รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน นิยาย บท 288

บทที่ 288 หมดหนทางจะสมปรารถนา

ลู่เหวินซูยิ้มแหะๆ “พี่รองฟังผิดแล้ว ผมไม่ได้พูดอะไรเลย”

“.....”

พิธีกรนำแหวนคู่รักมาให้กับส้งจิ้งเหอและวี่เหวินถิงที่ได้ที่หนึ่ง แต่ส้งจิ้งเหอไม่ได้มีความสนใจแต่อย่างใด จึงส่งมันให้กับถังซิน “ฉันมีแล้ว ให้เธอแล้วกัน”

“ไม่ๆ ฉันไม่รีบ” ถังซินโบกมือ ที่นิ้วของเธอนั้นสวมอยู่หนึ่งวง ถึงจะเพื่อป้องกันตัว แต่อย่างไรก็เป็นแหวนที่ได้มาจากมู่เฉินหย่วน นั่นก็เพียงพอแล้ว “เธอให้กับพวกเขาเถอะ”

ลู่เหวินซูโอบกอดนางฟ้าตัวน้อยไว้ ก่อนจะยิ้มหน้าบาน “ผมสั่งทำให้กับนางฟ้าตัวน้อยนานแล้ววงหนึ่ง ไม่เอาหรอก และแบรนด์นี้ก็ไม่ได้อยู่ในสายตาของผมด้วย พวกคุณเอาไปเถอะ”

“นายนี่ปากเสียจริงๆ” ถังซินพูดไม่ออกบอกไม่ถูก

มู่เฉินหย่วนและวี่เหวินถิงหันมาสบตากัน ดวงตาของทั้งคู่มืดครึ้มขึ้นทันพลัน

มู่เฉินหย่วนเอ่ยถามลู่เหวินซู “นายซื้อแหวนเพชรรึ”

“ใช่แล้ว สั่งทำกับVan Cleef & Arpels” ลู่เหวินซูกล่าวอย่างภาคภูมิใจ และคว้ามือของหลี่ซูเจ๋ไว้ คิดอยากจะอวดแหวนที่นิ้วของเธอกับพวกเขา แต่นิ้วของเธอกลับว่างเปล่า

“ที่รักแหวนล่ะครับ ทำไมถึงไม่ใส่เอาไว้”

หลี่ซูเจ๋เสตาหลบ ก่อนจะกล่าวอุบอิบ “เพชรมันใหญ่มาก หากฉันนำไปข้างนอกด้วย จนตกเป็นเป้าสายตาคนอื่นจะทำอย่างไรล่ะคะ ใส่ไว้ในกระเป๋าก่อน แล้วค่อยใส่ตอนอยู่ที่บ้านก็ได้นี่คะ”

“นางฟ้าตัวน้อยรู้จักประหยัดแทนผมเสียด้วย” ลู่เหวินซูจูบเธออย่างแนบแน่น ก่อนจะกล่าวอย่างไม่แยแส “มีแหวนแล้วก็ต้องใส่สิครับถึงจะดูดี หายก็ค่อยซื้อใหม่ ว่าที่สามีของคุณไม่ขาดเงินหรอกนะครับ”

“คนเยอะค่ะ ไม่จูบนะ” เขาไม่อาย แต่หลี่ซูเจ๋อาย ตบสักทีเพื่อให้เขาออกห่าง

เมื่อได้ยินลู่เหวินซูพูดเช่นนั้น ใบหน้าของมู่เฉินหย่วนก็หลุดยิ้มขึ้นมา แต่สายตากับยังเย็นชา “ไอ้สี่ ยากที่จะเห็นนายจริงจังขนาดนี้ เลือกวันแต่งงานแล้วล่ะสิ”

“แน่นอน” ลู่เหวินซูยักคิ้วให้กับเขา “บางทีผมอาจจะร่อนการ์ดเชิญในสักวันก็ได้”

มู่เฉินหย่วนรับเสียงอือ

เขาหันกลับไปสบตากับวี่เหวินถิง วี่เหวินถิงพยักหน้า ใบหน้าเย็นชาขึ้นเท่าตัว แต่ไม่ได้พูดอะไร

“ถ้าน้องสี่มีทั้งเงิน ทั้งยังสั่งทำแหวนกับVan Cleef & Arpelsอีก เช่นนั้นก็ช่างมันเถอะ” ส้งจิ้งเหอหัวเราะ ก่อนจะส่งกล่องแหวนให้กับถังซิน “ดูเหมือนมีเพียงพวกเธอที่จะรับมันไว้ได้แล้วนะ”

ถังซินยังไม่ได้กล่าวอะไร มู่เฉินหย่วนก็ยื่นมือไปรับมันมา และเปิดกล่องแหวนออก

แหวนทอง18กะรัตที่สวยงามและละเอียดอ่อน

“ไม่เลว ทั้งยังดูดีอีกด้วย” มู่เฉินหย่วนชื่นชมจากใจ มันไม่ง่ายเลยที่จะได้รับแหวนนี้ในสถานที่นี้

เขาหยิบแหวนทรงผู้หญิง และสวมมันให้กับถังซิน

“นี่” ชายหนุ่มสวมแหวนด้วยความว่องไว เสียจนเธอห้ามไม่ทัน แหวนนั้นมีขนาดพอดีกับนิ้วของเธอ

มู่เฉินหย่วนส่งกล่องแหวนให้กับเธอ “คุณนายมู่ครับ จะไม่สวมแหวนให้กับผมหรือครับ”

“อย่าโวยวายสิ”

รอบด้านมีเพื่อนเต็มไปหมด การที่ถังซินถูกเขาเรียกว่า คุณนายมู่ มันทำให้อดหน้าแดงไม่ได้

“พี่สะใภ้รองกำลังรู้สึกว่างานหมั้นแบบนี้มันน่าเกลียดเกินไปใช่หรือไม่” ลู่เหวินซูแสยะยิ้ม “หรือเพราะแหวนวงนี้ได้มาฟรีๆ พี่รองของผมถึงยังไม่น่าสนใจพอสำหรับคุณ”

ถังซินร้อนรน “ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนะ”

“เช่นนั้นพี่ก็สวมแหวนให้พี่รองสิครับ พี่ดูสิพี่รองของผมกำลังตั้งตาคอยอยู่นะ” ลู่เหวินซูเร่งเร้า ทั้งยังเรียกนักไวโอลินที่ยังไม่จากไปเสียงดังลั่น

ลู่เหวินซูกล่าว “เดี๋ยวจะให้เงินนายหนึ่งแสน เล่นเพลง IDo ให้กับพวกเขาซะ”

นักไวโอลินรีบสีไวโอลินทันที

ทันใดนั้นเพลงที่อบอวลไปด้วยความรักก็ดังขึ้นในบอลรูม ลู่เหวินซูและคนอีกไม่กี่คนต่างช่วยกันตะโกน

“สวมแหวนให้เขาเร็ว สวมแหวน”

ถังซินหน้าแดงเล็กน้อย รู้สึกเขินอายยิ่ง จนต้องหันไปขอความช่วยเหลือจากมู่เฉินหย่วน เพื่อให้เขาหยุดมันเสียที

แต่มู่เฉินหย่วนกลับหัวเราะร่วน และยื่นมือซ้ายไปให้

แขกเหรื่อคนอื่นๆ ต่างก็มาเข้าร่วมด้วย ปรบมือให้กำลังใจพวกเขา จนบรรยากาศเริ่มครึกครื้น

ผ่านไปหนึ่งนาที ถังซินที่ทนไม่ไหว ก็หยิบแหวนของผู้ชายขึ้นมาจากกล่อง โดยที่นิ้วมือยังคงสั่นเทา

มู่เฉินหย่วนหัวเราะ “มือของคุณยังอยู่ดีใช่ไหมครับ”

“มันไม่ฟังเลยค่ะ สั่นเองทั้งนั้น” ถังซินทนไม่ไหว เธอใช้มือซ้ายตีมือขวาหนึ่งที จับมือของมู่เฉินหย่วนไว้ และสวมแหวนให้เขาอย่างช้าๆ

ผ่านไปได้ครึ่งทาง ทันใดนั้นถังซินก็ชะงักไป

“หือ” มู่เฉินหย่วนจ้องมองไปที่เธอ ด้วยความกังวล “คุณนึกเสียใจแล้วหรือครับ”

“ไม่ใช่ค่ะ ฉันมีคำถามจะถามคุณ” ถังซินกระแอมไอ ก่อนจะถามเขาอย่างจริงจัง “คุณมู่ คุณจะยินยอมให้ฉันดูแลคุณ และสวมแหวนให้กับคุณหรือไม่คะ”

“ว้าว พี่สะใภ้รองโหดมาก” ลู่เหวินซูอุทานอย่างเว่อร์วัง “เงินของพี่ซื้อวิลล่าสักหลังยังไม่ได้เลย ยังคิดจะมาดูแลพี่รองของผมอีกหรือ”

วี่เหวินถิงย่างเท้าเข้าไป ด้วยสีหน้าเย็นชา “หุบปากไปถ้าไม่รู้ว่าจะพูดอะไร”

“ผมแค่สงสัย...”

“หุบปาก” เป็นอีกครั้งที่เท้าถูกยื่นออกไป

สองขาของลู่เหวินซูวิ่งโร่มาให้หลี่ซูเจ๋ปลอบประโลม หลี่ซูเจ๋จึงกรอกตาใสเขาทันที

เมื่อเห็นมู่เฉินหย่วนไม่ตอบ ถังซินก็เร่งเร้าเขาทันที “คุณจะรับปากหรือไม่คะ”

“ดูเหมือนว่าคุณนายมู่จะไม่เพียงต้องการตัวผม ต้องการทรัพย์สินของผมด้วยหรือนี่” มู่เฉินหย่วนหัวเราะเสียงทุ้ม “คุณนายมู่ตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้ว ผมจะไม่ให้โอกาสได้อย่างไรกันครับ”

ถังซินเอ่ยถาม “เช่นนั้นแปลว่ารับปากแล้วใช่ไหม”

“สัญญาครับ”

ถังซินจึงได้สวมแหวนบนนิ้วนางของเขา

ณ วินาทีนั้น หมอกมืดที่ปกคลุมใจของเธอนั้นพลันหายไป จนได้พบเจอกับแสงอาทิตย์ ในใจของเธอพลันอบอุ่นและสบายใจขึ้นมา

ตั้งแต่ที่ได้รู้จักกัน จากความระมัดระวัง จนกลายเป็นรักในท้ายที่สุด ระหว่างทางนั้นเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย

การทะเลาะกันของพวกเขาในบางเวลา อาจสร้างความเจ็บปวดให้กับฝ่ายตรงข้าม หลังจากที่ได้แก้ความเข้าใจผิด ท้องฟ้าหลังฝนนั้นช่างงดงาม ในที่สุดพวกเขาก็ได้รับรู้ใจของตัวเองที่รู้สึกต่ออีกฝ่าย

ถังซินเงยหน้ามองชายหนุ่มด้วยแววตาล้ำลึก

เธอเม้มริมฝีปากและยิ้มให้กับเขา ท่ามกลางเสียงเชียร์ของผู้คนรอบข้าง เขย่งปลายเท้าขึ้นโอบรอบคอของชายหนุ่ม และประทับจูบอย่างแนบแน่น

ในตอนที่พบกันครั้งแรก ไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งฉันจะรักคุณได้ขนาดนี้

บรรยากาศในบอลรูมเป็นไปอย่างครึกครื้น แต่มุมมืดมุมหนึ่งของบอลรูม มีร่างสูงโปร่งที่ผอมบางหลบซ่อนอยู่ที่หลังเสา ดวงตาสีฟ้าจับจ้องไปยังคู่รักที่ถูกล้อมรอบไปด้วยฝูงชน

สายตานั้นเต็มไปด้วยความคะนึงถึง และเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

การต้องมาเห็นทั้งคู่กอดกัน จูบกัน ทำให้ใจของชายหนุ่มกระตุกอย่างรุนแรง ราวกับมีค้อนมาทุบที่กลางใจ เจ็บจนหายใจไม่ออก นิ้วมือของเขากุมใจไว้แน่น

หากควักใจออกมาได้ก็คงจะดี

เช่นนั้นก็จะไม่ปวดใจอีกแล้ว

หลี่ซูเจ๋ที่อยู่ในห้องบอลรูทหันหน้าไป เมื่อเห็นหลินเฉิงจี๋ ชายหนุ่มหลบอยู่ที่หลังเสา ดวงตามืดทะมึน ดูโดดเดี่ยว เธอขยับริมฝีปากราวกับต้องการจะพูดอะไร

หลินเฉิงจี๋ยกนิ้วขึ้นมานาบริมฝีปาก ก่อนจะส่ายหน้าให้กับเธอ

เพียงไม่กี่นาทีต่อจากนั้น หลี่ซูเจ๋จึงได้ละสายตาไป

“แค่กๆ” หลินเฉิงจี๋ไออย่างรุนแรง เขากลัวว่าคนจะได้ยิน จึงรีบน้ำผ้าเช็ดหน้าที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อออกมาปิดปาก

ขมปร่าไปทั้งลำคอ กลางผ้าเช็ดหน้านั้นเต็มไปด้วยลิ่มเลือด

หลังจากพิงเสาเพื่อพักผ่อนอยู่เพียงครู่ เขาก็เงยหน้าขึ้นอีกครั้ง พร้อมมองหญิงสาวคนนั้นด้วยรอยยิ้มบางๆ

เดรสสีเขียวเข้มนั้นขับผิวของเธอให้ขาวยิ่งขึ้น จนงดงามสะกดสายตา

เขารู้ดีว่าเธอนั้นเหมาะกับสีเขียวเข้มมากที่สุด ดังนั้นจึงได้ไปเรียนออกแบบกับนักออกแบบ แล้วออกแบบชุดสไตล์ย้อนยุคนี้ และไปเลือกวัสดุจากร้านด้วยตัวเอง เมื่อทำเสร็จแล้วก็มองมันให้กับเธอ

แม้ว่าชายที่เธอวิ่งไปหาจะไม่ใช่เขา ได้แอบมองเธอในชุดที่ตัวเองเป็นคนทำอยู่ในมุมมืดๆ เขาก็พอใจแล้ว

หลินเฉิงจี๋เอ่ยเสียงแผ่วเบา “ความปรารถนาของฉัน คงไม่มีทางเป็นจริงได้แล้ว”

เขาปรารถนาที่จะได้กุมมือของเธอไว้ เขาจะแนะนำเธอให้คนทั้งโลกได้รู้จัก อยากจะได้รักเธอ ได้จูบเธอ

เขาจ่ายไปเสียมากมาย แต่ความปรารถนานี้กลับไม่สามารถเป็นจริงขึ้นมาได้

ไม่สามารถปล่อยวางมันไปได้จริงๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน