รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน นิยาย บท 300

บทที่ 300 ชื่อของแม่

จงเซิงติดต่อไปยังแผนกต้อนรับ เพื่อขอให้ส่งคนมาทำความสะอาดห้อง ทั้งยังสั่งอาหารเย็นด้วย หลินเฉิงจี๋ฉีกเปิดจดหมาย และหยิบเอกสารสองสามแผ่นออกมา

เพราะฉีกไว้ใหญ่มาก รูปที่อยู่ข้างในนั้นจึงหล่นมา

หลินเฉิงจี๋กวาดสายตามอง บนรูปนั้นคือหญิงสาวชาวตะวันออกที่สวยมากๆ ริมฝีปากประดับด้วยรอยยิ้มบางเบา ราวกับว่ากำลังจับมือกับใครอยู่ แต่อีกครึ่งหนึ่งนั้นถูกตัดออกไป

เขาดูเสร็จก็วางทิ้งไว้บนโต๊ะ และกวาดสายตาอ่านเอกสารต่อ

อ่านไปได้เพียงไม่กี่นาที หลินเฉิงจี๋ก็เริ่มร้อนรน สีหน้าพลันเปลี่ยนไป เขารีบอ่านหน้าที่สอง ไม่รู้ว่าบนนั้นเขียนไว้ว่าอะไร ดวงตาพลันหรี่แคบ ฝ่ามือสั่นเทา

เมื่ออ่านเนื้อหาหน้าที่สามจบ มือของเขาไม่สั่นแล้ว ใบหน้าคล้ายร้องคล้ายไม่ร้อง ดวงตาสีฟ้าของเขาจับจ้องไปที่กระดาษ โดยที่ดวงตานั้นว่างเปล่า

“แค่กๆ” เงียบไปเพียงไม่กี่อึดใจ เขาพลันไออย่างรุนแรงขึ้นมาอีกครั้ง

จนลิ่มเลือดกระเซ็นออกมา

“คุณชาย” จงเซิงที่ได้ยินก็รีบเข้ามา เมื่อเห็นหลินเฉิงจี๋ไอรุนแรงจนเลือดกระเซ็น ก็รีบเข้าห้องนอน ไปนำกระเป๋ายาออกมา

เขารีบหยิบยาสองเม็ดขึ้นมา และยื่นแก้วน้ำอุ่นให้กับหลินเฉิงจี๋

“เอาออกไป ฉันไม่กิน” หลินเฉิงจี๋กล่าวอย่างกรุ่นโกรธ และปัดมือไปมา

ยาและถ้วยน้ำถูกกระแทกกับพื้น จงเซิงก็ตื่นกลัว

จงเซิงหยิบยาขึ้นมา และส่งน้ำให้กับเขาใหม่ ก่อนจะกล่าวด้วยเสียงสั่นเทา “คุณชาย คุณบอกว่าจะให้ของขวัญกับคุณถังไม่ใช่หรือ หากไม่ทานยา คงจะอยู่ได้ไม่ถึงสามเดือน”

เพียงคำว่า คุณถัง ก็สามารถหยุดหลินเฉิงจี๋ได้ทันที เขาเหลือบสายตามองจงเซิง ก่อนจะรับแก้วน้ำและยาไปทาน

จงเซิงเผลอดูรูปบนโต๊ะอย่างไม่ได้ตั้งใจ เป็นผู้หญิงที่สวยมาก ราวกับเคยเจอที่ไหนมาก่อน แต่นึกอย่างไรก็นึกไม่ออก

เมื่อเห็นเอกสารในมือของหลินเฉิงจี๋ ก็เดาได้ว่าที่อาการของเขากำเริบคงเป็นเพราะจดหมายฉบับนี้

จงเซิงอยากจะถามว่านี่คือจดหมายอะไร แต่ไม่รู้ว่าควรเริ่มถามอย่างไร หลินเฉิงจี๋จ้องรูปภาพบนโต๊ะ ก่อนจะกล่าวเสียงแผ่ว “จงเซิง รู้ไหมว่าผู้หญิงคนนี้คือใคร”

จงเซิงส่ายหน้า “ไม่รู้ แต่ว่าสวยมากครับ”

“แม่ของฉันเอง”

“อะไรนะครับ” จงเซิงตื่นตะลึง และหันมองรูปภาพอีกครั้ง

ถึงเพิ่งจะนึกได้ ครั้งแรกที่เขาเข้าไปในห้องหนังสือของคุณท่าน กำแพงทางด้านขวานั้นมีรูปน้ำมันของผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ แต่ใส่ชุดแต่งงาน แต่รูปร่างหน้าตานั้นคือคนคนเดียวกันเป็นแน่

ครานั้นเขาเห็นสายตาของคุณท่านที่มองอย่างอ่อนโยน “นี่คือแม่ของColbert สวยใช่ไหม”

แต่เดิมนั้นคือแม่ของหลินเฉิงจี๋นั่นเอง

“ใช่” หลินเฉิงจี๋หัวเราะ แต่ท่าทางนั้นว่างเปล่า ริมฝีปากเอ่ยขึ้นเสียงผะแผ่ว “ไม่แปลกใจที่เขาต้องการพาMaki Momoiมาไว้ข้างกายฉัน เขารู้เรื่องนี้นานแล้ว”

จงเซิงไม่เข้าใจจึงได้เอ่ยถาม “คุณชายหมายถึงอะไรหรือครับ”

หลินเฉิงจี๋ไม่ได้ตอบกลับ แต่ส่งเอกสารเหล่านั้นให้เขาอ่าน เขามองรูปนั้นด้วยรอยยิ้มรังเกียจ ก่อนจะส่งให้กับจงเซิง

จงเซิงรับมันไว้ เมื่อเห็นผู้หญิงบนรูปก็ชะงักไปในทันที

“นี่คือคุณแม่ของคุณMaki Momoiใช่ไหมครับ” เขาทั้งกล่าว ทั้งเงยขึ้นไปมองหลินเฉิงจี๋ ถึงได้เห็นว่าท่าทางของหลินเฉิงจี๋ตอนนี้นั้นย่ำแย่ขนาดไหน “ทำไมคุณท่านถึงส่งรูปนี้มาให้คุณกัน”

“ไม่ใช่จากพ่อของฉัน” น้ำเสียงของหลินเฉิงจี๋เบาจนแทบไม่ได้ยิน

เขานอนราบไปกันโซฟา คลี่ปลายนิ้วออก จนรูปในมือของเขาตกลงไปที่พื้น จงเซิงจึงหยิบมันขึ้นมา

จงเซิงเปิดรูปทีละภาพ ท่าทางกังวลใจในคราแรก แปรเปลี่ยนไปเป็นเหลือเชื่อในตอนท้าย ก่อนจะดูรูปที่สามอยู่สิบกว่ารอบ ในใจนั้นเต็มไปด้วยความตื่นตะลึง

“แท้จริงแล้วคุณหญิงหลบหนีออกมาจากกองเพลิงได้ ได้ถูกช่วยไว้ตอนที่อยู่ข้างทาง เมื่อฟื้นขึ้นมาพบว่าความจำเสื่อม และโมมอยคางผิงก็พากลับญี่ปุ่น... พวกเขาแต่งงาน มีลูกด้วยกัน... Maki Momoiคือน้องสาวร่วมแม่ต่างพ่อของคุณชาย...”

“พี่ชายของฉันนี่เก่งจริงๆ” หลินเฉิงจี๋มองโคมไฟระย้าบนเพดาน กล่าวด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “เขาคงกำลังรอคอยว่าฉันจะรู้สึกอย่างไรตอนที่ได้รู้เรื่องนี้เป็นแน่”

จงเซิงเอ่ยห้ามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “คุณชาย คุณชายไซเลส์ต้องการนำเรื่องนี้มาทำร้ายคุณ คุณอย่าได้ไปตามแผนของเขา แม้ว่าMaki Momoiจะเป็นน้องสาวของคุณก็ตาม”

หลินเฉิงจี๋หัวเราะ “ในสายตาของเธอมีเพียงพี่ชายของฉันเท่านั้น ให้ตายแทนเขายังได้ ไม่มีจิตสำนึกมาเนิ่นนานแล้ว ฉันไม่ต้องให้ความเมตตากับเธอหรอก”

“หากเป็นคุณหญิง ยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้” จงเซิงรู้ว่าเขากำลังคิดอะไร เขาได้อ่านเนื้อหาของจดหมายแล้ว จึงเอ่ยอย่างร้อนรน “คุณชายไซเลส์เกลียดคุณชายกับคุณหญิงเข้ากระดูกดำ เพราะการฆ่าตัวตายของอีเว็ตต์”

“เขาบอกว่าได้ให้หมอเอาก้อนเลือดในสมองของคุณหญิงออกแล้ว เพื่อคุณหญิงจึงกลับมาจดจำได้อีกครั้ง และจะนำเรื่องนี้ไปบอกกับคุณหญิง เพื่อต้องการแก้แค้นคุณชายกับคุณหญิง”

“คุณชาย อย่าไปหาคุณหญิงที่เมืองหนานเฉิงตามคำเขาบอกเลยครับ” จงเซิงเอ่ยห้าม “ไซเลส์คงไปเตรียมการที่นั่นนานแล้ว หากคุณไป ก็เท่ากับตกลงไปในกับดัก”

“จงเซิง นั่นแม่ของฉัน” หลินเฉิงจี๋กล่าว “ตั้งแต่เกิดมาฉันยังไม่เคยพบท่าน เรื่องเกี่ยวกับแม่ ก็รู้เพียงจากปากของพ่อเท่านั้น”

เขาหลับตาลง นึกไปถึงข้อความที่แม่เขียน ดวงตาที่แสนอบอุ่นเหล่านั้น “ไม่ว่าท่านจะเปลี่ยนไปเช่นไร ดวงตาคู่นั้นยังต้องอบอุ่นเช่นเดิม เธอได้เห็นฉันที่เติบโต จะต้องดีใจแน่”

“คุณชาย...”

“ทำตามความต้องการของเขา เขาทำให้ฉันได้พบแม่ ฉันจะปล่อยวางอำนาจสืบทอดอเล็กซ์เลียร์ทันที” หลินเฉิงจี๋ตัดบทเขา “เตรียมสัญญาซะ”

จงเซิงขมกรามแน่น “คุณชาย คุณหญิงจากไปยี่สิบปีแล้วนะครับ คุณให้ท่านจากไปทั้งอย่างนั้นไม่ได้หรือครับ คุณปล่อยวางอเล็กซ์เลียร์ แล้วคุณถังซินจะทำอย่างไรล่ะครับ แผนของคุณล่ะครับ”

“อเล็กซ์เลียร์ไม่ใช่ทุกสิ่งของฉัน” หลินเฉิงจี๋กล่าว คิ้วขมวดคลายปม “เรื่องของยินยินได้เตรียมไว้พร้อมแล้ว เมื่อถึงเวลานายไปหาMrs.Will เขาจะบอกเองว่าต้องทำอย่างไร”

“คุณชายมั่นใจที่จะไปหาคุณหญิงแล้วใช่ไหมครับ”

“ฉันมั่นใจ”

จงเซิงรู้ว่าห้ามไม่ได้ ก็ถอนหายใจเบาๆ และไปเตรียมสัญญาทันที

หลินเฉิงจี๋นำสองรูปมาเปรียบเทียบกัน

รูปลักษณ์ภายนอกของหญิงสาวในทั้งสองรูปอาจจะไม่เหมือนกัน แต่ดวงตานั้นเหมือนกัน เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน ปลายนิ้วของเขาลูบไปตามรูปภาพ ในใจเต็มไปด้วยการตั้งตาคอย

เกิดมาโดยไม่มีแม่คอยอยู่เคียงข้าง เขาเสียใจไปยี่สิบกว่าปี ตอนนี้ได้รู้แล้วว่าแม่ยังมีชีวิตอยู่ ต่อให้ต้องเสียไปเท่าไหร่ เขาก็ต้องพบกับแม่ให้ได้

เขาอยากแนะนำถังซินให้แม่รู้จัก บอกแม่ ว่านี่คือผู้หญิงที่เขารักมากที่สุด

เพราะเธอ ชีวิตของเขาถึงได้สดใสขึ้นมา

หลังจากนั้นไม่นาน จงเซิงก็หยิบไอแพดขึ้นมา ก่อนจะส่งให้กับหลินเฉิงจี๋ ไม่ทันระวังจนรูปภาพบนโต๊ะตกลงมาอีกรอบ จนรูปภาพถูกพลิกกลับ

หลินเฉิงจี๋หยิบมันขึ้นมา ถึงได้เห็นว่าที่มุมด้านหลังนั้นมีตัวอักษรเล็กๆ เขียนไว้อยู่

ภรรยาที่รักของฉัน ชิวเสี่ยวอี้

“นี่คือชื่อของแม่หรือ” หลินเฉิงจี๋พึมพำ

“ใช่ครับ ผมได้ยินมาจากคุณท่าน แต่คนใช้ในบ้านต่างเรียกท่านว่า คุณหญิงทามา” จงเซิงกล่าว “หลังจากที่คุณหญิงสูญเสียความทรงจำและได้แต่งงานใหม่กับโมมอยคางผิงที่ญี่ปุ่น ด้วยนามสกุลแล้ว จึงได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นโมมอยอี้”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน