวิ๋นฟานแล้ว
“ได้ เจ้าชอบแต่งกลอนมากไม่ใช่หรือ? วันนี้ข้าจะสอนเจ้าบนเตียงสักหน่อยว่าอะไรถึงจะเป็นกลอนที่แท้จริง ถ้าเจ้าฟังแล้วไม่ยอมรับ ข้าจะใช้แซ่ของเจ้าเลย!”
ฉินอวิ๋นฟานอุ้มร่างอ้อนแอ้นของมู่หรงจิ่นขึ้น ไม่ว่านางจะดิ้นอย่างไรก็ดิ้นไม่หลุด นางยิ่งดิ้นฉินอวิ๋นฟานก็ยิ่งคึก สาวเท้ายาวเข้าตำหนักนอน!

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รัชทายาทชะตาฟ้า