บทที่ 226 สาวน้อยผู้ใสซื่อให้ทุกข์แก่ท่านทุกนั้นถึงตัว
ถังซินระงับความไม่สบายใจที่อยู่ในใจ พยายามที่จะแสร้งทำเป็นยิ้มออกมา “คุณเกา คุณพูดจบรึยังคะ?”
“ พูดจบแล้ว”
“ดีค่ะ ถ้าอย่างนั้นตาฉันพูดบ้างนะคะ” ฝ่ายตรงข้ามดูถูกคน ถังซินจึงไม่อยากที่จะไว้หน้าเธอ “สิ่งที่ฉันแตกต่างจากคุณมากที่สุด น่าเป็นเรื่องของภูมิหลังวงศ์ตระกูล”
“ใช่ พ่อแม่ของคุณนั้นดีเลิศ คุณเกิดมาก็ไม่ต้องกังวลเรื่องกินเรื่องใช้ อยากได้อะไรก็มีพร้อม แต่ถ้าดูจากความสามารถ ฉันมองดูแล้วคนอย่างคุณเกาน่าจะไม่มีใครอยากเอาเข้าทำงาน
เธอ— เกาพินถิงถูกว่าจนสีหน้าเปลี่ยน แต่ยังคงมีความอ่อนโยน
ถังซินฉีกยิ้มอย่างเย็นชา “อ้อแล้วก็ ฉันขอเตือนคุณเกาไว้อย่างนะ ถ้าจะเสแสร้งทำเป็นอ่อนโยนก็ควรที่จะดูโอกาสด้วย คุณอยู่ต่อหน้าฉันเสแสร้งแบบนี้จะมีประโยชน์อะไร คุณอยากให้คนที่คุณอยากจะจีบเห็น คุณก็ต้องดูด้วยว่าเขาคนนั้นอยากที่จะฟังหรือสร้างความสัมพันธ์กับคุณมั้ย”
“คุณเกา ถ้าคุณเบื่อจริงๆ คุณก็ไปที่ห้องสมุดหาหนังสืออ่านสักหน่อย อย่างเช่นหนังสือเกี่ยวกับจิตวิทยา วิเคราะห์พฤติกรรม หนังสือพวกนี้จะช่วยในเรื่องของการจีบผู้ชายของคุณได้เยอะเลย”
“ถังซิน เธอไม่เห็นคนอื่นอยู่ในสายตาเลย” หลังจากที่ทำให้โกรธ เกาพินถิงก็ไม่ทำเสแสร้งอีก โกรธและจ้องมองถังซินอย่างดุเดือด “เธอรู้มั้ยว่าพ่อฉันเป็นใคร?”
“คุณรอก่อน”
ถังซินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและค้นหาครอบครัวที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลวี่ หานามสกุลเกา จากนั้นก็เข้าใจแจ่มแจ้งว่า “ว้าว ที่แท้พ่อของเธอก็คือ เจ้าหน้าที่อาวุโสเกา เยี่ยมยอดมาก”
เกาพินถิงคิดว่าเธอเริ่มที่จะกลัวแล้ว จึงยิ้มแบบเหยียดหยามออกมา “ใช่แล้ว ตระกูลฉันมีอำนาจและอิทธิพล สามารถที่จะทำให้เธออยู่ประเทศzได้อย่างไม่เป็นสุขได้ตลอดเวลา”
“ เธอต้องพูดอธิบายกับสื่อมวลชนเรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับพี่เหวินถิง พูดตามที่ได้เขียนร่างไว้ หากเธอทำได้ดี ฉันจะปล่อยเธอไป ไม่อย่างนั้นถ้าเธอไม่ทำ ฉันจะทำให้บริษัทของเธอไม่รับเธอเข้าทำงานไม่ว่าจะตำแหน่งใดๆ ทำให้น้องเธอโดนไล่ออกจากโรงเรียน ถ้าประวัติการศึกษาของน้องเธอด่างพร้อย ต่อไปก็จะหางานยาก!”
เกาพินถิงเอาเอกสารฉบับหนึ่งโยนลงที่บนโต๊ะด้วยท่าทางที่เย่อหยิ่ง
ถังซินหยิบเอกสารนั้นขึ้นมา หลังจากที่กวาดตาอ่านอย่างรวดเร็วแล้ว เธอก็ยิ้มหัวเราะขึ้นมา “ฉันหน้าไม่อาย โผเข้าหาคุณวี่ที่บนเตียง? คุณกาว คุณก็สามารถเขียนได้นะ สุดยอดมาก!”
“ เธอจะสนใจเนื้อหาทำไม ถึงเวลานั้นก็แค่อ่านตาม” เกาพินถิงไม่พอใจเธอเป็นอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าเธอได้พูดขู่ไปหมดทุกอย่างแล้ว แต่ถังซินกลับไม่กลัวแม้แต่นิดเดียว
ถังซินยิ้มออกมาเบาๆ คุณให้ฉันคุยโทรศัพท์ก่อน แล้วค่อยตัดสินใจว่าจะพูดยังไงกับคุณ
เส้นประสาทของเธอใกล้จะเกร็งไว้ไม่อยู่แล้ว
ถังซินกดโทรศัพท์หากวนชิงเฟิง โชคดีที่กวนชิงเฟิงรับสายเร็ว เธอจึงเอ่ยถามขึ้นว่า “ชิงเฟิง ถ้ามีคนสมคบกับครูที่โรงเรียน ให้ข้อกล่าวหานาย นายจะกลัวมั้ย?”
กวนชิงเฟิงหัวเราะอย่างจองหอง “คุณครูพวกนั้นอยากที่จะให้ผมช่วยงานจะแย่ จะกล้าไล่ผมออกได้ยังไง”
“ เธอเก่งขนาดเลยหรอ?”
“อันนี้เกี่ยวกับผู้ที่มีความสามารถโดดเด่นของโรงเรียนในแต่ละจังหวัด” กวนชิงเฟิงเอ่ยขึ้น “นอกจากนั้น หลังจากนี้ฉันก็สามารถเข้าMSได้เลย สถาบันที่ไหนดีๆพวกเขาต่างต้องเกรงใจฉัน”
ประโยคแรกๆที่เขาพูดนั้นถังซินเข้าใจ แต่ประโยคท้ายๆนั้นรู้สึกงง “MSคืออะไร”
“อันนี้ไม่สามารถบอกพี่ได้ กวนชิงเฟิงพูดเปลี่ยนเรื่องขึ้นมา พี่ พี่เจอปัญหาอะไรหรอ?”
“เรื่องเล็ก แต่ฉันแก้ปัญหาได้ ถ้าอย่างนั้นฉันวางสายแล้วนะ” ถังซินวางสายโทรศัพท์ ในใจรู้สึกผ่อนคลาย
ตอนนี้เธอสามารถเกลียดชังคนอื่นโดยไม่กระดากใจ
เกาพินถิงหมดความอดทน “เธอนี่ไม่มีมารยาทจริงๆ คุยกับฉันยังจะไปคุยโทรศัพท์อีก”
“คุณเกาไม่มีมารยาทกับฉันก่อน ยังไงฉันก็ไม่เกรงใจคุณแน่นอน” ถังซินฉีกเอกสารฉบับนั้นทิ้ง “ร่างคำพูดที่น่ารังเกียจขนาดนี้ฉันอ่านไม่ได้หรอก”
“ถังซิน เธออยากเป็นศัตรูกับฉันใช่มั้ย” การกระทำของเธอทำให้สีหน้าของเกาพินถิงนั้นโกรธแค้น “ดูแล้วเธอไม่ค่อยสนใจครอบครัวหรือน้องชายของเธอเลยนะ?”
ถังซินตีหน้าผาก “เฮ่ย รู้อย่างนี้เมื่อสักครู่ที่คุยโทรศัพท์เปิดลำโพงให้คุณได้ยินดีกว่า”
เธอลุกขึ้นทันทีทันใด เอามือทาบไว้ที่บนโต๊ะ และเข้าไปใกล้เกาพินถิง “คุณเกา คุณชอบวี่เหวินถิง หาวิธีจีบเขาก็ได้แล้ว อย่าเอาความโกรธมาลงที่ฉัน”
ทุกวันนี้มีเงินแล้วคิดจะทำอะไรก็ได้อย่างนั้นหรอ ถ้าคุณกล้าแตะต้องคนในครอบครัวฉัน ฉันจะทำให้สาวน้อยผู้ใสซื่ออย่างเธอเธอออกจากห้องอากาศอุ่นๆ มาดูด้านมืดของโลกใบนี้
พลังที่ออกมาจากตัวถังซินนั้นทำให้คนรู้สึกตกใจกลัว โดยเฉพาะแววตาของเธอ ดุร้ายและเยือกเย็น ในเวลานั้นทำให้เกาพินถิงตกใจกลัว ร่างกายอ่อนปวกเปียกอยู่บนเก้าอี้ ไม่สามารถขยับตัวได้
ถังซินเอาเงินออกมาวางบนโต๊ะ “วันนี้ฉันเลี้ยงกาแฟคุณเกา”
เธอหยิบกระเป๋าแล้วกำลังเดินออกไป
เกาพินถิงถูกยั่วโมโหและเมื่อเห็นถังซินกำลังจะเดินออกไป จึงรีบหยิบขวดสีน้ำตาลออกมาจากกระเป๋าหนึ่งขวด และยื่นออกไปทางถังซิน พร้อมทั้งตะโกนเรียก “ถังซิน!”
ถังซินหันมาโดยไม่รู้ตัว เหมือนกับได้กลิ่นของกรดซัลฟูริกและเห็นเกาพินถิงกำลังเอาขวดนั้นสาดมาที่ตนเอง แต่เธอปฏิกิริยาสวนกลับเร็ว จึงเอากระเป๋าตีกระแทกไปทางเกาพินถิงอย่างแรง
เกาพินถิงถูกกระแทกตีโดยไม่ทันได้ตั้งตัว รองเท้าส้นสูงเลยพลิกและล้มลงไป เนื่องจากแกว่งโยกตัวทำให้ของเหลวที่อยู่ในขวดได้หกและรดลงบนแขนและใบหน้าของเธอ
โอ๊ย! เจ็บ! เจ็บมาก! อาการปวดแสบปวดร้อนบนแขนทำให้เกาพินถิงร้องออกมาเสียงดังแหลม เธอล้มกลิ้งอยู่ที่พื้น มืออยากจะคลำ แต่ก็ไม่กล้าคลำไปที่หน้า
เกาพินถิงเจ็บจนร้องเสียงดังออกมา “หน้าฉัน! หน้าฉัน!”
ถังซินตกใจเป็นอย่างมาก คาดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้จะพกกรดซัลฟูริกมาด้วย เมื่อสักครู่ถ้าหากไม่ตอบสนองเร็ว หน้าของตนเองคงจะถูกทำลายแล้ว เสียงร้องของเกาพินถินดึงให้คนในร้านกาแฟหยุดยืนมอง และถังซินได้ต่อสายโทรศัพท์ไปที่ศูนย์กลางแผนกฉุกเฉิน
“ถังซิน ทำไมเธอถึงทำกับฉันแบบนี้” เกาพินถิงเห็นว่าบริเวณนั้นมีคนเยอะ จึงร้องออกมาอย่างเจ็บปวด หน้าตาเจ็บปวดอย่างน้อยใจ “เธอแย่งแฟนฉัน ฉันขอให้เธออยู่ห่างจากเขา แต่เธอกลับมาคุกคามฉัน”
“ ฮือฮือ หน้าฉันเจ็บมากเลยทำไมเธอถึงโหดร้ายแบบนี้”
“ฉันขอร้องเธอหล่ะ คืนพี่เหวินถิงให้ฉัน เธอไม่ได้รักเขาอย่างจริงใจ”
“ เธออย่าทำล้อเล่นกับพี่เหวินถิงเลย”
เกาพินถิงพูดออกมาอย่างเศร้าโศก บนแขนและหน้า ต่างก็ถูกทำเสียหาย ทำให้คนอื่นตกตะลึงต่อภาพที่เห็น ความอ่อนโยนของเธอทำให้คนดูเกิดความเห็นใจ
ทุกคนเริ่มที่จะจ้องมองถังซินด้วยสายตาที่ดูถูก “เมียน้อยคนนี้ช่างกำเริบเสิบสาน แย่งแฟนคนอื่น และยังเอากรดซัลฟูริกสาดเธออีก ดุร้ายจริงๆ!”
ถังซินมองไปรอบๆตัว จำเป็นที่จะต้องบอกว่าเกาพินถิงนั้นฝีมือระดับสูงจริงๆ เลือกมุมกล้องที่ดี เธอคาดเดาได้ว่าการเจรจาพูดคุยจะต้องพัง ดังนั้นจึงเตรียมที่จะลงมือกับเธออย่างโหดร้าย
“ คุณเกา ฉันประเมินคุณต่ำไปแล้ว” ถังซินยิ้มอย่างเยือกเย็น “ช่างเสียดายจริงๆที่ไม่ได้เป็นนักแสดง”
เกาพินถิงยังคงร้องไห้ “ฉันขอร้องเธอเถอะนะ คืนพี่เหวินถิงให้กับฉัน ขอเพียงแค่เธอคืนเขาให้ฉัน เรื่องราวในวันนี้ฉันจะไม่โต้เถียงกับเธอ ในเวลานี้เองประตูร้านกาแฟก็เปิดออก วี่เหวินถิงเดินเข้ามา เมื่อเห็นตรงนั้นล้อมรอบไปด้วยคนจึงเข้าไปแหวกคนให้แยกออก และมองเห็นเกาพินถิงที่นอนอยู่บนพื้น
วี่เหวินถิงเข้าไปพยุงเธอ และทำสีหน้าเยือกเย็น “เกิดอะไรขึ้น”
พี่เหวินถิง เมื่อเกาพิงถิงเห็นเขาก็ร้องออกมาหนักกว่าเดิม สีหน้าเต็มไปด้วยความน้อยใจ “ฉันนัดคุณถังออกมาคุยธุรกิจ แต่เธอกลับสาดกรดซัลฟูริกใส่ฉัน หน้าฉันเจ็บมากเลย”
ผู้คนโดยรอบต่างเป็นพยานให้กับกาวพินถิง
ถังซินเม้มปากแน่น “คุณวี่ ถ้าฉันอยากจะบอกคุณว่าเป็นเธอต่างหากที่คิดจะสาดกรดซัลฟูริกใส่ฉัน คุณจะเชื่อไหม?”
“ พี่เหวินถิง บนตัวฉันเจ็บมากเลย” เกาพินถิงเรียกร้องความสนใจจากวี่เหวินถิง และร้องไห้ออกมาอย่างอ่อนแอ “หน้าของฉันจะเสียหายมั้ย?”
“ฉันจะส่งเธอไปโรงพยาบาล” สีหน้าของวี่เหวินถิงเย็นชา
เขาไม่ได้โง่ เขารู้ว่าเกาพินถิงนั้นโง่ขนาดไหน ต้องเป็นเธอที่ทำร้ายถังซินก่อนแน่นอน แต่กลับถูกถังซินโต้ตอบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน
สนุกมากๆๆๆ...