รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน นิยาย บท 230

บทที่ 230 ตรวจสอบแหวนไพลินวงนี้

“พี่ใหญ่ทำไมพี่ทำแบบนี้” เฉินคางสงสารแฟนสาว อยากที่จะคุยกับกวนชิงเฟิงด้วยเหตุผล หลังจากที่ถูกเขาจ้องมองอย่างเยือกเย็น จึงคิดได้ว่าตนเองสู้กวนชิงเฟิงไม่ได้ หวาดกลัวแล้ว

เฉินคางตักอาหารให้กวนหลิงเอ๋อ และพูดปลอบ “กินหมูน้ำแดงนะ พวกเราไม่โต้เถียงกับเขาแล้ว”

กวนหลิงเอ๋อ…

เจ้าคนไร้ประโยชน์ แม้แต่น้องชายของเธอยังสู้ไม่ได้

ในขณะที่คุยกัน ถังซินได้รู้จากเฉินคางว่า กวนหลินเอ๋อได้ถ่ายหนังที่ต่างประเทศเสร็จแล้ว เฉินคางมีธุระ กลัวว่าเธออยู่ต่างประเทศคนเดียวจะไม่ปลอดภัย จึงส่งกลับมา

ถังซินเอ่ยถามขึ้น “ไปคุ้มครองผู้มีอำนาจบางคนหรอ?”

“ไม่ใช่ ผมต้องไปประเทศตุรกีอีกครั้ง” ในตอนนั้นถังซินก็อยู่ที่ประเทศตุรกี เคยผ่านประสบการณ์งานนั้นมา เฉินคางจึงพูดอย่างไม่ปิดบังเธอ “อาทิตย์ที่แล้ว โรงงานที่จัดเตรียมให้กับชาวไร่ได้เกิดการระเบิดขึ้น”

“มีคนได้รับบาดเจ็บหรือตายมั้ย?” ถังซินรีบถามอย่างกังวล คนพวกนั้นคือคนที่เธอพาออกมาจากหมู่บ้าน

เฉินคางถอนหายใจ “ค่อนข้างสาหัส ชาวไร่หกคนและเด็กอีกสามคนตาย ชาวไร่สามคนและเด็กอีกหนึ่งคนยังหาไม่พบ ผมไปเพื่อที่จะไปช่วยหาคนที่หาย”

“โรงงานอยู่ภายใต้การบริหารของบริษัทมู่ซื่อ คนธรรมดาไม่กล้าแตะต้อง” กวนชิงเฟิงจี้ถูกจุดสำคัญ “ตอนแรกตอนที่เราไปที่หมู่บ้านนั้น มีคนกลุ่มหนึ่งคิดอยากที่จะแย่งชิง”

“ใช่” เฉินคางลูบคลำไปที่หลังคอ แล้วเอ่ยขึ้นว่า “ผมได้ยินมาว่าเซลล์ในตัวของชาวไร่พวกนั้นสามารถเกิดใหม่ได้ ช่วยรักษาความอ่อนเยาว์ มีหน่วยงานบางแห่งอยากที่จะเอาเลือดพวกเขาไปทำวิจัย”

กวนหลินเอ๋อดึงแขนของเฉินคาง และพูดอย่างตื่นเต้นขึ้นว่า “ถ้าอย่างนั้นนายเอากลับมาประเทศซักคนได้มั้ย ให้หมอพวกนั้นทำวิจัย ฉันก็อยากจะรักษาความอ่อนเยาว์ตลอดไป”

เฉินคางส่ายหน้า “ไม่ได้ พวกเขาเป็นคนพื้นเมืองของประเทศตุรกี ถึงแม้ว่าบริษัทมู่ซื่อเครือข่ายกว้างขวาง แต่ไม่ใช่เรื่องที่จะร่วมมือกับประเทศอื่นได้ และอีกอย่างพวกเขาก็ไม่สามารถรักษาความอ่อนเยาว์ได้ตลอดไป ได้ยินว่ามาอายุห้าสิบก็เสียชีวิตแล้ว”

“ไม่ใช่ว่าเซลล์สามารถเกิดใหม่ได้หรอ ทำไมถึงไม่อายุยืนและไม่แก่?”

“อันนี้ก็ไม่แน่ใจ” เฉินคางหอมที่แก้มเธอหนึ่งที ยิ้มตาหยีและพูดขึ้นว่า “ถ้าต่อไปเธออายุแก่เจ็ดแปดสิบแล้ว แต่เธอก็ยังสวยที่สุดในใจฉัน”

“ปากหวานจริงๆ” กวนหลินเอ๋ออายจนตีไปที่เขา

ถังซินก้มหน้าครุ่นคิด

ตอนแรกเธอเป็นคนพามู่เฉินหย่วนไปที่หมู่บ้านนี้ จึงรู้ความลับของพืชชนิดนั้น นานมากมาแล้ว เธอคิดว่าเรื่องราวจะจบสิ้นแล้ว คิดไม่ถึงว่ายังมีคนคอยแอบจ้องชาวไร่พวกนั้น

พืชที่ทำให้เซลล์ของคนเกิดใหม่ได้ สามารถเพิ่มอายุขัยของคนทางอ้อม ใครรู้ก็ต้องบ้าคลั่ง

หลังจากกินข้าวเสร็จแล้ว เธอจึงเรียกกวนชิงเฟิงเข้ามาในห้องเพียงลำพัง เอาแหวนไพลินวงนั้นให้เขา

“ชิงเฟิง คนที่อยู่รอบข้างฉันที่เชื่อถือได้ก็มีแต่นาย” ยังไงก็เป็นน้องแท้ๆ และยังชำนาญด้านคอมพิวเตอร์ ถังซินเชื่อใจเขาร้อยเปอร์เซ็นต์ “นายช่วยฉันตรวจสอบแหวนไพลินวงนี้”

กวนชิงเฟิงพลิกดูแหวนไปมา “ดูจากตัวแหวนน่าจะเป็นของเก่าเมื่อหลายสิบปีแล้ว พี่เอาแหวนนี้มาจากไหน ทำไมจะต้องตรวจสอบมันด้วย?”

ถังซินพูดออกมาเรื่อยเปื่อย “เอามาจากเพื่อนคนหนึ่ง ก็เพราะว่าดูแล้วเป็นของที่ทำขึ้นในสมัยก่อน ดังนั้นจึงให้นายตรวจสอบดูหน่อย อยากดูว่าใครเป็นคนทำมันขึ้นมา”

ขอเพียงแค่หาคนที่ทำแหวนวงนี้เจอ เรื่องที่เหลือก็จะง่ายขึ้นมาก ยังไงไพลินแบบนี้ คนธรรมดาซื้อไม่ได้หรอก ช่วงเวลาที่สั่งทำจะต้องมีจดบันทึกไว้แน่นอน

และอีกอย่าง วันนั้นไปขอพรที่วัดกับหลินเฉิงจี๋ ที่เธอเห็น…

“ได้ ถ้ามีเวลาฉันจะตรวจสอบให้” กวนชิงเฟิงเก็บแหวนไว้

และยังมีอันนี้ ถังซินเอารูปภาพใบหนึ่งยื่นให้เขา “เขาคือรองประธานจ้าวของบริษัทมู่ซื่อ ช่วยฉันสืบหน่อย”

“คนคนนี้ฉันรู้จัก” กวนชิงเฟิงจ้องมองชายที่อยู่ในภาพ พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “มีคนสองกลุ่มลักลอบฟอกเงินแทนเขา คนคนนี้เจ้าเล่ห์มาก แอบซ่อนตนเองไว้ได้ดีมาก ถึงตอนนี้พวกเรายังหาหลักฐานไม่ได้เลย”

ถังซินจึงเอ่ยถามขึ้นว่า “ตกลงนายเรียนอะไรกันแน่ ทำไมถึงยังต้องสืบหาอะไรพวกนี้?”

“พูดไปพี่ก็ไม่เข้าใจ สรุปว่าฉันสามารถสืบหาได้ก็แล้วกัน” และให้ถังซินเอาแหวนให้เขาดู หลังจากที่ดูอย่างดีว่าไม่มีอะไรผิดพลาดแล้วจึงเอาแหวนคืนให้กับถังซิน

กวนชิงเฟิงเอ่ยขึ้นว่า “พี่ต้องสวมแหวนวงนี้ไว้ ถ้าหากมีอันตรายอะไรพี่ก็แค่เคาะมัน และอีกอย่าง อยู่ให้ห่างจากรองประธานจ้าวคนนี้ อย่าได้ไปยุ่งหรือข้องแวะ คนๆนี้เลวทรามและไร้ความปราณี ทำได้ทุกอย่าง”

ถังซินพยักหน้า แต่ดูเหมือนจะมีความสงสัยขึ้นมาเล็กน้อย

คืนนั้นที่บริษัทมู่ซื่อจัดงานเลี้ยงแบบค็อกเทล เมื่อตอนที่เธอพูดคุยกับรองประธานจ้าว รู้สึกว่าบนไหล่รู้สึกเจ็บขึ้นมากะทันหัน ผ่านไปไม่นานก็สลบไสลไป จะเป็นกลอุบายของรองประธานมู่หรือไม่?

ในตอนนั้นเธอก็ไม่ได้ดื่มอะไรเยอะ แต่รู้สึกได้จริงๆว่าบริเวณไหล่นั้นถูกแทง

กวนชิงเฟิงและคนอื่นๆไม่ได้วางแผนจะนอนค้างที่บ้านคุณแม่ถัง เมื่อกินข้าวเสร็จก็กลับกันไป

หลังจากที่รอให้ทุกคนกลับ ถังซินจึงแกล้งทำเป็นบอกคุณแม่ถังว่าเพื่อนร่วมห้องชอบกินอาหารที่เธอทำจึงให้เธอทำให้กินอีกสักสองอย่าง

ขณะที่คุณแม่ถังอยู่ในครัวทำกับข้าว ก็ได้พูดบ่นตลอดเวลา “ลูกรัก ถ้าลูกไม่มีงานอะไรก็ออกไปข้างนอกบ้าง ไปกินข้าวดูหนังกับคนอื่นบ้าง อย่าอยู่คนเดียวในบริษัทตลอด”

“แม่จะบอกอะไรให้นะ เลือกคนไม่สามารถดูแค่รูปลักษณ์ภายนอกได้เด็ดขาด รูปลักษณ์ภายนอกง่ายต่อการโกหกคนอื่น ลูกดูสิประธานมู่คนนั้น รูปร่างลักษณะดีมีเสน่ห์ ช่างพูด แต่จิตใจนั้นผิดกันเยอะเลย”

ถังซินจึงพูดขึ้นว่า “ฉันเห็นเมื่อก่อนแม่ไม่ได้คิดแบบนี้นี่”

ความคิดเปลี่ยนแปลงได้ตลอดแหละ คุณแม่ถังเอ่ยขึ้น “พูดก็พูดเถอะ ประธานมู่รวยเกินไป ก็เชื่อถือไม่ค่อยได้”

หลังจากประมาณหนึ่งชั่วโมงผ่านไป ถังซินถือถุงเก็บความร้อนมาที่ที่พักของมู่เฉินหย่วน

กดกริ่งประตูไปหลายครั้งก็ไม่มีคนมาเปิด และเธอคิดได้ว่าก่อนที่จะออกไป บัตรได้วางอยู่ในกระถางต้นไม้ จึงไปพลิกหาที่กระถางต้นไม้ บัตรอยู่ตรงซอกกลางใบไม้

ยอมรับเลยจริงๆ

ถังซินบ่นในใจว่าเขาขี้เกียจมากจริงๆ บัตรประตูห้องยังขี้เกียจเก็บ เธอเอาบัตรรูดและเดินเข้าไป ก็ได้ยินเสียงออดอ้อนของหญิงสาว

ไอ๊หยา อยู่นิ่งๆหน่อยสิ อย่าเลียฉัน

ถังซินยืนงงชะงักอยู่ประมาณสิบวินาที จากนั้นในใจก็โกรธอย่างรุนแรง

หน้าไม่อาย!

เธอมาส่งอาหารค่ำให้เขาอย่างทุกข์ยากลำบาก แต่เขากลับให้ผู้หญิงคนอื่นเข้ามาในห้อง ไม่ใช่บอกว่าน้อยคนนักที่จะรู้ที่อยู่ที่นี่ของเขาหรอ?

เธอโกรธจนอยากที่จะเดินออกไป บังเอิญที่มู่เฉินหย่วนมาที่ห้องรับแขก ม้วนแขนเสื้อเชิ๊ตขึ้น ไม่รู้เหมือนกันว่าไปทำอะไรมา บนหน้าผากมีเหงื่อไหลออกมา

มู่เฉินหย่วนเห็นถังซินยืนอยู่ที่หน้าประตู และเอ่ยถามด้วยความไม่สบายใจ “เป็นอะไร?”

“ไม่เป็นอะไร” ถังซินพูดด้วยความโกรธเคือง หันหน้าและเดินออกไป

เมื่อกำลังจะลงบันได มู่เฉินหย่วนจึงรีบไล่ตามเธอไป จับที่แขนเธอไว้และเอ่ยถาม “เธอไม่ได้เอาอาหารเย็นมาให้ฉันหรอ? ไม่ให้ฉันและจะไปแล้วหรอ?”

“ไม่ให้แล้ว ให้คนที่อยู่ในห้องทำให้คุณกินสิ!”

มู่เฉินหย่วนแปลกประหลาดใจ “ในห้องฉันมีคนอยู่หรอ?”

“คุณยังมาทำเสแสร้ง!”

มู่เฉินหย่วนเหมือนกับนึกอะไรออก เมื่อเห็นถังซินมีท่าทางเย็นชาโกรธเคือง จึงยิ้มมุมปาก และก้มตัวอุ้มเธอเดินเข้าไปในห้อง

ถังซินออกแรงบิดตัวดิ้นอยู่ในอ้อมอกเขา “คุณจะทำอะไร? ปล่อยฉัน ฉันไม่ไป!”

ฉันจะต้องพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของฉัน

หลังจากที่เข้าไปในห้องรับแขก มู่เฉินหย่วนจึงวางตัวถังซินลงและหยิบรีโมทคอนโทรล “เมื่อสักครู่เธอได้ยินเสียงอะไร?”

เนื่องจากโทรทัศน์LCDขนาดใหญ่ได้ถูกเปิด ซึ่งกำลังฉายโฆษณาโรงพยาบาลสัตว์แห่งหนึ่ง ในโฆษณาพนักงานได้อาบน้ำให้กับสุนัขฮัสกี้ แต่กลับถูกมันสลัดตัวจนเปียกไปทั้งหน้า เขายิ้มหัวเราะไปพลางและพูดไม่ให้มันเลียมือไปพลาง

เสียงของผู้หญิงคนนี้เหมือนกับเสียงที่ถังซินได้ยินไปเมื่อสักครู่นี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน