บทที่268 หึง
วี่เหวินถิงมองหล่อนที่ท่าทางสวยงามเช่นนี้ สายตาก็ค่อยๆเศร้าลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่หล่อนเดินผ่านก็ไม่ทักอะไร ทำให้ในใจเขารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาแปลกๆ
แล้วยังไปเต้นกับคนอื่น ยิ้มอย่างมีความสุขแบบนั้นอีก!
เย่นจิ่งเหนียนรักษาระยะห่าง มือประคองที่เอวของหล่อนเบาๆ เหลือบมองไปที่ล่างเวทียิ้มแล้วพูดว่า:“คุณส้งตอบรับไวขนาดนี้ผมนึกว่าสนใจผมนะเนี่ย”
“ถ้าคุณเย่นไม่มีแฟนฉันไม่รังเกียจค่ะ”ส้งจิ้งเหอตอบกลับอย่างยิ้มๆ
เย่นจิ่งเหนียนส่ายหัวแล้วพูดว่า:“หาใครก็ได้ คุณส้งก็ได้ ผมทำอะไปจริงๆกลัวว่าพรุ่งนี้จะนอนสงบในโลง”
“ชมขนาดนี้เชียว?”
“ไม่ได้ชม”เย่นจิ่งเหนียนพูดอย่างเคร่งขรึมขึ้นมา“ใช่แล้ว ตอนนี้ควรจะเรียกว่าประธานส้งสิ ต้องยินดีกับประธานส้งที่เอาบริษัทตระกูลส้งมาได้”
ส้งจิ้งเหอยิ้มมุมปาก“คุณช่วยฉันไว้ เดี๋ยววันไหนเลี้ยงข้าวค่ะ”
“ประธานส้งเกรงใจขนาดนี้เชียว?”
“ไม่ช้าไม่เร็วก็ต้องเป็นคนกันเอง แน่นอนว่าต้องเกรงใจหน่อย”ส้งจิ้งเหอตอบ“แล้วก็ บริษัทตระกูลส้งกับบริษทคุณเย่นมีข้อตกลงกันเยอะเลย ฉันต้องเป็นมิตรกับคุณหน่อย”
“ผมต่างหาก บริษัทไม่ใช่ของผม ประธานมองผมสูงไปแล้ว”เย่นจิ่งเหนียนส่ายหัวพร้อมยิ้ม“ผมแค่ศึกษาเรื่องยาเสพติด ไม่ได้ทำธุรกิจ บริษัทล้วนเป็นของพี่ใหญ่ผม”
ส้งจิ้งเหอนิ่งไปแปปนึง
เรื่องนี้หล่อนคิดไม่ถึง หล่อนนึกว่าเย่นจิ่งเหนียนก็เป็นนักธุรกิจ
พอเห็นสีหน้าของผู้ชายที่อยู่ข้างล่างเวทียิ่งบึ้ง เย่นจิ่งเหนียนตั้งใจเข้าไปใกล้ส้งจิ้งเหอแล้วถามพร้อมกับยิ้มว่า:“ประธานส้ง สนใจอยากฟังผมเล่านิทานไหม?”
“คุณเล่ามาสิ”
เย่นจิ่งเหนียนพูด:“ผมมีเพื่อนคนนึงมาจากครอบครัวที่มีชื่อเสียง พ่อรับข้าราชการดัง ตั้งแต่เด็กก็สอนให้เขามีวินัย เขาก็เข้าร่วมกองทัพ ต่อมาเขาพบผู้หญิงคนหนึ่ง แล้วก็ชอบผู้หญิงคนนั้น”
ส้งจิ้งเหอหายใจแรงขึ้น“แล้วยังไงต่อ?”
“เวลาเป็นทหารนั้นยาวนานมาก เขาอยากเกษียณแล้วแต่งงาน แหวนก็เตรียมไว้แล้ว หลังจากพ่อเขารู้ก็โดนด่าเพราะว่าเขาใกล้จะได้เลื่อนยศ พ่อเขาไม่เห็นด้วยที่จะเกษียณในเวลานี้”
“พ่อลูกทะเลาะกัน เมื่อพ่อทนไม่ไหวก็พูดกับเขาว่า แค่ให้เขาเลื่อนยศแล้วอยู่ในค่ายนั้นอีกสามปีก็จะอนุญาตให้เขากับหญิงคนนั้นแต่งงานกัน น่าเสียดายที่แม่เขารู้เรื่องนี้”
เย่นจิ่งเหนียนรับรู้ได้ว่าส้งจิ้งเหอวางมือบนไหล่อย่างแน่น
เขาชะงักไปแล้วพูดต่อว่า:“แม่ของผู้ชายรู้สึกว่าพื้นเพของฝ่ายหญิงไม่ดี ไม่คู่ควรกับลูกเขา เลยไปโน้มน้าวให้ฝ่ายหญิงออกห่างลูกชาย ผู้หญิงคนนั้นรับไปสิบล้านแล้วเขียนจดหมายบอกเลิกฝ่ายชาย ฝ่ายชายเจ็บมาก คิดว่าความสัมพันธ์ไม่กี่ปีนี้เทียบสู้เงินสิบล้านไม่ได้ จึงเกษียณแล้วไปต่างประเทศ”
“หล่อนหลอกฉัน”สีหน้าของส้งจิ้งเหอแย่ลง ดูออกว่าเธอกำลังโกรธ“ฉันเขียนจดหมายให้วี่เหวินถิง แต่ไม่ใช่จดหมายบอกเลิก หล่อนเปลี่ยนจดหมายของฉัน”
ครั้งนั้นเจอวี่เหวินถิงที่โรงพยาบาล หล่อนยังนึกว่าเพื่อตัวเองแล้ววี่เหวินถิงจึงเรียกร้อง ไม่ได้คุยกับเขาเรื่องนั้น ดังนั้นจึงเกลียดตัวเอง
นึกไม่ถึงว่าจดหมายนั้นจะถูกเปลี่ยนทำให้วี่เหวินถิงเข้าใจผิดว่าหล่อนต้องการเลิก คิดว่าหล่อนไร้ความรู้สึก
“ที่จริงแล้วจดหมายถูกเปลี่ยนล่ะ”เย่นจิ่งเหนียนเข้าใจทันที
เขาพูดว่าได้ยินเรื่องนี้จากปากของวี่เหวินถิง อะไรก็ดูผิด ที่จริงแล้วมีคนอยู่เบื้องหลัง
เย่นจิ่งเหนียนพูดยิ้มๆ:“ประธานส้ง ผมได้พูดเหรอว่าเขาคือพี่ใหญ่น่ะ คุณโกรธจัง?”
“ขอบใจ ใจของคุณช่างดี”ส้งจิ้งเหอพูด“ถ้าคุณไม่พูด ฉันคงไม่รู้เรื่องนี้ตลอดไป ตอนนี้ฉันยังมีเรื่องต้องจัดการ ไม่คุยกับคุณละ”
หล่อนหมุนตัวอยากลงจากเวที
เดินไปอย่างร้อนรน แต่เพราะว่ากระโปรงยาวไปจึงเหยียบเข้าแล้วล้มลง เย่นจิ่งเหนียนยื่นมือมา แต่ก็มีเงาหนึ่งเดินเข้ามา
วี่เหวินถิงประคองเอวหล่อนแล้วพาหล่อนไปที่ด้านล่าง ขณะเดียวกันมืออีกข้างก็ปัดมือของเย่นจิ่งเหนียนด้วยสายตาเย็นชา
เย่นจิ่งเหนียนยักไหล่
เขาไม่ทำอะไรอีกแล้ว เรื่องนี้ก็หึงเหรอ?
ท่าทางตกใจของส้งจิ้งเหอพอดีขึ้นแล้วจึงเข้ามา ชำเลืองมองเขาที่สีหน้าเย็นชาแล้วเข้าไปจูบที่แก้มเขา
“ขอบใจ ฉันออกไปจัดการเรื่องก่อน”
ออกมาจากอ้อมกอดเขาอย่างไว รอจนหล่อนหยิบรองเท้าส้นสูงออกจากห้องไป วี่เหวินถิงยังยืนอยู่นั่น
จูบของหล่อนบางเบาเหมือนกับบนแก้มยังมีกลิ่นหอมของหล่อนอยู่
ขอบคุณโดยการจูบ?
ถ้าคนที่จับนั้นไม่ใช่เขา เป็นเย่นจิ่งเหนียน หล่อนก็จะขอบคุณแบบนี้?
วี่เหวินถิงคิด สีหน้าก็ยิ่งเศร้า
“พี่ใหญ่ ประธานส้งไปแล้ว ยืนงงอีก?”เย่นจิ่งเหนียนอยู่ข้างเวทีก็หมอบลงมา เขายิ้มและอยากเยาะเย้ยวี่เหวินถิง
วี่เหวินถิงหันหน้าไปจ้องเขา สายตาเต็มไปด้วยความไม่สบายใจ
หลังของเย่นจิ่งเหนียนก็เย็นวาบ ลำคอขยับอยากจะพูดอะไรก็ได้ยินวี่เหวินถิงพูดอย่างเย็นชา:“ค่าใช้จ่ายในการวิจัยของJHไม่พอ ร้อยล้านนั้นนั้นฉันไปให้วิจัยไม่ได้แล้ว”
“พี่ใหญ่——”
“ฉันเอาบัญชีส่วนตัวโอนให้พวกนายล้านนึง ถือว่าฉันบริจาค”
“......”
บ้า ร้อยล้านกับหนึ่งล้านจะเหมือนกันได้ไง!
ส้งจิ้งเหอสวมรองเท้าส้นสูงเดินผ่านฝูงชนเหมือนสายลม ช่างดูดีมาก
หล่อนอยู่ที่หน้าประตูถามพนักงานต้อนรับว่า:“คุณนายวี่มารึยัง?”
“ยังค่ะ”
หลังจากพนักงานพูดจบ ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งสวมชุดกี่เพ้าสีม่วงเดินเข้าห้องงานเลี้ยงพร้อมท่าทางที่ดูดีสง่างามและโหงวเฮ้งดูดีมีชาติตระกูล
สายตาของส้งจิ้งเหอหม่นหมองเดินไปต้อนรับด้วยรอยยิ้ม
“คุณนายวี่”
“ที่แท้ก็คุณส้ง”คุณนายวี่ยิ้มอย่างนุ่มนวล มองสายตาของส้งจิ้งเหอที่ยังคงเย่อหยิ่ง“จากนอกสมรสไต่เต้ามาถึงจุดนี้ เธอนี่สุดยอดจริง”
“คุณนายวี่ชมเกินไปแล้ว”ส้งจิ้งเหอพูดอย่างเรียบๆ“ฉันพาท่านเข้าไปเอง”
คุณนายวี่ตอบรับเบาๆ
หลังจากเข้าห้องงานเลี้ยงไป ส้งจิ้งเหอก็หยิบแชมเปญมาให้คุณนายวี่
คุณนายวี่เห็นคนรู้จักมากมายในงาน แอบประหลาดใจในตัวของส้งจิ้งเหอ คว้าบริษัทตระกูลส้งมาได้ก็มีพันธมิตรกับนักธุรกิจพวกนี้
แต่ว่า——
คุณนายวี่ชิมแชมเปญพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มๆ“คุณส้งเก่งมาก แต่ฉันมันหัวโบราณ แม้ว่าจะรวยมหาศาลก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสถานะที่เกิดมาได้”
“เธอเอาบริษัทตระกูลส้งมาได้แต่ก็ยังเป็นผู้หญิงนอกสมรสอยู่ดี”หล่อนมองส้งจิ้งเหอ สายตาเต็มไปด้วยความหยิ่ง“กระดูกเธอมันสกปรก ยังไงก็ไม่เหมาะกับลูกชายฉัน”
ส้งจิ้งเหอถือแก้วไว้แน่น สีหน้าไม่ได้แสดงความไม่พอใจอะไรมีแต่รอยยิ้ม“คุณนายวี่หมายความว่า ตระกูลวี่มีชื่อเสียง แต่ไม่ให้คนรอบข้างมัวหมอง”
เงียบไปแปปนึงหล่อนพูดว่า:“ถ้าไม่ใช่ฉันแต่งงานกับตระกูลวี่ แล้วที่ลูกชายของท่านออกจากบ้านล่ะ?”
หน้าของคุณนายวี่แย่ลงทันที“ลูกชายฉันไม่ทำแบบนั้นแน่”
“เขาจะทำไม่ทำฉันก็แน่ใจกว่าท่าน”ส้งจิ้งเหอเข้าไปใกล้คุณนายวี่แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า:“คุณนายวี่ คุณใจดำจริงๆ ฉันยอมรับเงินแล้วหนีไป แต่คุณเห็นแก่ตัวมาเปลี่ยนจดหมายของฉัน ทำให้พวกเราเกลียดกันอีกหลายปี”
คุณนายวี่เห็นหล่อนพูดแบบนี้ก็ประหลาดใจเล็กน้อย แปปนึงก็พูดว่า:“เป็นฉันที่เปลี่ยนแล้วจะทำไม?เธอเอาเงินไปแล้วก็ไม่ควรเขียนจดหมายให้ลูกชายฉัน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน
สนุกมากๆๆๆ...