รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน นิยาย บท 231

ตอนที่ 231 เธอคิดว่าฉันซ่อนผู้หญิงไว้ในบ้านหรอ

ใบหน้าของถังซินแดงขึ้นทันที

“เธอคิดมากไป”

มู่เฉินหย่วนชำเลืองมองเธอและพูดพรรณนาอย่างยืดยาวว่า “ผมพึ่งจะเปิดทีวี ว่างฝูก็วิ่งไปที่สระว่ายน้ำ และก็กระโดดลงไปในสระ ผมเลยงมตัวมันขึ้นมาจากน้ำ”

“คุณถัง คุณคิดว่าผมซ่อนผู้หญิงไว้ในบ้านหรอ?”

“ฉันพึ่งเข้ามาในห้องรับแขก ฉันจะไปรู้ได้ยังไง!” ถังซินมีเหตุผลเต็มที่ที่จะพูดแก้ตัวได้เต็มปาก “ใครใช้ให้คุณเปิดทีวีในเวลาว่าง แถมยังเปิดช่องโฆษณาไว้”

มู่เฉินหย่วนเข้าไปใกล้เธอ ทั้งสองหายใจรดเข้าด้วยกัน

เขาพูดยุแหย่ด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ผมสามารถมองว่าคุณถังกำลังหึงอยู่ได้มั้ย? กลัวว่าผมมีผู้หญิงคนอื่น”

“คุณมู่ คุณนี่หลงตัวเองจริงๆ” ถังซินเอากล่องเก็บความร้อนยัดให้ที่อกเขา “แม่ฉันทำซุปขาหมู คุณรีบกิน ฉันจะไปดูหมาเยอรมันเชฟเฟิร์ดตัวนั้น”

เมื่อวางของลง คนก็เดินไปทางสระว่ายน้ำ

มู่เฉินหย่วนมองดูกล่องเก็บความร้อนที่อยู่ในมือ นึกถึงอาหารที่เธอพูดถึง เขาจึงขมวดคิ้ว และทำสีหน้าจำใจ

สิ่งที่เขาเกลียดที่สุดคือเนื้อหมู สุดท้ายสิ่งที่กินเยอะที่สุดก็คือเนื้อหมู

หมาน้อยเยอรมันเชฟเฟิร์ดกำลังเล่นไล่จับของอยู่ข้างสระว่ายน้ำ หลังจากที่เห็นถังซินเข้ามาก็ส่ายหางเข้ามาใกล้ๆ ถังซินกำลังอยากที่จะกอดมัน มันก็กระโดดลงไปในสระดังตุ๊ม!

เมื่อเห็นมันว่ายน้ำอยู่ในสระอย่างสบายอารมณ์ ถังซินจึงตะลึงงัน เจ้าหมาน้อยตัวนี้ช่างแข็งแรงเกินไปแล้วมั้ง?

สระว่ายน้ำลึกขนาดนี้ อยากกระโดดก็กระโดด

“ว่างฝู มานี่!” ยังไงก็เป็นแค่ลูกหมา ถังซินกลัวว่ามันจะจมน้ำ จึงเอาลูกบอลที่อยู่ข้างสระน้ำเล่นกับมัน

หมาน้อยเยอรมันเชฟเฟิร์ดรีบว่ายมาอย่างว่องไว

เมื่อถังซินอยากจะจับมัน มันกลับหนีไปอีกด้านอย่างรวดเร็ว แต่เธอกลับยืนทรงตัวไม่มั่นคงจึงตกลงไปในสระทั้งตัว เธอตกลงไปอย่างมึนงง หมาน้อยเยอรมันเชฟเฟิร์ดเห่าใส่เธอและเข้ามาเลียหน้าเธอ

ถังซินคว้าจับไปที่เนื้อด้านหลังของมัน ยกขึ้นมาตรงหน้าและตำหนิว่ากล่าว “แบบนี้มีความสุขแล้วใช่มั้ย? ทำให้ฉันจนตรอกขนาดนี้ น่ารังเกียจเหมือนเจ้าของเลย ร้ายกาจโดยสิ้นเชิง!”

“คุณถัง ผมได้ยินแล้ว” ร่างกายสูงใหญ่ของมู่เฉินหย่วนดันเปิดประตูเข้ามา ทำท่าทางจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม มองมาที่ถังซินที่อยู่ในสระว่ายน้ำ “ครั้งหน้าถ้าจะว่าคนอื่น พูดเสียงเบาๆหน่อย”

ถังซินมองบนใส่เขา “ฉันว่าผู้ช่วยจาง ฉันเอ่ยถึงคุณมู่แล้วหรอ?”

“หมาตัวนี้ผมเป็นคนเลี้ยง”

“คุณเลี้ยง แต่เอามาเลี้ยงจากผู้ช่วยจาง” ถังซินพูดอย่างไม่เกรงใจ “พ่อของมันอยู่บ้านผู้ช่วยจาง หรือว่าฉันพูดอะไรผิด?”

มู่เฉินหย่วนแววตาเคร่งขรึม “เธอไม่พูดถึงผู้ช่วยจางไม่ได้หรอ?”

เขาได้ฟังแล้วรู้สึกโกรธเคือง

“ผู้ช่วยจางก็เหมือนกัน เวลางานไม่ตั้งใจทำงาน และยังคุยกับคนอื่น ควรที่จะหักโบนัส”

“เพื่อนกัน ทำไมจะพูดถึงไม่ได้?” ถังซินคิดว่าเขาเป็นพวกกระต่ายตื่นตูม ถังซินอยากจะขึ้นจากสระว่ายน้ำ แต่นึกได้ว่าตนเองสวมเสื้อผ้าที่สามารถเห็นได้ชัดและแนบไปกับตัว จึงขึ้นมาไม่ได้

เธอจึงพูดกับมู่เฉินหย่วนขึ้นว่า “คุณไปเอาผ้าขนหนูมาให้ฉันหนึ่งผืน”

“ตรงนี้ไม่มีคนอื่นซะหน่อย”

ถังซินจ้องมองเขาด้วยความโกรธ และสองแก้มก็แดงก่ำ “หรือคุณไม่ใช่?”

มู่เฉินหย่วนหัวเราะเบาๆ และเดินเข้าไปเอาผ้าขนหนู เมื่อกลับเข้ามาเขากลับไม่ได้ยื่นให้ถังซิน แต่ให้เธอขึ้นมาจากสระและเอาผ้าขนหนูห่อหุ้มบนผมเธอไว้ และเช็ดผมแทนเธอ

“ฉัน ฉันทำเอง” เขาเอาใส่ใจแบบนี้ ถังซินไม่ค่อยคุ้นเคยนัก อยากจะแย่งผ้าขนหนูมาจากมือเขา แต่เขากลับดึงเอาไป ให้ถังซินมาเอาที่ในอ้อมอกของเขา

ระยะห่างทั้งสองคนแทบจะแนบชิดกัน มู่เฉินหย่วนก้มหน้ามองเธอ “เธอกำลังหลบฉันหรอ?”

“ไม่ได้หลบ” เธอปฏิเสธอย่างรวดเร็ว

“แล้วทำไมถึงไม่เงยหน้า?”

เธอไม่เงยหน้าแปลว่าเธอหลบเขาหรอ? ตรรกะแปลกจริงๆเลย

ถังซินกำลังเงยหน้าคล้ายกับสาธิตให้เขาดู มู่เฉินหย่วนจึงจูบเธอ ฝ่ามืออันอบอุ่นประกบไปที่สองแก้มของเธอ

เห็นได้ชัดว่าขึ้นมาจากน้ำแล้วต้องตัวเย็น แต่เป็นเพราะว่าถังซินอยู่ใกล้อ้อมอกของเขา ทั้งตัวของถังซินจึงรู้สึกร้อนขึ้นมา

ทำไมถึงจูบอีกแล้ว ผู้ชายคนนี้หน้าไม่อายหรือไง?

บนตัวของหญิงสาวมีกลิ่นหอมทำให้มู่เฉินหย่วนรู้สึกเคลิ้ม หายใจไม่ค่อยคงที่ จูบลงไปที่แก้มของเธอและบนติ่งหูอันอวบกลม

ในขณะที่จูบไปมา ก็ถูกถังซินตบเข้าไปที่แก้ม น้ำหนักมือไม่แรงไม่เบา จึงทำให้มู่เฉินหย่วนชะงักงง

“ฉันอยากให้คุณได้สติขึ้นมาหน่อย” ถังซินพยายามออกแรงผลักตัวเขาออกไป และอุ้มหมาน้อยเยอรมันเชฟเฟิร์ดเข้าไปในห้อง มู่เฉินหย่วนยังยืนอยู่ที่เดิม มุมปากดึงออกทั้งสองข้าง

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เขายังหัวเราะเยาะลู่เหวินซูว่าน่าอับอายที่ถูกผู้หญิงตบหน้า

ตอนนี้……

หมาน้อยเยอรมันเชฟเฟิร์ดนั้นซุกซนตลอดเวลา วิ่งไปมาในห้องรับแขก เพราะไม่ให้ถังซินเป่าขน

มู่เฉินหย่วนเห็นสถานการณ์ จึงพูดออกมาอย่างเยือกเย็นว่า “มันไม่เป่าก็ช่างมันเถอะ เอาผ้าขนหนูถูๆ ถ้าทนไม่ได้ก็ตายไป จากนั้นก็หาที่กลบฝังข้างนอก”

“มีเจ้าของที่เลือดเย็นแบบคุณด้วยหรอ” ถังซินสีหน้าเคร่งขรึม “สัตว์มันก็มีเลือดมีเนื้อเหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมาพันธุ์เยอรมันเชฟเฟิร์ดนั้นมีประโยชน์มาก”

“ฉันไม่ได้คาดหวังให้มันสามารถทำอะไรเพื่อฉัน”

“ถ้าอย่างนั้นคุณเลี้ยงมันทำไม?”

ทันใดนั้นกริ่งประตูก็ดังขึ้นมาพอดิบพอดี มู่เฉินหย่วนจึงไม่ทันได้ตอบคำถามของถังซิน และเดินไปเปิดประตูใหญ่

หมาน้อยเยอรมันเชฟเฟิร์ดเหมือนกับเข้าใจคำพูดของมู่เฉินหย่วน มันจึงไม่ซุกซนแล้ว เข้ามาให้ถังซินเป่าขนอย่างเชื่อฟัง

มู่เฉินหย่วนพาคนๆหนึ่งเข้ามา

“คุณถัง” ส้งจิ้งเหอสวมชุดกระโปรงสีครีม ท่าทางอ่อนโยนกินใจ เธอยิ้มและทักทายถังซิน “ขอโทษที่รบกวนนะคะ ฉันมาเอาของ”

ถังซินรีบยืนขึ้น ใบหน้าร้อนผ่าว “ฉันต่างหากที่รบกวน”

มู่เฉินหย่วนจึงพูดขึ้นว่า “ไปที่ห้องหนังสือเถอะ”

ทั้งสองคนเดินขึ้นไป แต่ถังซินยังยืนอยู่ที่เดิม

เห็นได้ชัดว่ามู่เฉินหย่วนเคยอธิบายว่า เป็นเพราะความร่วมมือทางธุรกิจจึงแต่งงานกับส้งจิ้งเหอแบบปลอมๆ ตอนนี้ในใจเธอกลับเริ่มไม่มีความสุขแล้ว

ที่ที่เขาอยู่ เหมือนกับว่าใครก็สามารถเข้ามาได้แล้ว

หมาน้อยเยอรมันเชฟเฟิร์ดขนยังบาง จึงเป่าได้เร็ว ถังซินอยู่เล่นลูกบอลเป็นเพื่อนมันที่ห้องนั่งเล่น สายตาชำเลืองมองไปที่นาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนังบ่อยครั้ง เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่ากำลังรออะไรอยู่

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง มู่เฉินหย่วนและส้งจิ้งเหอถึงได้เดินลงมาจากข้างบนอย่างช้าๆ เธอหันหน้าไปคุยอะไรกับมู่เฉินหย่วน เขาก็ตอบแค่ อืม เธอจึงเม้มปากยิ้ม

ถังซินเก็บความรู้สึกที่ไม่มีความสุขอยู่ภายในใจและเดินเข้าไป “ฉันก็ต้องไปแล้วเหมือนกัน ฉันจะไปส่งคุณส้ง?”

ส้งจิ้งเหอยิ้มแล้วพูดว่า “คุณไม่อยู่ที่นี่ก่อนหรอ?”

“คุณส้งอย่าคิดมากไปนะคะ ฉันแค่มาส่งอาหารเย็น” ถังซินอธิบายกับเธอ “ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว”

“ถ้าอย่างนั้นรบกวนด้วยนะคะ”

มู่เฉินหย่วนก็ไม่ได้พูดอะไร ส่งพวกเธอออกไป เมื่อถังซินกำลังจะไปจึงกำชับกับเธอว่า “ถึงบ้านแล้วส่งวีแชทมาบอกฉัน”

“ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันก็ไม่ใช่เด็กๆแล้ว” เมื่อพูดจบก็เดินจากไป

มู่เฉินหย่วนจึงยิ้มออกมาเล็กน้อย

ผู้หญิงคนนี้ขี้หึงง่ายเกินไปแล้ว

ส้งจิ้งเหอนั่งอยู่ด้านข้างคนขับ เธอเห็นว่ารถได้ออกมาจากคฤหาสน์แล้ว จึงถามออกมาอย่างชะล่าใจ “คุณถัง ทำไมแม่ของวี่เหวินถิงถึงได้ไปหาคุณ?”

“คุณก็เห็นข่าวพวกนั้นแล้วหรอ? “ถังซินจ้องมองส้งจิ้งเหอด้วยแววตาเป็นประกาย คิดว่าตัวเองถามมากเกินไป ข่าวดังขนาดนั้น ส้งจิ้งเหอได้เห็นก็ไม่แปลก

เธอยักไหล่และพูดอย่างยิ้มแย้มขึ้นว่า “ก่อนหน้านี้ฉันคุยธุระกับเขาที่ร้านกาแฟ และถูกแม่เขาเห็นเข้า แม่ของเขาคิดว่าพวกเรามีความสัมพันธ์อะไรกันบางอย่าง จึงมาพบฉัน”

“คุณคิดว่าคุณนายวี่เป็นอย่างไรบ้าง?”

“เอาตัวเองอยู่เหนือคนอื่น เธอมีลักษณะที่ใครก็ไม่สามารถที่จะอยู่ในสายตาเธอได้” ถังซินนึกถึงเรื่องในวันนั้นก็อยากจะขำขึ้นมามาก เธอคิดว่าลูกของเธอเป็นของล้ำค่าที่ไม่อาจจะเทียบได้หรอ เป็นคนที่ผู้หญิงต่างต้องการจะแต่งงานด้วยอย่างนั้นหรือ?

หยุดไปสักครู่ เธอจึงพูดขึ้นอีกว่า “คุณส้ง คุณเคยคบกับคุณวี่ คุณนายวี่เป็นยังไง คุณน่าจะรู้ดีกว่าฉันนะ”

ส้งจิ้งเหอยิ้มอย่างเย็นชา “ใช่ ฉันรู้ดีมากเลย คุณนายวี่แผนการล้ำลึก สามารถบังคับให้คนอับจนหนทางได้ และยังยื่นมีดให้ ให้ตัวคุณเองแก้ไขปัญหา”

สี่ปีมาแล้ว แต่บางครั้งเธอก็ยังฝันถึงเหตุการณ์ที่แม่วี่มาพบเธอในวันนั้น พูดคุยกันต่อหน้าอย่างไร้ความปรานี ทำเป็นเหมือนเห็นอกเห็นใจ โยนเช็คเงินสดลงบนตัวเธอหนึ่งใบ

“ลูกเมียเก็บก็คือลูกเมียเก็บ ทั้งชีวิตคงไม่มีวันได้มีหน้ามีตา”

ไม่มีหน้ามีตา?

รอให้ได้หุ้นจากคุณพ่อส้งมาหกจุดก่อน หลังจากที่กลืนกินบริษัทตระกูลส้งแล้ว เธออยากจะส่งบัตรเชิญให้คุณนายวี่ด้วยตนเอง ให้เธอได้เห็นว่าตกลงแล้วตนเองมีหน้ามีตาแล้ว!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน