ตอนที่ 233 พูดปกปิดความในใจ ไม่ปวดใจหรือ
เมื่อดูแล้วว่าไม่มีข่าวที่ไม่ดีเกี่ยวกับเธอ ถังซินจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก มีสมาธิทำงาน
แต่อีกฝ่ายหนึ่ง ก็กำลังดูข่าวอยู่ที่โรงพยาบาล นั่นก็คือเกาพินถิง
กรดซัลฟูริกได้สาดไปที่ด้านบนซ้ายของหน้าและบนแขน ทำให้ได้รับบาดเจ็บหนัก คุณหมอบอกว่า ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีการปลูกถ่ายผิวหนังจะดีมากขึ้น แต่ก็ไม่สามารถปกปิดแผลเป็นของเธอได้ทั้งหมด
ในตอนนั้นเกาพินถิงจิตใจหมดอาลัยตายอยากแล้ว
เธอเตรียมกรดซัลฟูริกไว้ใช้ในเวลาที่จำเป็น ตอนนั้นถูกคำพูดของถังซินยั่วให้โกรธ จึงเปิดฝาออก คาดไม่ถึงว่าถังซินจะเอากระเป๋ามาตีที่บนตัวเธอ
เธอคิดว่าตนเองได้รับบาดเจ็บแล้วก็อยากจะทำให้ถังซินเสียหายไปด้วย เพียงแค่ถังซินเข้าคุก และไม่ออกมาอีก แต่คิดไม่ถึงว่าคำพูดที่ทั้งสองคนคุยกันจะถูกถังซินบันทึกเสียงไว้
ทุกคนต่างเชื่อกันอย่างชัดเจนแล้วว่าเธอคิดอยากที่จะสาดใส่ถังซิน แต่ถูกถังซินต่อสู้กลับ
ต้องการที่จะเอาเปรียบแต่ไม่สำเร็จจึงกลับได้รับความเสียหาย
เกาพินถิงทุบตีทุกอย่างที่สามารถส่องได้ เธอร้องไห้ทั้งคืน
คุณหมอแจ้งให้เธอทราบในตอนเช้า และหลังจากที่วี่เหวินถิงเข้ามา แค่เธอเห็นร่างเงาของวี่เหวินถิง ก็รีบโผเข้าหา และร้องออกมาเสียงดัง “พี่เหวินถิง หน้าของฉันเสียแล้ว ทำยังไงดี?”
วี่เหวินถิงมีท่าทางที่แข็งกร้าวดึงตัวเธอออกห่าง สีหน้าเย็นชา “ใครใช้ให้เธอทำร้ายถังซิน?”
“เธอมาพัวพันกับพี่ตลอด ฉันแค่ขอให้เธอห่างจากพี่” เกาพินถิงร้องไห้สะอึกสะอื้น แสร้งทำเป็นอ่อนแอ “ฉันแค่พูดแรงไปหน่อย แต่เธอก็พูดไม่เกรงใจฉัน จากนั้นก็เลยโกรธ…”
เธอไปจับเสื้อของวี่เหวินถิง “พี่เหวินถิง ฉันชอบพี่ เลยทำเรื่องแบบนี้ หน้าฉันเสียแล้ว ต่อไปจะไปเจอใครได้?”
“ถ้าเธอไม่เอากรดขวดนั้นออกมา เรื่องก็ไม่กลายเป็นแบบนี้หรอก” วี่เหวินถิงแววตาเย็นชา “ฉันแค่มองในฐานะสองตระกูลที่สนิทสนมกันดี ถึงได้เกรงใจเธอมาตลอด”
“พี่เหวินถิง…”
วี่เหวินถิงกำข้อมือของเธอไว้แน่น และพูดเตือนเธอว่า “ครั้งนี้สามารถเป็นบทเรียนที่ดีที่สุดที่ให้เธอได้โตเป็นผู้ใหญ่ ถังซินถูกปกป้องโดยใครเธอก็รู้อย่างชัดเจน ฉันหวังว่าเธอจะไม่โง่เช่นนี้อีก โง่ที่อยากจะเห็นตระกูลเกาของพวกเธอล่มสลาย”
คำพูดนั้นทำให้เกาพินถิงหมดอาลัยตายอยากมากขึ้น
ใบหน้าของเธอได้รับบาดเจ็บกลายเป็นคนขี้เหร่ แต่วี่เหวินถิงไม่เข้าข้างเธอแม้แต่นิดเดียว ไม่ห่วงใยเธอ “ฉันได้รับบาดเจ็บแบบนี้ มีสิทธิ์อะไรที่จะให้เธอได้อยู่อย่างสบาย?”
“เธอทำเองก็รับผลกรรมที่ทำไว้ด้วยตนเอง”
วี่เหวินถิงไม่อยากเสียเวลาพูดไร้สาระกับเธออีก จึงเรียกพยาบาลเข้ามา และเอ่ยขึ้นว่าในช่วงเวลาที่เกาพินถิงได้รับบาดเจ็บให้เธอพักผ่อนอยู่ที่โรงพยาบาลอย่างสงบ และให้ดูแลเป็นอย่างดี จากเขาจึงเดินจากไป
เกาพินถิงพุ่งเข้าหาเขาอย่างบ้าคลั่ง อยากที่จะกอดเขาไว้ไม่ให้เขาเดินจากไป พยาบาลที่อยู่ข้างหลังสองคนได้ดึงจับเธอไว้ ดวงตาของเธอมองตามวี่เหวินถิงที่เดินจากไป
“วี่เหวินถิง ทำไมนายถึงได้ดุร้ายขนาดนี้! ไอ้คนเลว!”
“ฮือฮือ นายมันเลว!”
เกาพินถิงร้องไห้เสียงดังแหลมอย่างเจ็บปวดใจ เมื่อพยาบาลปล่อยมือ เธอก็ทรุดลงไปนั่งกับพื้น
เธอไม่เหลืออะไรแล้ว
ไม่มีแล้ว
ทั้งห้องคนไข้เต็มไปด้วยของระเกะระกะเรี่ยราด เธอดันผลักรถเข็นที่อยู่ข้างกายจนของกระจัดกระจายร่วงลงมา ทุบทำลายกาน้ำและถาดรองอันบางเลื่อมๆที่สามารถส่องให้เห็นรูปลักษณ์หน้าตาของเธอได้
ใบหน้าด้านขวาผิวขาวเรียบเนียนละเอียดเกลี้ยงเกลา แต่ข้างซ้ายกลับมีรอยแผลเป็นยับย่น มุมปากบิดเบี้ยว
อ้ะ อ้ะ อ้ะ! เธอทนไม่ได้กับลักษณะหน้าตาที่เหมือนคนอายุเจ็ดแปดสิบของตนเอง จึงร้องกรี๊ดออกมาเสียงดัง เมื่อพบว่าพยาบาลไม่เห็น เธอเก็บเอาเศษที่แตกอยู่บนพื้นขีดไปที่หน้าอย่างแรง
อ๊าย! พยาบาลทั้งสองคนตกใจกลัวจนสั่นทั้งตัว
พวกเธอรีบเข้าไปห้ามไม่ให้เกาพินถิงทำร้ายตัวเองอย่างรวดเร็ว และฉีดยาระงับประสาทให้เธอด้วยมือไม่ที่อ่อนจนทำอะไรไม่ถูก
เมื่อเกาพินถิงตื่นขึ้นมา แก้มข้างซ้ายนั้นปวดแสบปวดร้อน ข้างหูได้ยินเสียงข่าวในโทรทัศน์อย่างรางเลือนไม่ชัด เหมือนกับได้ยินว่าโรงงานแห่งหนึ่งผลิตภัณฑ์ยาไม่ได้มาตรฐาน ผู้ดำรงตำแหน่งสูงทั้งบริษัทต่างถูกจับแล้ว
เกาพินถิงลืมตากว้าง
โรงงานนี้เป็นโรงงานที่ป้าเธอเปิด เธอเคยไปแล้วหลายครั้ง ดังนั้นเธอจึงรู้จักอย่างแน่นอน
“คุณเกา ตื่นแล้วหรอ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน
สนุกมากๆ เลยค่ะ ขอบคุณมากๆ นะคะ ที่มีนิยายสนุกๆ ได้อ่าน...
สนุกมากๆๆๆ...