รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน นิยาย บท 267

บทที่267 ผมเผด็จการ ทำไมล่ะ

“โพแดง!”ลู่เหวินซูเป็นคนแรกที่ตบมือ

เย่นจิ่งเหนียนจ้องแล้วขำ:“พี่สองก็พี่สองจริงๆมือไม่เคยพลาด”

“ไพ่นี้ผมไม่ได้เปิด ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้ดู”มู่เฉินหย่วนจับมือของถังซินไว้บนริมฝีปาก“ให้ของขวัญคุณชิ้นที่สาม ชอบไหม?”

ถังซินเอามือออก“คุณอย่าบ้า คนมองกันเยอะ!”

“ให้พวกเขามองเถอะ”

ถังซินใช้แรงเอามือออก เห็นสายตาหลานคู่กำลังจ้องก็ไอออกมาแก้เขิน“ประธานมู่วันนี้น่าจะป่วย พวกคุณรับผิดชอบด้วย”

ลู่เหวินซูหัวเราะหนัก:“ผมมองชื่อเป็นโรคของ“การยั่วเย้า”!”

“ไอ้สี่ อึดอัดอีกแล้ว?หือ?”มู่เฉินหย่วนจ้องเขาอย่างลึกซึ้ง จะยิ้มก็ไม่ยิ้ม“ที่นิวยอร์คกำลังขาดคน นายอยากไปหาผู้ช่วยจางก็ได้นะ”

“ไอ้หยา ผมความจำไม่ดี เพิ่งพูดอะไรไปนะ?”ลู่เหวินซูแกล้งโง่

พวกเขาหัวเรา

ลู่เหวินซูเหมือนเป็นริดสิดวงที่ก้น ดื่มเหล้าไปไม่กี่แก้วก็นั่งไม่อยู่จะเปิดไฟเวทีให้ได้ เปิดเพลงแล้วพลิกตัวขึ้นไปเต้น

“ลู่เหวินซูนายหล่อมาก!”หลี่ซูเจ๋โบกมือไปมาแล้วตะโกนอย่างดุเดือด“รีบถอดเสื้อ ถอดเสื้อ!ฉันจะดูถอดเสื้อ!”

“ที่รัก ร่างกายluoของผมให้แค่คุณ”

“ไอ้หยา นายอย่าเพ้อเจ้อ รีบถอด!”หลี่ซูเจ๋บ่น“ที่นั่งอยู่นี่มีแต่คนกันเอง กลัวไร!ให้นีนีเห็นตัวคุณพอดี ดูสิว่าดีกว่าประธานมู่ไหม”

ถังซินที่เพิ่งดื่มเหล้าไปก็พุ่งออกมา

หล่อนตบหัวหลี่ซูเจ๋ ใบหน้าหมองๆนั่นพูดว่า:“เธอทำไรนี่ยังคึกครื้นไม่พอเหรอ?”

หลี่ซูเจ๋จิ๊ปาก“ก็เล่นไหมล่ะ!”

“......”

นี่แม่เขาเล่นได้ไหม!

เย่นจิ่งเหนียนที่นั่งอยู่ตรงหน้าจอ LCD เห็นหลี่ซูเจ๋คุกแบบนี้ก็รีบเปลี่ยนเพลงให้เข้า

ไฟบนเวทีปิดลงทันที มีเสียงของหญิงสาวออกมาจากลำโพง

ลู่เหวินซูก็บ้าจี้ตาม ถอดเสื้อออกมาแล้วเขวี้ยงไปบนตัวหลี่ซูเจ๋

หลี่ซูเจ๋ร้องขึ้นมาว่า:“เอาอีก!”

“ที่รักอยากดูไหม?”

“อยาก เร็วสิ!”

ลู่เหวินซูเม้มปากพร้อมยิ้ม ร่างกายนั้นเต้นไปตามเพลงเบาๆ

เขาสูง189 รูปร่างสูงยาว ทำแบบบนี้แล้วเซ็กซี่มากจนไม่อาจทำให้ใครปฏิเสธได้

รูปหน้าที่ชัดเจนนั้นกำลังเต้นไปมาใต้แสงไฟที่กระพริบอยู่นั้น ตาหวานๆเล็กๆนั้นดึงดูดใจคน นิ้วเรียวยาวของเขานั้นกำลังจับเน็คไท

จากนั้นก็ค่อยๆแกะกระดุมออก

ถังซินมองไม่ละสายตา

หล่อนกลืนไวน์แดงเข้าไปแล้วพูดกับมู่เฉินหย่วนว่า:“หุ่นของคุณลู่ดึงดูดสายตาคนจริงๆ ถ้าไปเที่ยวกลางคืนนี่ได้มาอย่างน้อยหกคนแน่!”

สายตาของมู่เฉินหย่วนดูรุนแรงขึ้นมาทันทีพร้อมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ“คุณชอบ?”

“อ่าหะ มันเยี่ยมมากเลย”ถังซินตอบเขาแต่สายตามองไปที่ร่างกายของลู่เหวินซู“อ้อ......ไหปลาร้านี้สวยจริง โอ๊ย ปลดกระดุมเร็วๆสิ!”

“......”

มู่เฉินหย่วนจ้องหล่อนดึงเข้ามากอด สายตาหม่นๆนั้นกำลังมองลู่เหวินซูที่อยู่บนเวที“ไอ้สามถ้ายังไม่พออีกก็ไปต่อที่ห้องงานเลี้ยงไป”

น้ำเสียงอึมครึมนั้นทำให้ทั้งตัวของลู่เหวินซูสั่น

“ฉันก็แค่ทำบรรยากาศให้คึกครื้นขึ้นมาหน่อยเอง!”ลู่เหวินซูไม่กล้าทำต่อ ถ้าถูกพี่สองแค้นนี่ไม่ดีจริงๆ เขาไปดึงตัวหลี่ซูเจ๋ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“ที่รัก มาเต้นกันเถอะ”

ส่ายหัวไปที่เย่นจิ่งเหนียนแล้วพูดว่า“ไอ้สามเปลี่ยนเพลง”

เย่นจิ่งเหนียนมองเขาตาขวาง

“คุณปิดตาฉันทำไม?”ถังซินดึงมือมู่เฉินหย่วนออกอย่างไม่พอใจกลับพบว่าไม่ได้ถอดเสื้อเต้นแล้ว ลู่เหวินซูดึงหลี่ซูเจ๋ขึ้นไปเต้นบนเวที เพลงก็เปลี่ยน

หล่อนผิดหวังมากเลยจ้องไปที่เขา“มองคนเต้นผิดกฎหมายหรือไง?นายมันเกินไปแล้วจริงๆ!”

“ใช่”

“คุณเผด็จการ!”

มู่เฉินหย่วนยักคิ้ว“อืม ผมเผด็จการ ทำไมล่ะ?”

ถังซินว่าเขาแล้วหันตัวไป ว่าจะไม่สนใจเขา เขาเลยใกล้เข้ามาพูดด้วยน้ำเสียงพอใจว่า“คุณอยากดูคนอื่นแบบนี้ ผมไม่โอเค”

“ฉันก็แค่ดูเฉยๆ”

“นั่นมันไม่ดี”เหมือนจะกลัวหล่อนโกรธ พอพูดจบมู่เฉินหย่วนก็พูดข้างหูหล่อนว่า“รอกลับไปก่อน”

“รอกลับไปทำอะไร?”

“ผมจะเต้นให้ดู ทั้งคืนเลยก็ได้”

คำพูดอ้อยๆพวกนั้นทำให้หูถังซินแดง หล่อนแกล้งทำเป็นไม่รู้ว่าเขาพูดอะไรพร้อมดื่มไวน์ไป หน้าใหญ่ๆเท่าฝ่ามือนั้นเหมือนจะมุดเข้าไปในแก้ว มู่เฉินหย่วนอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา

เย่นจิ่งเหนียนยุให้พวกเขาว่า:“พี่สอง เพลงมันส์มาก ขึ้นมาเต้นด้วยกันสิ!”

มู่เฉินหย่วนที่นั่งอยู่รู้สึกเบื่อจึงเงยหน้าขึ้นไปบนเวทีเห็นลู่เหวินซูกับหลี่ซูเจ๋กำลังแสดงความรักต่อกันอยู่ ก็เซ็งขึ้นมา

หลังช่วยถังซินถอดรองเท้าก็ลากหลอนขึ้นไป

ถังซินมองล่างเวทีแล้วก็พูดออกมาแปลกๆ:“ทิ้งคุณเย่นกับคุณวี่ไว้ด้านล่างคงไม่ดีมั้ง?”

มู่เฉินหย่วนถามหล่อน:“ที่จริงคุณอยากนั่งตรงนี้มองพวกเขาแสดงความรักต่อกัน?”

“......ไม่อยาก”

เย่นจิ่งเหนียนถือแก้วไวน์ไปนั่งกับวี่เหวินถิง

วี่เหวินถิงมองเขาด้วยสายตาเย็นชาเหมือนจะไม่อยากให้เขาเข้ามา“ไปไกลๆ”

“พี่ใหญ่ ดื่มคนเดียวเหงาจะตาย”เย่นจิ่งเหนียนยิ้มนั่งลงข้างๆเขาแล้วเอาแก้วชนกับแก้วเขา“น้องจะอยู่เป็นเพื่อนพี่เอง”

วี่เหวินถิงไม่ได้พูดอะไร เขาดื่มจนหมดแก้ว สายตาเย็นชาจ้องไปที่คู่รักบนเวที ซึ่งไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

เย่นจิ่งเหนียนถาม:“พี่ใหญ่ อิจฉาเหรอ?ถ้าพี่ไม่ว่าอะไร......”

“ไอ้สาม”น้ำเสียงของวี่เหวินถิงต่ำลงพร้อมด้วยเสียงที่พร้อมจะฆ่า“หุบปากได้ไหม?”

ท่าทางของเย่นจิ่งเหนียนดูชิลๆ ได้แค่ยักไหล่แล้วถอนหายใจออกมา:“อั่ย ปกติเหวินซูบ้าแบบนี้ พี่ไม่พูดอะไรเลย ผมเห็นพี่เหงาๆก็อยากมาเต้นด้วย ดูพี่สิ”

วี่เหวินถิงขี้เกียจสน

เย่นจิ่งเหนียนเทเหล้าให้เขา เห็นเขานิ้วเขายังสวมแว่นอยู่ก็เย้ยว่า:“พี่ชาย พี่กับคุณส้งแต่งงานหลอกๆมานานขนาดนี้แล้ว แหวนยังใส่อยู่เหรอ?”

“แหวนมันเล็กเลยติดนิ้ว”

“ผมรู้เลยพกยามาพอดี”เย่นจิ่งเหนียนหยิบยาออกมาจากกระเป๋าแล้วยิ้มพลางพูดว่า:“พร้อมที่จะถอดแหวนออกให้พี่นะ”

“......”

ในตอนนี้เอง ประตูห้องส่วนตัวก็ถูกเปิดออกแล้วมีเงาเดินเข้ามา

“คึกครื้นขนาดนี้เชียว?”ส้งจิ้งเหอมองคนบนเวทีแล้วยิ้มอ่อนๆ

วันนี้บริษัทตระกูลส้งเป็นเจ้าภาพชวนคนในแวดวงเดียวกันมาทานข้าว แต่ส้งจิ้งเหอสวมชุดช่างสง่างามเหลือเกิน

ไฟจากด้านนอกสาดเข้ามาที่ตัวหล่อน ทำให้เห็นว่าหล่อนสวมชุดกระโปรงยาวัดเนี๊ยบสีเหลืองอ่อน การออกแบบตรงช่วงเอวนั้นเผยให้เห็นรูปร่างบางๆนั่น ผมยาวที่จัดทรงนั้นอยู่บนช่วงบ่า

ทั้งหมดล้วนดูดีสง่างาม ไร้ที่ติ

“คุณส้งวันนี้สวยจัง”เย่นจิ่งเหนียนยิ้มพร้อมชม“รับแขกเสร็จหมดแล้วเหรอ?”

ส้งจิ้งเหอพูด:“ใช่น่ะสิ พวกนายก็เป็นแขกฉัน พอว่างก็เลยมาดูหน่อยนะ。”

เย่นจิ่งเหนียนมองผู้ชายข้างๆที่หน้านิ่งไม่สนใจ เขาจึงวางแก้วแล้วลุกขึ้นไปที่ส้งจิ้งเหอแล้วเชิญหล่อน“คุณส้ง เต้นกันสักเพลงไหมครับ?”

“ได้แน่นอน”

ส้งจิ้งเหอเอาผมทัดหู เผยให้เห็นต่างหูเล็กๆ แล้วจึงถอดรองเท้าส้นสูงไว้ข้างๆ ยิ้มอย่างสดใสแล้วยื่นมือไปวางที่ฝ่ามือของเย่นจิ่งเหนียน ขึ้นไปบนเวที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน