รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน นิยาย บท 286

บทที่ 286 ฉันแพงมากนะ คุณต้องการหรือ

วี่เหวินถิงแย้งอย่างไม่แยแส “ผมไม่เคยถูกผู้หญิงในโลกธุรกิจหลอก”

“แล้วคุณยังอยากลองหรือไม่” ส้งจิ้งเหอมองค้อนเขา ค้อนไปไม่นานก็เอ่ยด่าอีกครา “หากคิดว่าจดหมายมันมีปัญหา แล้วทำไมคุณถึงปล่อยเรื่องเลื่อนตำแหน่งมันไป ปล่อยเรื่องสามปีไปไม่ได้หรือ”

หลังจากที่ความเข้าใจผิดของคนทั้งสองคลี่คลาย บรรยากาศก็ไม่ได้มาคุอีกต่อไป

“แฟนก็ไม่มี ไม่รู้จะเลื่อนตำแหน่งไปทำไม” วี่เหวินถิงกล่าว “แต่เดิมมันเป็นการเดิมพันของผมกับพ่อ หากอยู่ตรงนั้นได้สามปี เขาจะไม่วุ่นวายชีวิตของคุณอีก”

ส้งจิ้งเหอได้ยินเช่นนั้นก็เริ่มแสบจมูก ถลาเข้าไปในอ้อมกอดของเขา และกอดเอวของเขาไว้แน่น “ไม่รู้จริงๆ ว่าคุณโง่ หรือเพราะรักฉันกันแน่ ไม่คว้าอนาคตอะไรไว้เลย”

“ชีวิตผมในตอนนี้ก็ไม่แย่”

“ใช่ ค่าตัวนับหมื่นล้านแล้วนี่” ส้งจิ้งเหอหัวเราะ และเงยหน้าขึ้นถามเขา “คุณพูดความจริงมานะ หลังจากที่คุณกลับประเทศมา ก็เอาแต่สนใจฉัน ทั้งยังยื่นมือมาช่วยบริษัทตระกูลส้งอีกใช่ไหม”

“อือ แค่เพราะช่วงนั้นว่างเฉยๆ” วี่เหวินถิงยังคงปากแข็ง

“ห่วงฉันแท้ๆ ยังมีหน้าปากแข็งอยู่อีก” ส้งจิ้งเหอดุเขาขำๆ “ฉันก็ว่า พวกคนแก่นั่นเกลียดฉันมาตั้งหลายปี จู่ๆ ก็มีท่าทีที่ดีขึ้น เป็นเพราะคุณที่อยู่เบื้องหลังทั้งนั้น”

เธอตะเกียกตะกายขึ้นไปนั่งบนตักของเขา “นิสัยคุณไม่ได้แย่ขนาดนั้น ตั้งใจฟังฉัน ความสัมพันธ์ระหว่างเราจะต้องดียิ่งขึ้น”

วี่เหวินถิงที่ตื่นตัว ใบหน้าเริ่มไม่คงที่ “ผมจะพยายามปรับตัว”

“ไม่ใช่พยายาม ต้องทำให้ได้” ส้งจิ้งเหอกล่าวอย่างหนักแน่น ก่อนจะเอื้อมมือโอบรอบคอของเขาไว้ “ตอนนี้ฉันคือประธานของบริษัทตระกูลส้ง มีชายหนุ่มมากมายที่อยากจะนัดฉันไปทานอาหาร วี่เหวินถิง หากคุณไม่พยายามไล่ตามฉัน ไม่แน่ว่าภรรยาและลูกของคุณอาจจะไปอยู่ที่บ้านของคนอื่นก็เป็นได้”

“คุณกล้า”

ส้งจิ้งเหอยิ้มเยาะ ก่อนจะกล่าวอย่างยั่วโมโห “ทำไมถึงจะไม่กล้าล่ะคะ ฉันจะหาคนที่มีเงินเยอะกว่าคุณ นิสัยดีกว่าคุณ ให้ลูกชายของฉันใช้นามสกุลของเขา และเรียกเขาว่าพ่อ”

เหลือบมองใบหน้าทะมึนของชายหนุ่ม ส้งจิ้งเหอก็ซ่อนตัวอยู่ที่ไหล่ของเขา แอบขำจนสั่นไปทั้งตัว

สี่ปีแล้ว เขายังคงเป็นคนที่ยั่วโมโหได้ง่ายเช่นเดิม

วี่เหวินถิงนั่นโมโหจริงๆ แล้ว

มันไม่ง่ายที่ความเข้าใจผิดของเขาทั้งสองคนจะถูกแก้ไข แต่ผู้หญิงคนนี้กลับบอกจะไปแต่งกับชายอื่น ทั้งยังจะมีลูกให้กับเขา โดยไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย

วี่เหวินถิงปลดตะขอเสื้อในของหญิงสาว จูบเพื่อปิดปากของเธอไว้ ราวกับต้องการลงโทษ ส้งจิ้งเหอโอบรอบคอของเขาไว้พร้อมจูบตอบ ดวงตาเบิกกว้างโดยที่ยังหัวเราะไปด้วย

ผู้หญิงคนนี้

หลังจากหนึ่งจูบ วี่เหวินถิงก็กดเธอกับโซฟา ดวงตาหรี่แคบจนดูน่ากลัวในสายตาคนมอง

“ยังน่าขำหรือไม่”

“แค่มีความสุขมากๆ เท่านั้นเองค่ะ” ส้งจิ้งเหอยิ้มบางๆ นิ้วเรียวซุกซนอยู่ที่เข็มขัดของเขา แววตาเผยประกายออดอ้อน “ให้ฉันช่วยถอดไหมคะ”

เพียงบิดตัว เสื้อกันลมตัวโคร่งก็หลุดออก เผยให้เห็นผิวขาวและสายเสื้อในสีม่วงอ่อน

หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลง

อากาศโดยรอบนี้อบอวลไปด้วยกลิ่นน้ำหอมของเธอ

ร่างกายของวี่เหวินถิงเริ่มร้อนรุ่ม กลืนน้ำลายสองครั้งจนลูกกระเดือกขยับ “ต้องการ”

ส้งจิ้งเหอส่งเสียงอือ คลิก ดังขึ้น หัวเข็มขัดก็ถูกปลดทันที

เธอเผยอปากแดงเพียงเล็กน้อย “คุณวี่คะ ฉันแพงมากนะคะ คุณจ่ายไหวใช่ไหม”

“คุณต้องการอะไรครับ”

ส้งจิ้งเหอจิกร่างของเขา รอจนเขาโน้มตัวลงมา ริมฝีปากแดงชาดกระซิบที่ข้างหูของเขา ก่อนจะหอบหายใจแผ่วเบา

“ต้องการคุณ และทรัพย์สินทั้งหมดของคุณ ได้ไหมคะ”

ชายหนุ่มไม่ลังเล “ครับ”

เขาไม่อยากพลาดอีกแล้ว สิ่งที่เขาต้องการ มีเพียงเธอเท่านั้น

“คุณวี่ตอบเร็วโดยไม่แม้แต่จะลังเลเลยนะคะ ดูจริงใจมากๆ เลย” ส้งจิ้งเหอจูบเป็นรางวัลให้แก่เขา “เช่นนั้นฉันจะมอบเซอร์ไพรส์ให้กับคุณค่ะ”

เธอโอบรอบคอของชายหนุ่ม และกระซิบแผ่วเบา “ฉันให้...”

“พี่ใหญ่ พี่ใหญ่อยู่ไหม”

เสียงเคาะประตูอย่างบ้าคลั่งดังขึ้นแทรกคำพูดของส้งจิ้งเหอ ลู่เหวินซูโวยวายเสียงดงราวกับตัวบีเวอร์ “งานจะเริ่มแล้ว รีบออกไปเล่นกันเถอะ”

วี่เหวินถิงใบหน้ามืดคลำทันที

“ช่างเถอะ ไปเล่นที่บอลรูมกันเถอะค่ะ” เมื่อถูกขัด ส้งจิ้งเหอก็ไม่คิดจะกล่าวต่ออีก

ทั้งสองคนคืนดีกันแล้ว ค่อยพูดในภายหลังก็ยังไม่สาย

เธอปลีกออกมาจากแขนเหล็กของวี่เหวินถิง ก่อนจะหยิบเดรสสเว็ตเตอร์บนพื้นขึ้นมาใส่ ร่างที่ขาวจนตาพร่าถูกปกคลุมไปแล้ว และเดินออกจากห้องนอนไป

เปิดประตูห้องออกไป สบตาที่ตื่นตะลึงของลู่เหวินซู ส้งจิ้งเหอยิ้มเล็กน้อย “สวัสดีตอนเย็นน้องสี่”

“อ่า สวัสดีตอนเย็นครับ”

ทันทีที่ลู่เหวินซูได้สติ ก็เข้าไปในห้องทันที

เมื่อเดินมาถึงหน้าประตูห้องนอน เขาถึงได้รู้สึกตัว เมื่อครู่ส้งจิ้งเหอเรียกตัวเขาว่า น้องสี่

บัดซบ

“พี่ใหญ่” ลู่เหวินซูวิ่งเข้าไปในห้องนอน ก็พบว่าวี่เหวินถิงเปลี่ยนมาใส่ชุดสูทสีดำแล้ว ก่อนจะกล่าวด้วยท่าทีตื่นตระหนก “พี่ได้ยินไหม ประธานส้งเรียกผมว่าน้องสี่ พวกพี่...”

“ไม่เรียกน้องสี่แล้วจะให้เรียกว่าอะไร” วี่เหวินถิงกล่าวเสียงเย็นชา

ลู่เหวินซูที่เห็นรอยจูบช้ำจางๆ ที่คอของเขา ก็ยิ้มอย่างมีเลศนัย “โอ้...พวกพี่ดีกันแล้วหรือ พี่ใหญ่ในที่สุดพี่ก็ไม่มีท่าทีเหม็นเบื่อเหมือนว่าโลกทำร้ายพี่อีกแล้ว”

วี่เหวินถิงไม่คิดจะสนใจเขาแม้แต่น้อย “ออกไป”

“เยี่ยม” ลู่เหวินซูหลบพัลวัน ก่อนจะเดินกลับมาอีกครั้ง “พวกพี่ดีกันแล้ว เช่นนั้นพี่สะใภ้ก็จะไปที่งานบอลรูมด้วยใช่หรือไม่ และเงินที่ผมออกไปก่อนจะทำอย่างไรเล่า”

เขาถูมือไปมาก่อนจะยิ้มแหะ “คือว่า ก่อนหน้านี้ผมกลัวพี่ใหญ่จะเหงา จึงได้ใช้เงินสามแสนจ่ายกับสุภาพสตรีท่านหนึ่ง เพื่อให้เธอมาเต้นกับพี่เพื่อแก้เหงา พี่ใหญ่ดูสิ พี่ไม่ต้องมีคนมาคอยอยู่เป็นเพื่อนแล้ว แต่เงินของผมมันไม่กลับมาด้วยนี่สิ เช่นนั้นเงินสามแสนนั่น...”

“ยังใช้เงินซื้อผู้หญิงอีกรึ” วี่เหวินถิงยกทำท่าจะถีบเขา ก่อนจะเอ่ยเสียงเย็นชา “ฉันดูเหมือนคนขาดแคลนผู้หญิงหรือไง”

“แล้วใครใช้ให้พี่กับพี่ส้ง... เฮ้อ บรรยากาศรอบตัวพี่สะใภ้ก็มาคุมากเลย” ลู่เหวินซูพึมพำ พร้อมเอ่ยแนะนำเขาอย่างความใจกว้าง “พี่ใหญ่ ห่างหายเรื่องแบบนี้มานานคงจะหมดน้ำยาแล้วสินะ”

“....”

“พี่ใหญ่ลองคิดนะ พี่สามสิบกว่าแล้ว แล้วยังไม่มีลูกอีก หากนำน้ำยาที่ไม่ดีไปใช้ จนเกิดเด็กที่มีการพัฒนาช้า พวกพี่ต้องดูแลเขาไปทั้งชีวิตเลยนะ”

เส้นเลือดที่ขมับของวี่เหวินถิงเต้นตุบๆ เขากล่าวเสียงเย็นชา “หันหลังไป”

“หือ ทำไมผมต้องหันหลังกัน” ลู่เหวินซูถามอย่างสงสัย แต่ก็หันไปแต่โดยดี “หรือว่าพี่ใหญ่เห็นผมหล่อเกินไป พอโดนเทียบ... โอ๊ย”

ก้นโดนถีบไปเต็มๆ หนึ่งเท้า

วินาทีถัดมาก็ล้มไปลงไปร้องโอดโอยเหมือนหมาอยู่ที่พื้น

“นายพูดมากไป จนคนฟังเริ่มรำคาญแล้ว” วี่เหวินถิงเตะไปอีกหนึ่งครั้ง “ไปดูแลผู้หญิงที่นายซื้อมาด้วยราคาความรักสามแสนให้ดีเถอะ ออกไป”

“พี่ใหญ่ พี่ใจร้ายมาก...”

“ออกไป”

ลู่เหวินซูไม่กล้าต่อล้อต่อเถียงอีก รีบลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล และวิ่งออกไปด้วยขากะเผลกๆ

แรงเตะของวี่เหวินถิงแรงมาก จนทำให้ลู่เหวินซูที่เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วจะไปบอลรูม เดินตูดบิดไปมาอย่างน่าเกลียด ราวกับชนกับอะไรมา

มู่เฉินหย่วนถามอย่างติดตลก “ตอนเดินไม่ได้มองจนล้มลงก้นกระแทกรึอย่างไร”

“โดนพี่ใหญ่เตะต่างหาก” ลู่เหวินซูลูบบั้นท้าย ยังรู้สึกเจ็บอยู่จนต้องซี๊ดปาก “พี่รอง พี่รู้ใช่ไหมว่าพี่สะใภ้อยู่ในห้องนั้น จึงให้ผมไปตะโกนเรียกพี่ใหญ่ ถูกหรือไม่”

“ฉันคิดว่าพวกเขาคุยกันไม่กี่นาทีก็เสร็จแล้ว”

“เวรเอ๊ย พี่รอง พี่แม่งใจร้ายเกินไปแล้วนะ” ลู่เหวินซูตะโกนลั่นด้วยความโกรธ “ตาเฒ่าเจ้าเล่ห์นี่ ผมเป็นน้องสี่ของพี่นะ หากเกิดเรื่องขึ้นจริง พี่จะไม่เสียใจหรืออย่างไร”

มู่เฉินหย่วนยักไหล่ “ไม่ ไม่ใช่แม่เดียวกันสักหน่อย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน