บทที่269 ยัยเด็กไม่มีการศึกษา
สีหน้าของส้งจิ้งเหอทนไม่ไหวต่อไป“ฉันไม่เคยเห็นแม่ที่ใจร้ายใจดำขนาดนี้มาก่อน”
“ถ้าเป็นเธอ ก็ทำแบบนี้เหมือนกัน”คุณนายวี่พูด“ถ้าเธอเกิดมาในชาติตระกูลไม่ดี ฉันก็ไม่เลือก ดูชาติกำเนิดเธอกับตระกูลวี่สิ”
“ฉันเอาคุณเข้าตระกูลจริงๆ ทั้งเมืองหนานเฉิงต้องขำฉันแน่!”
“ท่านสุดยอดจริงๆ แม้แต่อนาคตของลูกชายยังเอามาใช้ประโยชน์”ส้งจิ้งเหอกลั้นความโกรธอย่างสุดฤทธิ์ คนที่มาต่างมีหน้ามีตาทั้งนั้น หล่อนจะมาทะเลาะตรงนี้ไม่ได้
“ถ้าเอฉลาดขึ้นมาหน่อย ฉันจะทำแบบนั้น?”คุณยานวี่หัวเราะในลำคอ“เธอพูดได้เต็มปากว่าเอาเงินของฉันมา จะไม่ติดต่อลูกชายฉันอีกแต่กลับส่งจดหมายมาให้”
“ในจดหมายบอกเขาว่า พวกเราตกลงกันแล้วยังบอกอีกว่าเธอยังรอเขา ไม่ว่านานแค่ไหนก็รอ ถ้าฉันไม่เปลี่ยนจดหมาย ฉันต้องรอเขาเกษียณณอีกสามปีแล้วค่อยเอาเธอมาแต่งเข้าตระกูลนี่นะ?”
น้ำเสียงคุณนายวี่ไม่พอใจ“ฉันแค่นึกไม่ถึง เพื่อหล่อนเหวินถิงถึงกับไม่ต้องการเลื่อนตำแหน่ง หนีไปต่างประเทศ ส้งจิ้งเหอ มารยาจริงๆ เธอนี่มันสุดยอด!”
ส้งจิ้งเหอยิ้มน้อยๆ“ท่านคงไม่รู้สินะ เขาแต่งกับฉันตั้งนานแล้ว”
“เธอหมายถึงอะไร?”
ส้งจิ้งเหอชูมือซ้ายขึ้นยื่นนิ้วนางให้คุณนายวี่ดูแล้วยิ้มออกมา“ฮันลืมไป งานแต่งงานวันนั้นคุณไม่ได้ไป ท่านน่าจะไม่รู้”
“เป็นฉันที่อยากเอาหุ้นของบริษัทตระกูลส้ง ก็เลยคุยกับประธานมู่เรื่องแต่งงานปลอมๆ แต่ว่าวันแต่งงานวันนั้น ประธานมู่วิ่งแล้ว ฉันกับวี่เหวินถิงจัดงานแต่งขึ้นมา แหวนนี่ก็เขาใส่ให้”
“เธอพูดอะไรซี้ซั้ว!”คุณนายวี่พูดด้วยความโกรธ“เธอคิดว่าใส่แหวนแบบนี้มาหลอกฉันได้เหรอ?”
“หลอกหรือไม่หลอกท่าน ท่านก็ถามตระกูลมู่กับตระกูลส้งก็รู้แล้ว”ก่อนไป หล่อนเข้าไปใกล้ๆที่หูของคุณนายวี่พูดอย่างยิ้มๆว่า:“ท่านรอดีๆล่ะ ต่อไปจะมีเรื่องน่าตื่นเต้นให้ท่านอีก”
คุณนายวี่มองส้งจิ้งเหอเดินออกไป ก็โกรธออกมาจนเหมือนจะระเบิด
หล่อนเกลียดผู้หญิงนอกสมรสคนนี้จริงๆ!
เมื่อก่อนแบบนี้ ตอนนี้ก็แบบนี้ ยุ่งกับใครไม่ยุ่ง มาพัวพันกับลูกชายหล่อนแล้วยังจะมากล้าพูดแบบนี้กับหล่อนอีก!
ไม่มีการศึกษาก็คือไม่มีการศึกษา ได้บริษัทตระกูลส้งแล้วก็เหมือนเดิม!
มีพนักงานผ่านมาเห็นคุณนายวี่ถือแก้วเปล่าจึงถามว่า:“คุณนาย เปลี่ยนแก้วไหมครับ?”
“ไม่ต้อง!”คุณนายวี่ตอบอย่างเรียบๆ
พนักงานถูกหล่อนตะเพิดไล่ไป เขาที่เพิ่งถือถาดออกไป คุณนายวี่ก็พูดอีกว่า:“รอก่อน!”
จากนั้นเอาแก้วเปล่าวางในถาดแล้วหยิบแก้วแชมเปญใหม่
พนักงาน:“......”
คุณนายคนนี้ป่วยจิต!
ถังซินที่อยู่ห้องส่วนตัวได้รับวีแชทของฉางผิงว่าเขาก็มาแล้ว
ถังซินคิดว่าเขาต้องไม่มีเพื่อนเล่น ถ้าจะไปเล่นกับเขาต้องถูกมู่เฉินหย่วนถามทั้งวันแน่ ท่าทางระวังตัวแบบนั้นเหมือนว่าหล่อนจะไปหาชายคนอื่น
ไม่ง่ายเลยที่จะออกมาจากมู่เฉินหย่วน ถังซินออกมาจากห้องนั้น สายตามองไปรอบๆก็เห็นเด็กน้อยนั่งอยู่ตรงมุมใส่ชุดสูทสีดำ ท่าทางหล่อสุดๆ
พอเห็นหน้ากากนั้นถังซินก็รู้ทันทีว่าคือใคร
ถังซินเดินเข้าไปถามยิ้มๆ:“อั้ย นี่เจ้าชายมาจากโลกไหนเนี่ย?”
“พี่ครับ!”ฉางผิงเรียกหล่อนอย่างดีใจแล้วยืนขึ้นมาจากโซฟา“แต่อย่าบอกแม่ผมนะ ผมแอบมา กลัวแม่รู้แล้วจะว่าผมอีก”
“เจ้าตัวยุ่งแอบแม่ออกมาตลอดเลย”ถังซินหยิกจมูกเขา“หิวไหม?”
ฉางผิงโดนพูดแบบนี้ก็รู้สึกหิวขึ้นมาจริงๆ
ในห้องงานเลี้ยงมีคนมากมาย ถังซินกลัวว่าเขาจะถูกสังเกตเห็นก็เลยบังเขาออกไปที่สวนลอยฟ้า
สวนนั่นสวยมาก มีน้ำพุด้วย
ทั้งสองสั่งอาหารมานิดหน่อย พนักงานก็รีบลงไป ฉางผิงปากหวานมากชมถังซินว่า:“วันนี้พี่สวยจัง ผมอยากแต่งงานกับพี่”
ถังซินยิ้มออกมา“ไม่ได้หรอก เราอายุต่างกันเยอะเลย”
“เพราะพี่สวยมาก ผมอยากเอาพี่เก็บไว้เอง”ฉางผิงพูดออกมาอย่างแน่วแน่“ผมโตไว แค่ไม่บอกก็ไม่มีใครรู้ว่าผมอายุเท่าไหร่นี่?”
“ปากหวานจังเลยนะ!”ถังซินอดไม่ไหวจึงจับหน้าเขาแล้วคิดถึงวี่เหวินถิงที่เย็นชาไร้ความรู้สึก“ดีที่หนูไม่เหมือนพ่อ เย็นชาขนาดนั้น”
ฉางผิงเถียงกลับ:“พ่อผมไม่เย็นชา แม่บอกว่าพ่ออ่อนโยนที่สุดในโลก เป็นผู้ชายที่หล่อที่สุด!”
ถังซินยิ้ม
ในสายตาของคนรักกันหล่อนเข้าใจ
ในขณะที่กินมื้อเย็นแล้วเงียบไปได้แปปนึงฉางผิงก็ถาม:“พี่ครับ พี่ติดต่อเพื่อนของพ่อผมได้ไหม?”
“เป็นไรไป?”
“ผมอยากให้พ่อกลับมาไวๆ”ฉางผิงเอามือเท้าคาง ในสายตาเต็มไปด้วยความคิด“ผมเจอพ่อไม่ได้ไม่เป็นไร ยังไงซะพ่อก็ส่งของขวัญมาให้ แต่ว่าแม่ลำบากมาก”
“แม่ต้องดูแลผม ต้องทำงานอีก เหนื่อยมากๆ ผมหวังว่าพ่อจะกลับมาอยู่กับแม่มาช่วยแม่บ้าง ผมรู้ว่าในใจของแม่ต้องคิดถึงพ่อแน่ๆ”
ถังซินอยากพูดอะไรออกมาแต่ก็ทำได้แค่ลูบหัวเขา
“หนูนี่คิดได้จริงๆ”
ฉางผิงยักไหล่พูดว่า:“แม่ลำบากขนาดนั้น ผมไม่ทำให้แม่ลำบากมากขึ้นเหรอก หวังว่าผมจะโตไวๆจะได้ทำงานแทนพ่อ ให้พ่ออยู่กับแม่”
“หนุโตช้าๆดีกว่า”ถังซินพูดหยอก“พี่ยังไม่รู้ว่าแต่งงานเมื่อไหร่ ถ้าหนูโตไว แล้วภรรยาล่ะไม่เอาแล้วเหรอ?”
“ก็ใช่อ่า!”ฉางผิงคิดดูก็ใช่แล้วพูดเบาๆ:“แม่สำคัญ แต่ว่าภรรยาก็ขาดไม่ได้ พี่รีบแต่งงานสิ!”
ถังซินตั้งใจแกล้งเขา“แต่งงานกับคุณลุงที่คล้ายหนูดีไหม?”
“ไม่ได้”ฉางผิงปฏิเสธ เขาย่นคิ้วพูดว่า“พวกพี่แต่งงานกันแล้วถ้าเด็กหน้าเหมือนผมจะทำไง คนเข้าใจผิดสิ”
“หนูกลัวคนเข้าใจผิด หรือว่ากลัวลุงนั้นแต่งงานกับพี่?”
คล้ายกับว่าฉางผิงกำลังคิด ผ่านไปแปปนึงค่อยๆกลืนแล้วพูดว่า:“ผมว่า พี่กับประธานมู่ไม่เหมาะสม ไม่เหมาะกับลุงนั่น”
ถังซินหัวเราะในลำคอ“ไม่เหมาะยังไง พี่ไม่สวยเหรอ?”
“ผมว่าเขาไม่สมกับพี่”
“ว้าว เด็กนี่เกินไปแล้ว!”ถังซินบีบหน้าเขา แกล้งทำเป็นโกรธ“ต่อไปพี่ไม่เอาของขวัญพ่อหนูมาให้แล้ว”
“พี่อย่าบีบสิ ถ้าบีบแล้วน่าเกลียดจะทำไง”
“งั้นพี่ช่วยหาคนหล่อๆให้เขา”
“ไม่ได้!”
ตอนที่ทั้งสองเถียงกัน ก็ไม่ได้สังเกตว่ามีคนเปิดประตูเข้ามา
เห็นแสงไฟถูกปิดไว้ ถังซินถึงหันไปเห็นคุณนายวี่ที่ท่าทางสง่างามดูดียืนอยู่ข้างๆโต๊ะพวกเขา
“คุณนายวี่”สายตาของคุณนายวี่จ้องไปที่ตัวเขา ถังซินเอามือแตะๆไปที่ศีรษะฉางผิงเพื่อส่งสัญญาณให้เขาใส่หน้ากากแล้วลุกขึ้นมา“มีอะไรไหม?”
ตอนที่คุณนายวี่มองไปที่ฉางผิง เด็กน้อยนั้นก็ใส่หน้ากากแล้ว
หล่อนเหลือบมองเด็กน้อยแล้วพูดกับถังซินว่า:“คุณถัง รักษาระยะห่างด้วย ถ้าสนิทกับลูกคนอื่นมากไป คนจะคิดได้ว่านี่เป็นลูกคุณ ทำให้คุณเสียชื่อเสียงได้”
“ฉันไม่เป็นไรค่ะ ยังไงซะชื่อเสียงก็ถูกทำลายไปหลายรอบแล้ว”ถังซินพูดด้วยน้ำเสียงขี้เกียจๆไม่สนใจอะไร“สื่อชอบเขียนยังไงก็แล้วแต่พวกเขา”
“เธอ......”คุณนายวี่แสดงท่าทางถูกทำให้โกรธออกมา
ในห้องงานเลี้ยงถูกส้งจิ้งเหอยั่วมารอบนึง มาตรงนี้ก็โดนอีกรอบ ยัยพวกนี้ไม่เห็นหัวกันเลย?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน
สนุกมากๆๆๆ...