รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน นิยาย บท 227

บทที่ 227 ฉันจะแต่งงานกับครู

แต่ว่าเขายังนึกถึงหน้าของคนตระกูลวี่และตระกูลเกา

วี่เหวินถิงรีบอุ้มเกาพินถิงออกไปจากร้านกาแฟอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นมู่เฉินหย่วนที่รออยู่ข้างทางเขาจึงพูดออกไปว่า “ฉันจะไปส่งเธอโรงพยาบาล ถังซินยังอยู่ข้างในร้าน”

เมื่อได้ยินดังนั้น แววตาของมู่เฉินหย่วนก็เคร่งขรึมขึ้นมาทันที

เขากำลังจะไปจัดการธุระกับวี่เหวินถิง คิดไม่ถึงว่าเมื่อวี่เหวินถิงเห็นในโทรศัพท์ ก็ขับรถมาที่ร้านกาแฟนี้

มู่เฉินหย่วนลงรถ แววตามองไปที่เกาพินถิงอย่างดุร้าย “อย่ามาแสร้งทำเป็นบริสุทธิ์ไร้เดียงสา ถ้าฉันเห็นบนตัวถังซินมีรอยแผลแม้แต่นิดเดียว พี่ใหญ่ฉันก็ปกป้องเธอไม่ได้”

เกาพินถิงถูกมู่เฉินหย่วนขู่ให้กลัวจนตัวสั่น รีบซบเข้าในอ้อมอกของวี่เหวินถิง

ถังซินถูกทิ้งให้อยู่ในร้านกาแฟคนเดียวซึ่งในตอนนั้นสถานการณ์ไม่ค่อยดีนัก ถูกคนกลุ่มหนึ่งล้อมไว้ แต่ละคนได้จ้องมองเธอ เหมือนกับเป็นผู้กล้าที่รักคุณธรรมอยากที่จะแก้ไขเรื่องการกระทำที่ชั่วร้าย

ถังซินมองดูโดยรอบและพูดขึ้นว่า “แม้แต่เรื่องราวพวกคุณก็ยังไม่รู้ชัดเจน อย่ามายืนมั่วๆ ถ้ายังมาขวางทางฉัน ฉันจะแจ้งตำรวจ”

มีคนพูดประณามขึ้นว่า “พวกเราเห็นชัดเจน! เธอแย่งแฟนของผู้หญิงคนนั้น และยังสาดกรดซัลฟูริก”

“ใช่ พวกเราไม่แจ้งตำรวจก็บุญแล้ว!”

ถังซินพยายามที่จะเบียดออกไป ผู้หญิงคนหนึ่งดันเธอกลับเข้าไปอย่างแรง และพูดด่าขึ้นว่า “สามีฉันถูกเมียน้อยยั่วยวนจึงจากไป ชีวิตนี้ฉันเลยเกลียดเมียน้อยมาก ทางดีๆไม่เดิน ต้องมาทำลายชีวิตครอบครัวคนอื่นเขา คนอย่างเธอควรที่จะถูกประจานให้ทุกคนเห็น ดูสิ ว่าเธอจะกล้าไปยั่วยวนผู้ชายไปเรื่อยอีกมั้ย!”

ผู้หญิงคนนั้นพูดด่าและฉุดดึงเสื้อผ้าของถังซิน

มีคนนำคนอื่นก็เลยทำตาม หลายมือฉุดดึงไปที่บนตัวของถังซิน ออกแรงดึงผมของเธอ ถังซินใช้กำลังต่อต้านจนสุดความสามารถ ใช้มือในการปกป้องตัวเองไว้

ผู้หญิงที่พูดด่าถังซินออกแรงดึงอย่างแรง แทบอยากที่จะเอาถังซินประจานต่อสาธารณะ วินาทีต่อมาผมของเธอถูกคนกุมภ์จับไว้ หญิงสาวร้องดังเสียงแหลมขึ้นมา ตรงท้องก็ถูกตีด้วยเท้า

ผู้หญิงที่ฉุดดึงถังซิน คนที่ดึงผม และคนที่ถีบ ล้มลงไปอยู่กับพื้นทีละคน

มู่เฉินหย่วนใช้เสื้อโค๊ทคุมตัวถังซินไว้แน่นและดึงเข้ามาอยู่ในอ้อมอก และมองไปที่ทุกคนอย่างเย็นชา พลังกดดันนั้นทำให้ทุกคนแทบจะหยุดหายใจ

“ผมไม่ลงไม้ลงมือกับผู้หญิง แต่กับผู้หญิงที่น่าเกลียดนั้นเป็นข้อยกเว้น” มู่เฉินหย่วนพูดออกมาอย่างเย็นชา “ผู้หญิงน่าเกลียดที่ตีคนของผมในวันนี้ จะไม่มีใครได้ออกไปจากร้านกาแฟอย่างแน่นอน”

ผู้หญิงคนนั้นปีนขึ้นมาจากด้านล่าง และชี้ด่าไปที่เขา “นายด่าใครว่าเป็นผู้หญิงที่น่าเกลียด ไอ้เลว! ผู้หญิงคนนี้ยั่วยวน แถมไม่รู้ว่าเคยนอนกับผู้ชายมากี่คนแล้ว เธอแย่งแฟนของผู้หญิงคนอื่น และยังทำให้ผู้หญิงคนนั้นเสียโฉม เธอสมควรโดนแล้วนะ!”

ผู้หญิงคนนั้นถูกมู่เฉินหย่วนถีบจนลอยขึ้นไปและกระแทกเข้ากับโต๊ะ

มู่เฉินหย่วนโกรธไปทั้งตัว ทำให้ทุกคนตกใจกลัวเป็นอย่างมาก ถ้าเธออ้าปากด่าออกมาอีกคำ “ฉันจะตัดลิ้นเธอออก!”

คนที่อยู่รอบๆต่างหวาดกลัวเขาแล้ว

ไม่นานตำรวจก็มาถึง และจับตัวคนที่ทำร้ายให้ได้รับโทษตามกฎหมาย

“มีสิทธิ์อะไรมาจับพวกเรา ผู้หญิงคนนั้นเป็นเมียน้อย”

“พวกเราแค่กำลังสั่งสอนเธอเท่านั้น”

ผู้หญิงที่ถูกจับพูดเสียงดังเอะอะโวยวาย ไม่อยากให้ตำรวจพาตัวไป และยังร้องโหยหวนเสียงดังเหมือนกับอยากที่จะให้คนที่อยู่ด้านนอกร้านกาแฟเห็น

“ยังดีที่ฉันมีวิธีรับมือที่ดีกว่า” หลังจากที่รู้สึกดีขึ้นแล้ว ถังซินก็ได้หยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเสื้อและเปิดฟังเสียงที่ได้บันทึกไว้

ดังนั้นเธอจึงเอาคำพูดที่คุยกับเกาพินถิง ให้คนที่อยู่ในร้านกาแฟฟัง

หลังจากที่ทุกคนได้ฟังคำพูดคุกคามพวกนั้นที่เกาพินถิงได้พูดกับถังซิน สีหน้าค่อยๆประหลาดใจขึ้น คิดไม่ถึงว่าเรื่องราวจะเป็นแบบนี้ ที่แท้ถังซินเป็นผู้ถูกทำร้าย

ถังซินเอามือถือให้ตำรวจ “อันนี้สามารถเป็นหลักฐานได้มั้ยคะ? ถ้าคุณเกาใส่ร้ายฉันอีก รบกวนพวกคุณจัดการตามที่เหมาะสมด้วย”

ตำรวจรีบพยักหน้า “คุณวางใจได้ พวกเราจะต้องจัดการอย่างยุติธรรมและตรงไปตรงมาแน่นอน!”

ผู้หญิงพวกนั้นไม่อยากไปรับใบแจ้งโทษที่สถานีตำรวจ ต่างพากันพูดขอโทษถังซินทีละคน ถังซินนึกถึงการกระทำของพวกเขาเมื่อสักครู่นี้ และยังจับแขนเธอจนเลือดออก เธอจึงไม่สนใจฟังแม้แต่นิดเดียว

หลังจากที่ออกมาจากร้านกาแฟ มู่เฉินหย่วนอยากพาถังซินไปโรงพยาบาล

“ แผลแค่เล็กน้อยเท่านั้น ไปโรงพยาบาลยุ่งยากเปล่าๆ” ถังซินไม่อยากไปต่อคิวในตอนกลางวัน จึงไปซื้อไอโอโดฟอร์และผ้าพันแผลจากร้านขายยาใกล้ๆ

เมื่อมู่เฉินหย่วนเห็นรอยแผลที่โดนขีดข่วนบนแขนอันขาวนวลของถังซิน แววตาจึงอึมครึมขึ้นมา

เขาอยากให้ผู้หญิงพวกนั้นอยู่ในคุกซักครึ่งเดือน!

มู่เฉินหย่วนใช้ไอโอโดฟอร์ฆ่าเชื้อที่แผลของเธอ และเอ่ยถามขึ้นว่า “เกาพินถิงมาหาเธอเพราะเรื่องที่เกี่ยวกับข่าวหรอ?”

“ใช่ค่ะ เธอแสร้งเอาเรื่องความร่วมมือทางธุรกิจมาบังหน้าเพื่อที่จะมาเจอกับฉัน” ถังซินขมวดคิ้ว “คิดไม่ถึงว่าแผนการของเธอจะล้ำลึกขนาดนี้ และคาดไม่ถึงว่าเธอจะพกกรดซัลฟูริกมาด้วย”

“สาดโดนตัวเธอบ้างมั้ย?”

ขณะที่พูด มู่เฉินหย่วนก็พลิกดูตามเสื้อผ้าของเธอ ถังซินเริ่มหน้าแดง รีบจับกดมือเขาไว้ “คุณมู่ คุณอย่าลูบจับผู้หญิงซี้ซั้ว มันจะเหมือนกับคนโรคจิต”

มู่เฉินหย่วนก็รู้ตัวว่าการกระทำชักจะเลยเถิดแล้ว จึงดึงมือกลับ

บนแผลที่ทาไอโอโดฟอร์นั้นเย็นๆ ถังซินทอดถอนใจ และบ่นออกมาว่า “ฉันกับคุณวี่นี่อาฆาตอะไรกันนะ ตอนแรกถูกแม่ของเขาเรียกหาก่อน และยังถูกคนที่เขาชอบเรียกหาอีก ดีนะที่ฉันกับเขาไม่ได้มีอะไร ถ้าขืนหากมีอะไรจริงๆ ชีวิตคงดำเนินไปอย่างยากลำบาก”

“เธอยังอยากจะมีอะไรบางอย่างกับเขาหรอ?” มู่เฉินหย่วนทำน้ำเสียงเคร่งขรึมและไม่สบายใจเป็นอย่างมาก

ถังซินส่ายหัว “ไม่ไม่ ฉันไม่กล้าคบคนที่มีฐานะสูงกว่าเหมือนคุณวี่ รอให้ฉันเก็บเงินได้พอแล้ว ฉันจะหาครูมาหนึ่งคนและใช้ชีวิตด้วยกันอย่างเรียบง่าย”

มู่เฉินหย่วนทำหน้าเศร้า ความโกรธนั้นอัดแน่นอยู่ภายในใจ “คุณเปลี่ยนใจเร็วขนาดนี้เลยหรอ ไม่กี่เดือนก่อนยังอยากที่จะสารภาพรักกับฉันอยู่เลย ตอนนี้อยากที่หาคุณครูแล้วหรอ?

ผู้หญิงคนนี้ไม่มีหัวใจ

“มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีการคิดไตร่ตรอง เปลี่ยนใจแล้วยังไง?” ถังซินพูดอย่างไม่เป็นธรรมชาติ “ฉันบอกแล้ว มันเป็นเรื่องของไม่กี่เดือนที่ผ่านมา”

ในขณะที่เธอพูดพร่ำไม่หยุด มู่เฉินหย่วนได้ตั้งใจจูบไปที่ริมฝีปากของเธออย่างแรง

ผ่านไปสักพักถึงจะหยุดลง

คุณ— ถังซินใช้มือปิดปาก ทั้งโกรธทั้งโมโห “คุณมู่ คุณไม่อายหรอ? ตอนนี้การกระทำของคุณก็ไม่ต่างกับพวกอันธพาล!”

“ไม่ใช่ว่าเธอบังคับกดดันฉันหรอ?”

“ คุณเอาเปรียบฉัน แล้วยังจะมาโทษฉันอีก?”

“โดนผู้หญิงอย่างเธอบังคับกดดันยังไงก็ไม่อายแล้ว” มู่เฉินหย่วนจับไปที่คางอันอวบอิ่มของเธอ แล้วเอ่ยออกมาอย่างคุกคามว่า “ฉันให้โอกาสเธอ แก้ไขคำพูดที่พึ่งพูดไปเมื่อสักครู่ซะ แล้วพูดออกมาใหม่อีกครั้ง”

ถังซินตีมือเขาออกและพูดยั่วยุขึ้นว่า “ฉันอยากจะแต่งงานกับคุณครู ถ้าจะให้ดีต้องเป็นครูสอนศิลปะ”

“คุณถัง คุณลองคิดดูให้ดีอีกครั้ง” มู่เฉินหย่วนเริ่มที่จะไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล “ถ้าฉันอารมณ์ไม่ดี เอาตัวซือซือไปเรียนเพิ่มเติมที่ต่างประเทศ น้องของคุณก็จะไม่ได้เจอกับซือซืออีก”

“คุณพูดอย่างใช้เหตุผลหน่อยได้มั้ย” ถังซินจ้องมองเขาด้วยความโกรธ “เด็กๆเป็นคู่รักที่ดี คุณยังอยากที่จะทำลายพวกเขาหรอ? เธอไม่ใช่น้องสาวของคุณหรอ?”

“ เธอทำให้ฉันคิดได้ว่า ฉันจะต้องหาคุณชายบ้านรวยมาแต่งกับเธอ ได้ยินเหวินซูบอกว่า มีคุณชายที่เป็นนายทุนคอยตามจีบซือซือตลอด”

ถังซินทอดถอนหายใจอย่างแรง และขอโทษด้วยความนอบน้อมและจริงใจ “เมื่อสักครู่ฉันพูดผิดไป หวังว่าคุณมู่จะไม่ถือสา”

“ เธอผิดตรงไหน?”

“ฉันคิดเยอะไป ไม่ควรพูดว่าจะแต่งกับคุณครู”

ริมฝีปากอันบางของมู่เฉินหย่วนก็ได้ปลิยิ้มออกมา คล้ายกับพึงพอใจมาก “สิ่งที่ไม่ควรคิด คุณถังก็อย่าไปคิดมันเลย”

ถังซินรู้สึกเอือมเขาอยู่ในใจ

หลังจากที่จัดการกับแผลเรียบร้อยแล้ว มู่เฉินหย่วนอยากที่จะไปส่งเธอ ในขณะที่กำลังโบกรถอยู่ข้างทาง เขาก็ได้รับโทรศัพท์สายหนึ่ง

เมื่อได้วางสายไปแล้ว รถก็มาถึง เขาเปิดประตูและให้ถังซินขึ้นไป สีหน้าไม่ค่อยดีนัก “เธอกลับไปก่อน ฉันจะไปโรงพยาบาลซักหน่อย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน