บทที่ 275 คุณมู่ใช้แผนการหลอกเธออีกแล้ว
ถังซินเตะเขาออกไปเบาๆ “เล่นคนเดียวไปเลย”
เยอรมันเชฟเฟิร์ดก็เข้ามาอีก
“โอ้ย เล่นคนเดียวไปก่อน เดี๋ยวรอทำอาหารเช้าเสร็จแล้วจะไปเล่นด้วยนะ”
“อย่าวุ่นวายกับขาของฉัน อ้วนจริงๆ”
ถังซินไล่ไปกี่ครั้งก็ไม่ไปก็เล่นช่างมันแล้ว ตอนที่หยิบของก็จะก้มลงไปเห็นร่างกายอ้วนจ้ำม่ำเขาอย่างไม่ได้ตั้งใจ
เธอถอนหายใจแล้วพูดว่า “ดูซิ อยู่กับคุณมู่แล้วกินดีอยู่ดี เติบโตเร็วกว่าแมวที่ฉันเลี้ยงไว้อีก”
เยอรมันเชฟเฟิร์ดทำจมูกฟุดฟิด แล้วก็วิ่งไปทางนอกห้องครัว
ถังซินก็นึกว่ามันหิวเลยจะไปกินอาหาร ก็เลยไม่ได้สนใจ มัวแต่สนใจอยู่กับการทำอาหาร เนื่องจากเธอหันหลังให้ประตูห้องครัว เธอก็เลยไม่ทันได้สังเกตว่ามู่เฉินหย่วนลงมาจากชั้นสองแล้ว เยอรมันเชฟเฟิร์ดวิ่งไปหาเขา
มู่เฉินหย่วนก็ยังคงไม่ถูกกับสัตว์เลี้ยงเท่าไหร่นัก แต่ก็เลี้ยงมาตั้งนานขนาดนี้แล้วก็เริ่มคุ้นเคยกับการที่เยอรมันเชฟเฟิร์ดชอบมากัดรองเท้าแตะของเขา เขาเดินหน้านิ่งๆไปที่บาร์กาแฟกะว่าจะชงกาแฟดื่มแต่รู้สึกได้ว่าในบ้านมีอะไรบางอย่างนอกจากตัวเขา
ในบริเวณทางเข้ามีรองเท้าหนังของผู้หญิงอยู่หนึ่งคู่ ในห้องครัวก็มีคนอยู่
เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย เดินไปทางห้องครัว ดันประตูเข้าไป เห็นถังซินที่กำลังวุ่นวายอยู่กับหม้อนึ่งไม้ไผ่ที่มีควันลอยขโมงออกมาพร้อมกลิ่นหอมฟุ้ง
หญิงสาวที่ยุ่งวุ่นวายอยู่และห้องครัวที่เต็มไปด้วยกลิ่นหอม ทำให้บ้านพักหลังนี้มีชีวิตชีวาขึ้นมา
มู่เฉินหย่วนยืนพิงอยู่ที่ประตูห้องครัว ไม่ส่งเสียงใดๆ ดูเธอด้วยความสนใจในขณะที่เธอกำลังจัดการกับส่วนผสมอยู่และพูดพึมพำกับตัวเองว่า “เดี๋ยวจะปลุกเขายังไงดีนะ?”
“ที่รักคะ ฉันทำอาหารเช้าไว้ให้คุณ ตื่นมากินได้แล้วนะ? ไม่ได้สิ!พูดเองฉันยังรู้สึกขนลุกเลยเนี่ย หรือจะพูดว่า คุณมู่คะ ฉันโดนคุณวี่รังแกแต่คุณไม่ต้องโมโหนะ เดี๋ยววันหลังฉันจะทำอาหารเช้าเป็นเวลาหนึ่งเดือนให้คุณเอง? โอ้ยไม่ได้สิ! ตื่นเช้าตั้งหนึ่งเดือนเหนื่อยเกินไป....”
“โอ้ยเครียด! ความผิดของคุณวี่เลย ไม่ได้มีแค่ฉันคนเดียวสักหน่อยที่เดินใกล้คุณมู่ แต่ก็มาหาฉันอยู่นั่นแหละ”
“ฉันขอให้วี่เหวินถิงรีบๆล้มละลายไปเลย”
มู่เฉินหย่วนแอบยิ้ม แล้วพูดอย่างช้าๆว่า “งั้นคุณคงต้องอธิษฐานเยอะหน่อยนะ บริษัทพี่ชายผมมีตั้งเยอะ รายได้ก็ไม่น้อยไปกว่าบริษัทมู่ซื่อเลย คงต้องใช้เวลานานหน่อยถึงจะล้มละลายได้”
ถังซินตกใจและหันกลับไปมองมู่เฉินหย่วนที่ยืนอยู่อย่างขี้เกียจ “คุณมู่ คุณ ..ตื่นแล้วหรอ? ฮ่าๆ...”
เธอแตะหน้าผากของเธอด้วยความรู้สึกผิด แต่ลืมไปว่ามือของเธอเต็มไปด้วยเครื่องเทศ ซีอิ๊วเปื้อนไปที่หน้าผากของเธอเต็มไปหมด มู่เฉินหย่วนมองไปที่เธอแล้วหลุดหัวเราะออกมา
ถังซินกระตุกยิ้มมุมปาก
ผู้ชายคนนี้ตื่นนอนมาแต่วิญญาณยังไม่ทันเข้าร่างสินะ อย่างกับคนโง่!
“คุณถัง เครื่องเทศเปื้อนเต็มหน้าคุณหมดแล้วนะ” มู่เฉินหย่วนหยิบกระดาษทิชชู่ออกมาสองแผ่นและช่วยเธอเช็ดสิ่งสกปรกบนหน้าผากเธอ ทำให้ระยะห่างระหว่างทั้งสองใกล้กันมาก
“ขะ ขอบคุณค่ะ” ถังซินเอนถอยหลัง
เธออยากหลบมากเท่าไหร่ มู่เฉินหย่วนก็ยิ่งเข้ามาใกล้มากขึ้น เอาแขนทั้งสองข้างเท้ากับเคาเตอร์ห้องครัวทำให้เธออยู่ในอ้อมกอดของเขา เขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า “คุณหนูถัง เธอรู้ไหมว่าทำไมผมถึงโกรธ”
ถังซินมองไปที่ผู้ชายคนนั้นอย่างประหม่า รู้สึกตื่นเต้น แล้วพูดอย่างติดๆอ่างๆว่า “มะ ไม่รู้”
“หืม? ไม่รู้หรอ?” มู่เฉินหย่วนขยับเข้าไปใกล้เธอมากขึ้นไปอีก “จากที่เห็นคุณถังพูดมาเกือบจะครึ่งวันแล้วเนี่ย ผมก็นึกว่าคุณตั้งใจมาทำอาหารให้ผมทานเพราะจะหลอกให้ผมดีใจแล้วลืมเรื่องนั้นอย่างงั้นหรอ?”
แย่แล้ว เขาได้ยินหมดแล้ว....
ถังซินฉีกยิ้มด้วยความรู้สึกผิด “สัญญาอันนั้นคุณวี่บังคับให้ฉันเซ็นจริงๆนะ แล้วที่ฉันมาที่นี่เนี่ยก็เพราะฉันชอบทำอาหารอยากจะให้คุณได้กินไงคะ”
“ผมไม่เชื่อ”
“หา?”
มู่เฉินหย่วนตอบ “ผมว่าคุณตั้งใจเซ็นเองมากกว่า กลัวจะต้องมาเกี่ยวข้องกับผม”
“ฉันสาบานได้เลย!”
“ปากคุณพูดว่าสาบานแต่ในใจอาจจะบอกว่าไม่นับก็ได้นี่”
สีหน้าของถังซินเริ่มไม่เป็นธรรมชาติ
แค่นี้เขายังเดาออกอีก เก่งจริงๆ!
มู่เฉินหย่วนพูดช้าๆว่า “อยากจะให้ผมเชื่อก็ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้นะ ไหนคุณลองดูสิ
ถังซินตอบ “ลองอะไร?”
“เป็นแฟนผมสิ” มู่เฉินหย่วนใช้นิ้วโป้งลูบแก้มเธอเบาๆ “แค่คุณทำให้ผมรู้สึกถึงความจริงใจของคุณ ผมก็จะเชื่อว่าสัญญานั้นคือพี่ชายของผมบังคับให้คุณเซ็นเอง”
“……”
เธอนิ่งคิดไปสักพัก เหมือนพยายามจะหานัยยะในประโยคที่เขาพูดอยู่ เขาเริ่มเกลี้ยกล่อมเธออีกรอบ “ผมรับรอง ว่าจะไม่ไปหาคุณเวลาที่อยู่ในบริษัท ไม่ให้คนอื่นรู้เรื่องความสัมพันธ์ของเราแน่นอน ยกเว้นว่าคุณจะอยากเปิดเผยเอง”
“มีแฟนเป็นผมมันไม่ดีตรงไหน? ทั้งหล่อ ทั้งสูงแล้วยังรวยอีกคุณอยากเรียนอะไรผมก็จะไปหาครูมาสอนให้ขอแค่คุณบอก หรือถ้าคุณหิวผมก็จะไปทำอาหารให้คุณกินเอง”
ถังซินตอบเขาอย่างดูถูกว่า “อาหารที่คุณทำไม่อร่อยสักนิด”
“แต่ผมดูแลคุณได้นะ” มู่เฉินหย่วนคิดแล้วคิดอีก พยายามหาข้อดีเพิ่มให้ตัวเอง “แล้วก็แมวบ้านคุณ”
“ฉันก็ดูแลเองได้นะ”
“ถังซิน คุณคิดดีดีนะ ผมเป็นบ่อเงินบ่อทองเลยนะ คุณไม่อยากได้หรอ?” มู่เฉินหย่วนพยายามหลอกล่อ “ถ้าคุณกอดผมไว้นะ ชีวิตนี้ทั้งชีวิตคุณไม่ต้องกังวลอะไรอีกเลย ได้ข่าวว่าอีกสองเดือน ที่สาธารณรัฐเช็กจะสนุกมาก คุณไม่อยากพาแม่ไปเที่ยวหน่อยหรอ? ผมมีเครื่องบินส่วนตัวตั้งหลายลำ”
ถังซินเริ่มสนใจขึ้นมาเล็กน้อย “ไปดูเพนกวินที่ขั้วโลกเหนือได้ไหม?”
“ได้สิ คุณอยากเลี้ยงยังได้เลย”
“เดี๋ยวขอคิดดูก่อนนะ” ถังซินกัดริมฝีปากตัวเองเบา “รู้สึกว่าแปลกๆยังไงไม่รู้”
สายตาของมู่เฉินหย่วนฉายประกายแวววาวแล้วพูดอย่างใจเย็นว่า “ วงSFที่คุณชอบเหมือนว่าเดือนหน้าจะจัดคอนเสิร์ตที่ลอสแองเจลิสนี่ เรานั่งเครื่องบินส่วนตัวไปกันได้ แล้วก็นั่งแถวหน้าสุด พอดูคอนเสิร์ตเสร็จ เราก็ยังสามารถไปคุยกับพวกเขา ขอลายเซ็นต์ที่หลังเวที แล้วยังไปกินข้าวด้วยกันได้อีก”
ถังซินเริ่มตื่นเต้นขึ้นมา
วงSFหรอ แล้วยังไปกินข้าวกับพวกเขาอีก!!
พอเห็นว่าเหยื่อติดกับแล้ว ชายหนุ่มก็ยิ้มเล็กน้อย “แค่คุณกลายเป็นภรรยาของตระกูลมู่ ก็ไม่ต้องทำอะไรเองทั้งนั้น พวกดาราพวกนั้นก้จะมาขอกินข้าวพูดคุยกับคุณเอง แล้วยังส่งลายเซ็นมาให้อีก”
“ฉันตกลง!!”
มู่เฉินหย่วนถามซ้ำอีกหนึ่งรอบ “แน่ใจนะ?”
“แน่ใจ!” ถังซินพยักหน้า
มู่เฉินหย่วนหลุดยิ้มออกมาที่มุมปากแล้วหอมแก้มถังซิน “งั้นคุณนายมู่ เดี๋ยวผมขอขึ้นไปเปลี่ยนชุดก่อน รอทานอาหารเช้าของคุณ”
จนถึงตอนที่เขาเดินออกไปจากห้องครัวแล้วเธอถึงจะมีสติกลับมา งงไปหมดแล้ว
เมื่อกี้เขาเรียกฉันว่าไงนะ??
คุณนายมู่?
ถังซินถึงกับใจเต้นไปทีหนึ่งเพราะชื่อนั้น เธอรีบทำให้ตัวเองสงบสติอารมณ์ลง หลังจากเธอคิดไปสักพักพึ่งจะรู้ตัวว่าโดนหลอก
ตอนแรกเขาบอกว่าเป็นแฟนแต่หลังจากที่เกลี้ยกล่อมเธอจนตกลงแล้วกลับเรียกว่าคุณนายมู่แทน
คนอื่นเขาถูกขอแต่งงาน มีแหวนเพชรมาให้ แล้วยังมีดอกกุหลาบอีก แต่กับคนนี้นี่คืออะไรเนี่ย
ขอแต่งงานหรอ?
ไม่ใช่สิ!
ถังซินตบเรียกสติตัวเองหนึ่งที แล้วบ่นอุบอิบว่า “ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดเรื่องขอแต่งงานสิ! เป็นแฟนยังไม่เกี่ยวข้อกับกฎหมายยังพอเลิกกันได้ แต่ถ้ากลายเป็นเป็นว่าที่เจ้าสาวแบบนี้ก็เลิกยากน่ะสิ”
หลังจากที่เธอใจเย็นลง ในใจเธอก็คิดแต่ว่า “ดูแลรักษาชีวิตตัวเองดีๆแล้วอยู่ให้ห่างจากคุณมู่ดีกว่า”
__
หลังจากที่ถังซินโดนเขาหลอกเข้าให้เธอก็รู้สึกสับสนมาก
หลังจากที่เธอพึ่งเข้ามาที่บริษัทก็มีคนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาจากด้านหลังจนเกือบชนเธอล้ม “นีนี วันนี้ตื่นเช้าจัง ไปเตรียมอาหารเช้าแสนรักมาให้คุณมู่หรอ?”
“ฉันกำลังหงุดหงิดนะ!” ถังซินไม่อยากสนใจเธอ
หลี่ซูเจ๋หลบออกมาจากตัวเธอ แล้วเปลี่ยนเป็นไปจับมือเธอไว้ เห็นสีหน้าที่ดูมีความสุขของเธอ “นีนี ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ...”
หลังจากถังซินถลึงตาใส่ เธอก็เปลี่ยนคำพูด “สีหน้าไม่ค่อยดีเลย คุณมู่รังแกเธอหรอ?”
ถังซินกัดฟันแน่น “ยิ่งกว่ารังแกอีก!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน
สนุกมากๆๆๆ...