รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน นิยาย บท 266

บทที่266 ผู้หญิงปากไม่ตรงกับใจ

แปปนึงก็ถึงวันเสาร์

ในตู้ของถังซินมีชุดราตรีมากมายเลยเลือกไปสักชุดเพื่อไปงานเลี้ยง ตอนดึกที่เตรียมตัวอยู่นั้น เลขาเหอของบริษัทมู่ซื่อก็มาในมือหิ้วกล่องใหญ่มาสองกล่อง

กล่องนึงของถังซิน อีกกล่องของหลี่ซูเจ๋

เลขาเหอพูด:“ตอนที่ไปรับชุดที่ร้าน เจอคุณชายลู่พอดี คุณชายลู่ให้ฉันเอาชุดของคุณซูเจ๋มาด้วย เขากับประธานมู่จะไปโรงแรมก่อน”

“ฉันไม่สนใจงานเลี้ยง......”หลี่ซูเจ๋บ่น หลังจากเปิดกล่องออกมาดูก็เห็นด้านหลังเขียนว่า“อยู่บ้านก็อ้วนง่ายนะ ไปไปไป!”

ถังซินหัวเราะน้ำตาเล็ด

หลังจากเปลี่ยนชุด หลี่ซูเจ๋ก็ออกมาพร้อมกับถังซิน ตอนทำผมที่ร้าน หล่อนมองโทรศัพท์ก็ถอนหายใจออกมาแล้วพูดกับถังซินว่า“รู้ไหมว่าฉันเพิ่งหาอะไรเจอ?”

“อะไร?”

“พวกเราสวมชุดตัดของร้านD,เป็นคอลเลคชั่นของใบใม้ผลิกกับใบไม้ร่วงปีหน้า!”หลี่ซูเจ๋พูดอย่างดีใจว่า“แล้วฉันยังเป็นคนแรกที่ได้สวมชุดนี้ นี่มันโคตรเจ๋งอ่ะ!”

ถังซินถอนหายใจ:“มีเงินนี่ดีจริง!”

หล่อนจะได้ดูหรูหราบ้าง ซื้อชุดราตรีแพงๆดีๆและยังเป็นชุดที่หาซื้อได้ยากในแต่ละปีอีก

กหล่อนก็เคยซื้อชุดราคาพอๆกันกับครั้งนี้ แต่คิดไม่ถึงว่าถ้าจ่ายแพงขนาดนั้นแล้วจะยังได้ชุดที่ยังไม่ได้นำออกมาวางจำหน่ายอีก

หล่อนดูแหวนตรงนิ้วแล้วถึงนึกได้ว่า เหมือนว่าหลังจากเริ่มความสัมพันธ์กับมู่เฉินหย่วนความคิดของหล่อนก็ค่อยๆเปลี่ยนไป คนที่เจอก็ไม่เหมือนกัน

เหมือนวี่เหวินถิง ลู่เหวินซู ส้งจิ้งเหอ คุณฉิน......ต่างเป็นคนชนชั้นสูงทั้งนั้น

ไม่เหมือนกับเมื่อก่อนตอนที่หลินเฉิงจี๋พาหล่อนเข้าสังคมไปรู้จักคนชั้นสูง อตนนั้นหล่อนรู้สึกอึดอัด แต่พอได้รู้จักกับวี่เหวินถิงไม่กี่ชั่วโมง หล่อนไม่ต้องเข้าหาเอง ชิลมาก

หล่อนไม่รู้สึกว่าต่ำกว่าพวกเขา

ในเวลาเกือบหนึ่งปีนี้ มู่เฉินหย่วนให้อะไรหล่อนมากมายจริงๆ

“นีนี คิดอะไรอยู่เหรอ?”หลี่ซูเจ๋เห็นถังซินยิ้มด้วยท่าทางน่ากลัว“มองไปที่พี่ตอนนี้ เหมือนกับข้ามหน้าหนาวไปใบไม้ผลิเลย”

ถังซินยิ้มบางๆ“ไม่มีไร จู่ๆก็คิดว่าคุณมู่ดีจัง”

หลี่ซูเจ๋รำคาญเข้าไปใหญ่“ผู้หญิงปากไม่ตรงกับใจ!ก่อนนี้ถามว่าชอบประธานมู่ไหม พี่บอกไม่ชอบ ตอนนี้ก็ชอบแล้ว เห้อ ผู้หญิงนี่!”

ถังซินไม่สนใจหล่อน

ทุ่มครึ่งทั้งสองนั่งรถถึงโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล

บริษัทตระกูลส้งเปลี่ยนคนก็เลยอยากฉลองเป็นพิเศษ เชิญแขกที่อยู่ในแวดวงเดียวกันมา แต่ว่าบริษัทตระกูลส้งไม่ได้แพร่ข่าวออกไปเลยไม่มีนักข่าวมา

พนักงานพาถังซินกับหลี่ซูเจ๋เข้าไปในห้องงาน ปาร์ตี้ด้านในคึกครื้นมาก

ถังซินเดินไปรอบๆมองไม่เห็นมู่เฉินหย่วน แต่เห็นลู่เหวินซูกำลังทักทายคนอื่นอย่างสุภาพ มีผู้หญิงมาทักทายแล้วตั้งใจลากออกไป。

“ไม่เห็นเขามาสองสามวัน เขาดูดีขนาดนี้?”ถังซินหันหัวไปมองหลี่ซูเจ๋“เธอก็นะ เอาผู้ชายแย่ๆนั่นเป็นคนดีขึ้นมา”

หลี่ซูเจ๋เงยศีรษะขึ้นอย่างภูมิใจ“ก็ฉันเคยพูดกับพี่แล้ว ใบหน้าฉันสวย!”

ถังซินพูดเหน็บหล่อน“แต่เมื่อก่อนเธอมองพี่ว่าลู่เหวินซูเจ้าชู้มาก เว้นระยะห่างกับเขาหน่อยก็ดี”

“ฉันเคยพูดแบบนั้นเหรอ?”

“เคยสิ”

ตอนที่ทั้งสองชนปากกัน ลู่เหวินซูที่คุยกับคนอื่นอยู่นั้นพบพวกเขาเข้าก็เดินผ่านผู้คนเข้ามาแล้วก็จับหลี่ซูเจ๋เข้ามากอดแล้วจูบอย่างไม่สะทกสะท้าน

หลังจูบเสร็จ ลู่เหวินซูยังลูบไล้ไปบนแก้มหล่อนพูดว่า:“ที่รัก ไม่เจอกันสองสามชั่วโมง เหมือนผ่านไปเป็นปี คิดถึงคุณมากมากเลย!”

“นายหุบปากไปเถอะ!”ถังซินถูแขนของหล่อน ขนลุกขึ้นมาทันที“น่าขยะแขยงจริง”

ลู่เหวินซูบ่น“เธอไม่ชินน่ะถูกแล้ว ยังโสดอีก!”

“ไง!พูดยังไงดี!”หลี่ซูเจ๋ค้อนเขา

ในใจถังซินร้อนขึ้นมา ในใจคิดวี่เพื่อนร่วมห้องหรืออะไร

แปปนึง ก็ได้ยินที่หลี่ซูเจ๋คุยกับลู่เหวินซูเบาๆว่า:“คุณโง่จริงบอกว่าอย่าให้นีนีได้ยิน ถ้าประธานมู่ไม่พอใจแล้วส่งให้คุณไปนิวยอร์คจะทำไง?โง่จริง!”

ลู่เหวินซูพยักหน้า“ที่รักหมายถึงว่าให้พวกเรารู้กันสองคนใช่ไหม”

ถังซิน:“......”

หล่อนรำคาญสองคู่รักคู่นี้มาก!

หลังจากกวนเสร็จ ลู่เหวินซูก็พาทั้งสองไปห้องส่วนตัวในห้องงานเลี้ยง มู่เฉินหย่วนที่ไม่ชอบความวุ่นวายก็รออยู่ในห้องนั้น

ห้องนั้นใหญ่มาก คล้ายกับลานเต้นเล็กๆ ตกแต่งอย่างครบครัน

รอบๆมู่เฉินหย่วนมีคนเล่นอะไรอยู่บนโต๊ะ ที่จริงเป็นเกมสนุกๆบรรยากาศกลับดุดันเหมือนไม่ได้อยู่ในห้องส่วนตัวแต่อยู่ในบ่อน

“โอเค แขกมากันหมดแล้ว หยุด”เย่นจิ่งเหนียนมองไปที่หน้าประตูแล้วเอาไพ่ในมือเปิดออก

เคลียร์ไพ่

เย่นจิ่งเหนียนถอนหายใจ“โชคไม่นิ่งเลย”

“เล่นไพ่เถอะ!”ลู่เหวินซู เข้าร่วมด้วยอย่างดีใจ พอมองไพ่ของเย่นจิ่งเหนียนแล้วก็เบื่อมาก“พี่นี่ไม่ได้เรื่องเลย!มีเดิมพันไหม?”

เย่นจิ่งเหนียนยักไหล่แล้วดื่มไวน์ไปหนึ่งคำ

“เลขโลก”

“เป็นเรือสำราญนั้นเหรอ?”หลี่ซูเจ๋ถามเย่นจิ่งเหนียนอย่างสงสัย

“ก็ลำนั้น เพิ่งซื้อมาได้ไม่นานมานี้”เย่นจิ่งเหนียนพูดว่า ถอนหายใจอีกรอบ“เห่ย ถ้ารู้ว่าซวยขนาดนี้ก็ไม่เอามันมาเดิมพันหรอก”

หลี่ซูเจ๋ตกใจจนถอนหายใจออกมา“ได้ยินว่าเลขโลกหนึ่งใบก็หลายหมื่น ฉันยังคิดว่าวันไหนทำงานแล้วจะไปนั่ง นึกไม่ถึงว่าพวกคุณเล่นไพ่แล้วเอามาเดิมพัน!”

ลู๋เหวินซูพูดปลอบ:“เป็นไรที่รัก ต่อไปถ้าอยากนั่งเดี๋ยวผมพาไปนั่งเอง นั่งจนหายอยากไปเลย!”

“ลู่เหวินซูฉันรักคุณจะตายอยู่แล้ว!”หลี่ซูเจ๋กอดแล้วจูบเขาไปแรงๆหนึ่งที

มู่เฉินหย่วนกับวี่เหวินถิงมองพวกเขา ใบหน้านั้นเกือบจะแสดงความรำคาญออกมา

มู่เฉินหย่วนแสระยิ้ม:“ไอ้สี่ นายตายแล้ว ฉันชนะแล้ว รีบให้พนักงานเอาชื่อพวกนายเข้าบัญชีดำที่แท้ก็ขัดขวางนายเอง”

วี่เหวินถิงก็พูดว่า:“ฉันด้วย”

“พวกนายนี่เกินไปแล้วนะ!”ลู่เหวินซูพูดอย่างไม่พอใจ“ฉันรู้ว่าพวกนายอิจฉาที่ฉันมีแฟน เพราะความอิจฉานี่ก็ไม่เหลือความเป็นพี่น้องไว้เลยเหรอ?”

“ไสหัวไป!”

ลู่เหวินซูกอดหลี่ซูเจ๋แล้วพูดอย่างปวดใจ:“ที่รัก พวกเขารังแกผม”

เย่นจิ่งเหนียนรับพวกเขาไม่ได้แล้วอยากจะเอาคนออก“พอเถอะ พี่ชาย พวกนายเปิดไพ่เถอะ ฉันอยากเห็นว่าไพ่เบอร์โลกนั่นอยู่ที่ใคร”

วี่เหวินถิงเปิดไพ่ตรงหน้า

เย่นจิ่งเหนียนมองแล้วยิ้มออกมาอ่อนๆ:“พี่ใหญ่ฝีมือไม่แย่ พี่สอง พี่ล่ะ?”

มู่เฉินหย่วนอยากเปิดไพ่เห็นถังซินยืนมองอยู่ข้างๆเหมือนจะสนใจเป็นอย่างมากก็ดึงหล่อนเข้ามากอด“ไพ่ใบสุดท้าย เปิดสิ”

ถังซินถามอย่างเบาๆ:“ไพ่อะไรเหรอ?”

“ไม่รู้ ผมยังไม่เปิด”มู่เฉินหย่วนพูดความจริง

ลู่เหวินซูยิ้มบนความทุกข์ของคนอื่น“พี่สองไพ่นี้ไหม เปิดออกมาเป็นโพแดงก็ดี ถ้าไม่ใช่ก็แย่กว่าไอ้สี่ฮ่าฮ่า!”

“งั้นช่างเหอะ”ถังซินเอามือไปไว้ด้านหลัง“โชคฉันไม่ค่อยดี”

มู่เฉินหย่วนยิ้มในลำคอแล้วคว้ามือของหล่อนไปเลือกไพ่อีกรอบ ทั้งสองสูดลมหายใจเข้าด้วยกัน“ไม่เป็นไร ยังไงซะก็เป็นของของจิ่งเหนียน ขโมยไปพวกเราก็ไม่ขาดทุน”

ได้ยินเขาพูดแบบนี้ ถังซินก็ไม่ปฏิเสธ เปิดไพ่ใบนั้นออกมา

สายตาสี่ห้าคู่ต่างมอง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน