รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน นิยาย บท 294

บทที่ 294 เป็นผู้ชายนั้นไม่ง่ายเลยจริงๆ

วี่เหวินถิงไม่เข้าใจผู้หญิงก็จริง แต่เขาฉลาดมาก

หลังจากได้คำแนะนำมาจากมู่เฉินหย่วน เขาก็รีบส่งอีเมลไปทางคนที่อยู่ที่นิวยอร์กทันที เพื่อขอเบอร์โทรศัพท์ผู้หญิงบอร์ดบริหารคนนั้น และรีบนัดพบกับส้งจิ้งเหอ เพื่อจะได้คุยโทรศัพท์ต่อหน้าเธอไปเลย

และเปิดลำโพงไปด้วย

ผู้หญิงบอร์ดบริหารคนนั้นลาออกไปได้หลายปีดีดัก ป่านนี้ไม่รู้ว่าลูกจะโตกี่ขวบแล้วกัน

พอได้ยินวี่เหวินถิงถามถึงเรื่องผ้าพันคอ ผู้หญิงบอร์ดบริหารคนนั้นก็หัวเราะงอหาย “เจ้านายคะ คุณที่เอาแต่ปฏิเสธผู้หญิงมาโดยตลอด ฉันคิดว่าคุณเป็นคนที่ไม่มีความรู้สึก แต่ที่จริงคือมีคนรักอยู่แล้วนี่เอง”

วี่เหวินถิงกระแอมไอ ก่อนจะถามเป็นภาษาอังกฤษ “รบกวนคุณช่วยอธิบายสักครู่ด้วย”

“โดนคุณนายเข้าใจผิดหรือคะ”

“ใช่”

ผู้หญิงบอร์ดบริหารคนนั้นตั้งใจอธิบาย เนื่องจากตอนนั้นแฟนหนุ่มของเธอกำลังฟิตร่างกาย และเพิ่งจะย้อมผมมาด้วย ทั้งยังใช้ผ้าพันคอที่เหมือนกับวี่เหวินถิงด้วย จึงทำให้คนทั้งบริษัทเข้าใจผิดไป

หลังจากนั้นผู้หญิงบอร์ดบริหารก็กล่าวว่า “คุณนายวี่คะ ฉันเองก็ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นระหว่างคุณและเจ้านาย แต่ห่างหายกันไปนาน เขาก็ยังคงจำคุณได้ นั่นแปลว่ารักคุณมากเหลือเกินนะคะ”

ส้งจิ้งเหอรู้สึกพูดได้ลำบาก “แต่ว่าคุณยังไม่เคยพบฉันนะคะ”

“เจ้านายสวมแหวนอยู่ที่นิ้วนางนะคะ ไม่เคยถอดออกเลย” ผู้หญิงบอร์ดบริหารหัวเราะ “ที่บริษัทยังมีผู้หญิงที่มากความสามารถตั้งหลายคน แต่เขากลับไม่ได้ให้ความสนใจ นี่ยังอธิบายได้ไม่มากพอหรือคะ”

“คะ” ส้งจิ้งเหอเลิกคิวเล็กน้อย เหลือบมองวี่เหวินถิง “เมื่อก่อนมีผู้หญิงตามจีบเขามากเลยหรือคะ”

“นั่นก็เพราะว่าผู้ชายที่มีความสามารถและหน้าที่การงานที่ดีย่อมมีคนชอบไม่ใช่หรือคะ ไม่ขอปิดบังคุณนายวี่เลยแล้วกัน เมื่อก่อนฉันก็ตามจีบเจ้านายค่ะ แต่ก็ล้มเหลวนะคะ เฮ้ คุณนายวี่ ผู้ชายแบบเจ้านายไม่ได้มีมามากๆ นะคะ คุณต้องจับเขาไว้ให้มั่น อย่าทำให้เขาเตลิดจนไปหาผู้หญิงอื่นแทนนะคะ”

ส้งจิ้งเหอยิ้มบาง ก่อนจะกล่าวอย่างมั่นใจ “เขาไม่ทำหรอกค่ะ”

นั่นก็เพราะเธอเชื่อใจวี่เหวินถิง

และ เมื่อผ่านการรอคอยอย่างทรมานมาสี่ปี ทั้งยังมีลูกอีกหนึ่งคน หากวี่เหวินถิงจะไปหาผู้หญิงคนอื่นจริงๆ เธอจะปล่อยเขาไปอย่างง่ายดายได้อย่างไรกัน

ผู้หญิงบอร์ดบริหารไม่เพียงแต่ตั้งใจอธิบายเรื่องผ้าพันคอ ทั้งยังยกยอเขาอีกด้วย จนทำให้วี่เหวินถิงรู้สึกสบายใจขึ้นมา ในใจคิดว่าเดี๋ยวจะส่งข้อความไปหาผู้ช่วยจาง เพื่อให้เขาเตรียมส่งของขวัญไปให้

รอจนกระทั่งส้งจิ้งเหอสนทนากับผู้หญิงบอร์ดบริหารคนนั้นเสร็จ วี่เหวินถิงจึงได้วางสายไป

เขาไตร่ตรองอยู่เพียงครู่ “เมื่อวานผมไม่ดีเอง ไม่ควรใจร้อนและอธิบายให้ชัดเจน คุณเองก็ได้ยินแล้ว ผู้ชายคนนั้นคือแฟนของเธอ ไม่ใช่ผม”

ส้งจิ้งเหอยกยิ้ม ก่อนจะพยักหน้าและรับเสียงอืม “ฉันได้ยินชัดเจนเลยคะ”

วี่เหวินถิงถอนหายใจอย่างโล่งอก

เข้าใจก็ดีแล้ว สงครามเย็นครานี้ถึงจุดสิ้นสุดแล้วใช่หรือไม่

วินาทีต่อมา ส้งจิ้งเหอก็กล่าวว่า “ฉันไม่ถือสาเรื่องผ้าพันคอค่ะ แต่พอฉันนึกถึงเรื่องจดหมาย ฉันก็รู้สึกว่าคุณโง่เกินไป สี่ปี วี่เหวินถิง คุณไม่ถามฉันด้วยซ้ำว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น และไปนิวยอร์กโดยไม่บอกไม่กล่าว เราอยู่ด้วยกันมาตั้งนานนะคะ ความเชื่อใจที่เป็นเรื่องพื้นฐานคุณก็ไม่มีให้แก่ฉันเลย”

“ตอนนั้นผมไม่คิดให้เยอะเอง” วี่เหวินถิงรู้สึกจนใจ “คุณบอกเลิกผม ทั้งคุณแม่มาบอกว่าคุณรับเช็คของท่านไป ผมจึงคิดว่า...”

ส้งจิ้งเหอมองค้อนเขา ก่อนจะกล่าวเสียงเย็นชา “ในใจคุณเชื่อแม่ของคุณมากที่สุด ฉันอยู่ที่ท้ายสุดอย่างนั้นหรือคะ คุณกล้าที่จะไปนิวยอร์ก แต่ไม่กล้าที่จะกลับมาหาฉัน วี่เหวินถิง คุณนี่มันยอดเยี่ยมจริงๆ”

“.....”

“และทันทีที่คุณกลับมา คุณก็ทำให้ฉันเสียหน้าด้วยการบอกว่าไม่รู้จักฉัน อย่างไรคะ ฉันทำร้ายคุณอย่างนั้นหรือ”

“.....”

คุยกันเรื่องผ้าพันคอแท้ๆ ทำไมถึงได้กลายเป็นคิดบัญชีกับเรื่องในอดีตไปได้

เมื่อพูดมาจนถึงสุดท้าย ส้งจิ้งเหอก็กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า “ลูกชายได้สืบทอดไอคิวของคุณมาทั้งนั้น แต่ไร้ประโยชน์เสียจริง สองวันนี้คุณไม่ต้องมาคุยกับฉันนะคะ เพียงเห็นคุณ ฉันก็นึกโมโหขึ้นมาแล้ว”

วี่เหวินถิงไม่ทันแม้แต่จะได้อธิบาย จึงทำได้เพียงมองเธอจากไป

สุดท้ายก็ได้แต่นวดขมับเพื่อบรรเทาอาการปวดหัว

เขาเองก็เช่นกัน ทำไมเมื่อวานเขาไม่โทรหาคนทางนิวยอร์กทันทีกัน วันนี้เพียงโทรไปก็กลายเป็นเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาอีก

“ผู้หญิงนั้นเก่งกาจขนาดนั้นเลยหรือ” เมื่อนึกถึงคำพูดของส้งจิ้งเหอ วี่เหวินถิงก็เกิดความสงสัยขึ้นมา “ยังไม่เคยท้องด้วยซ้ำ ทำไมถึงรู้ไปได้ว่าจะคลอดลูกชายกัน”

เพศของลูก ไม่ใช่ว่าต้องมองที่โครโมโซมของฝ่ายชายหรือ

หรือสัญชาตญาณของผู้หญิงก็ใช้ได้กัน

.....

หลังจากที่จัดการเรื่องที่พักเรียบร้อยแล้ว หลี่ซูเจ๋ก็ร่ำร้องจะออกไปช้อปปิ้ง เพียงเธอพูดขึ้นมา ถังซินและส้งจิ้งเหอก็นึกอยากออกไปซื้อเสื้อผ้าตัวใหม่เช่นกัน จึงได้ออกไปพร้อมกัน

มู่เฉินหย่วนที่แต่เดิมตั้งใจจะอยู่จัดการเรื่องในบริษัทที่โรงแรม แต่วี่เหวินถิงที่โดนส้งจิ้งเหอละเลย ที่รู้ว่าหากไปด้วยจะทำให้เธอไม่มีความสุข จึงส่งต่อเรื่องนี้ไปทางลู่เหวินซูทันที

ได้ตามติดแฟนสาว การได้แสดงความรักในที่สาธารณะ เป็นสิ่งที่ทำให้ลู่เหวินซูปฏิเสธไม่ลง

แต่พอออกไปแล้ว มันกลับไม่ได้เป็นไปตามที่เขาคิดนัก

เมื่อมีถังซินและส้งจิ้งเหออยู่ด้วย ลู่เหวินซูก็ไม่ได้คุยกับหลี่ซูเจ๋แม้แต่ครึ่งคำ คอยเดินตามพวกเธอที่เดินเล่นในห้างสรรพสินค้าอยู่ข้างหลัง ตั้งแต่ชั้นหนึ่งยันชั้นหก

ลู่เหวินซูใช้ชีวิตมาเกินครึ่ง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เป็นคนใช้ สองมือเต็มไปด้วยกระเป๋าน้อยใหญ่ พอเข้าไปลองเสื้อผ้าพวกเธอก็ใช้เวลาไปถึงหนึ่งชั่วโมง นั่งรอจนก้นเมื่อย

และที่สำคัญคือไม่สามารถบ่นได้

หากบ่นกับแฟนสาว จะต้องถูกบอกเลิกทันทีแน่ ทั้งผู้หญิงอีกสองคนที่เหลือ ก็เป็นพี่สะใภ้ของพี่ใหญ่กับพี่รอง ยิ่งบ่นไม่ได้เข้าไปใหญ่ ไม่อย่างนั้นพอกลับไปแล้วก็ไม่รู้ว่าจะตายเช่นไรเหมือนกัน

ลู่เหวินซูนั่งนิ่งอยู่ที่โซฟา ด้วยสีหน้าไร้อารมณ์

“เป็นผู้ชายมันไม่ง่ายจริงๆ”

“ไม่ง่ายอย่างไรกัน แค่ให้คุณนั่งรอ นี่คุณก็เหนื่อยหรือคะ” หลี่ซูเจ๋ที่เปลี่ยนชุดแล้ว เดินเข้ามาเตะเขาทันที “ลุกขึ้น ช่วยฉันดูหน่อยว่าชุดนี้เป็นอย่างไรบ้าง”

“ลุกขึ้นแล้วครับๆ” ลู่เหวินซูรีบลุกขึ้นจากโซฟาทันที

ทันทีที่เห็นหลี่ซูเจ๋สวมเดรสสีเบจกระโปรงหางปลา โชว์ไหล่ คอลึก อวดทรวดทรงองเอว กระโปรงก็ทั้งสั้นทั้งบาง จนเห็นขาที่เรียวยาวของเธอ

ลู่เหวินซูที่เห็นชุดที่โชว์เนื้อหนังของเธอ ก็ตัวสั่นด้วยความโกรธ รีบถอดเสื้อนอกของตัวเองคลุมตัวเธอทันที “ไม่ได้ ชุดนี้มันน่าเกลียดมาก ที่รักคุณไปเปลี่ยนเดี๋ยวนี้”

“แย่ตรงไหนกัน” หลี่ซูเจ๋ก้มหน้ามอง “นี่คือชุดใหม่ล่าสุดของปีนี้เลยนะคะ”

“ก็มันไม่สวย แย่มันทุกตรงนั่นแหละครับ” ลู่เหวินซูกล่าว “เสื้อผ้าในร้านนี้มีตั้งมากมาย คุณเลือกเอาเถอะ หากไม่มีที่ชอบก็เปลี่ยนร้านกัน”

หลี่ซูเจ๋เหลือบมองเขา “คุณจ้องหน้าอก จ้องขาของนางแบบ ไม่รู้สึกว่าแย่บางหรือ ฉันแค่ใส่ชุดคอต่ำ นี่คือแย่แล้วหรือ”

ลู่เหวินซูจูบเธอ ก่อนจะยิ้มเผล่ประจบ “ผู้หญิงพวกนั้นไม่ใช่แฟนของผมนี่ครับ ผมถึงได้ไม่สนใจ คุณจะซื้อก็ได้นะครับ แต่ใส่ที่บ้าน ใส่ให้ผมดูคนเดียว”

“ช่วงนี้พวกผู้ชายมันมารยาทไม่ดีครับ คุณที่สวย แล้วยังสวมชุดสวยๆ อีก หากมีคนเอาแต่คิดถึงคุณจะทำอย่างไรครับ ผมไม่สามารถอยู่กับคุณได้ตลอดเวลานะครับ”

หลี่ซูเจ๋รับเสียงอื้อ “ฉันว่ามารยาทของคุณก็ไม่ผ่านเช่นกัน”

“เปลี่ยน ผมจะเปลี่ยนมันแน่ๆ” ลู่เหวินซูเอ่ยสาบาน “ต่อจากนี้จะไม่สายตาล่อกแล่กแน่นอนครับ นางฟ้าตัวน้อยคุณรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะนะ ผมกลัวว่าผมจะอดไม่ได้”

“นี่มันชุดใหม่นะ แถมยังลดราคาอีกด้วย” หลี่ซูเจ๋คิ้วขมวด รู้สึกไม่ยินยอมอยู่ในใจ จึงเอ่ยกระซิบกับเขา “แถมซื้อชุดนี้เขาแถมเสื้อในด้วยนะคะ”

“คุณไปซื้อชุดชั้นในต่างหากมันก็เหมือนกัน ขนหน้าแข้งผมไม่ร่วงหรอก” ลู่เหวินซูไม่ได้สนใจ

แต่หลังจากที่ได้เห็นเสื้อในที่อยู่ภายในกล่อง เขาก็รีบกลับคำทันที กล่าวด้วยใจที่ดิ้นพล่าน “ซื้อเถอะ ซื้อเสื้อแถมเสื้อใน นี่มันคุ้มมากๆ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน