บทที่ 301 ผมจะต้องให้เขาชดใช้
จงเซิงพูดแบบนี้แต่ในใจกลับสงสัย
เขาดูข้อมูลพบว่าเป็นคุณหญิงบอกชื่อของหล่อนให้โมมอยคางผิง แต่ว่าคนสูญเสียความจำทำไมยังจำชื่อตัวเองได้ คิดแล้วก็รู้สึกแปลก
แปปนึงหลินเฉิงจี๋ก็หยิบปากกามาเซ็นสัญญาบนไอแพดนั้น
จงเซิงดูอย่างเงียบๆ ในใจรู้สึกไม่ค่อยดี
เขามองหลินเฉิงจี๋เติบโตรู้ว่าเขาลำบากแค่ไหนเพื่อที่จะได้มรดกของอเล็กซ์เลียร์ ต้องพยามอย่างหนักมากแค่ไหนแต่ตอนนี้ต้องให้คนอื่น
จงเซิงเก็บไอแพดแล้วถามว่า:“คุณชายให้ผมไปดูที่บ้านโมมอยคางผิงไหม?”
“ไม่ต้อง ส่งของขวัญไปก็พอ”หลินเฉิงจี๋หันไปมองเขาแล้วบอกด้วยสายตาว่า“เขาจะใช่หรือไม่ใช่แม่ผม ผมพิสูจน์เอง เรื่องนี้คุณอย่าบอกพ่อผม”
“......ครับ”สุดท้ายจงเซิงก็ตอบไปด้วยความไม่เต็มใจ
ผู้หญิงที่น่าจะตายในกองไฟนั่นยี่สิบกว่าปีหลังจากนั้นก็เปลี่ยนหน้าแล้วมาปรากฎตัวอย่างกระทันหัน ถูกไซเลส์มาแลกเปลี่ยนอเล็กซ์เลียร์กับหลินเฉิงจี๋
ซื้อขายนี้มองยังไงก็ไม่คุ้ม
ที่จริงเขาอยากปิดบังหลินเฉิงจี๋ เอาเรื่องที่คุณหญิงยังมีชีวิตอยู่บอกเจ้าน้อยที่ประเทศY ถ้าเจ้านายรู้หลินเฉิงจี๋ก็ยังคงเป็นทายาทที่ถูกต้องตามกฎหมายของอเล็กซ์เลียร์
หลินเฉิงจี๋เขียนจดหมายแล้วใส่ซองเสร็จก็เอาให้จงเซิง พร้อมแนบที่กลัดเน็กไทไปด้วย“คุณกลับไปประเทศYแล้วเอาจดหมายให้เจ้าพ่อVernal เขารู้ว่าต้องทำไงต่อ”
สีหน้าของจงเซิงเปลี่ยนไปนิดนึง“คุณชาย คุณลืมแล้วเหรอครั้งที่แล้วไปหาให้เขาช่วย เขาเอาแต่ได้?แล้วทำไมรอบนี้ยังไปหาเขาอีก มีเรื่องลำบากอะไรหรือเปล่า?”
“พี่ผมอยากฆ่ายินยิน”หลินเฉิงจี๋สายตาเหลือบมองลงน้ำเสียงแฝงไปด้วยความสลด“ผมทนเขามาหลายรอบ ครั้งนี้ผมหมดความอดทนแล้ว ผมจะต้องให้เขาชดใช้!”
เขาเด็กขนาดนั้น ไม่ว่าใครก็ทำร้ายไม่ได้!
“งั้นก็ไม่ต้องไปหาเจ้าพ่อVernal”จงเซิงพูด“เขาทะเยอทะยานเกินไป เพื่อแก้แค้นคุณไซเลส์คุณไม่จำเป็นต้องเอาตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้อง”
หลินเฉิงจี๋กำหมัดลงไปบนโต๊ะกระจกกาแฟ
โต๊ะกระจกกาแฟแตกออกมาเป็นเสี่ยงๆ เขาถอนหายใจออกมาอย่างแรง
“จงเซิง ช่วงนี้พูดมากเกินไปแล้ว”
จงเซิงจับจดหมายไว้แน่นๆแล้วพูดว่า:“ทราบแล้ว ครับ เดี๋ยวผมออกไป”
--
หลังจากหลี่ซูเจ๋กลับมา ถังซินเห็นสีหน้าของเขาไม่ดีเลยถามว่าลู่เหวินซูอาการสาหัสหรือเปล่า หลี่ซูเจ๋บอกว่าลู่เหวินซูผ่าตัดเสร็จแล้ว อาการก็ไม่แย่แต่หล่อนเหนื่อยมาก
ถังซินจึงอยู่เป็นเพื่อนหล่อนที่ห้อง
หลี่ซูเจ๋ถือกาแฟร้อนบนโซฟา สายตาดูว่างเปล่าไม่ร่าเริงเหมือนทุกวัน
สักพักหนึ่ง หลี่ซูเจ๋ก็เรียกถังซิน
“ซินซิน”
“ทำไมเหรอ?”ถังซินเข้าไปนั่งข้างหล่อนเห็นสีหน้าหล่อนยังแย่อยู่เลยพูดว่า“ถ้าไม่ค่อยดีก็ไปนอนสักตื่น ที่จริงเรื่องห้างก็ทำให้ใครต่อใครตกใจจริงๆ”
หลี่ซูเจ๋ส่ายหัวเอาหัวเอนลงที่ไหล่หล่อน“เธอว่าถ้าครอบครัวของฝ่ายชายมาทำร้ายแล้วเราอยากเอาคืน แต่ว่าใจอ่อน มันเรียกว่าอะไรเหรอ?”
ถังซินถาม:“พ่อแม่เหวินซูไม่ชอบเธอเหรอ?”
“ชอบแหละ......”หลี่ซูเจ๋พูดจาคลุมเครือ“ฉันแค่ยกตัวอย่าง ถ้าเธอเจอเรื่องแบบนี้เธอว่ามันหมายความว่าอะไร?”
ถังซินคิดแล้วพูดว่า“น่าจะเป็นเพราะเธอรักผู้ชายคนนั้นเข้าแล้วก็เลยไม่อยากเอาคืน”
“ใช่ไหม รักแบบนี้น่าเบื่อจริงๆ”หลี่ซูเจ๋บ่น พอหลับตาก็คิดถึงเรื่องที่ลู่เหวินซูกันกระสุนให้แล้วก็เบื่อความรู้สึกแบบนี้มากๆ
“ทำไมรู้สึกเบื่อล่ะ?เขาไม่ชอบเธอเหรอ?”
หลี่ซูเจ๋ไม่รู้ว่าจะตอบยังไงก็ซบบ่าถังซินแล้วไม่พูดอะไรออกมาสักพัก
ถังซินเห็นแบบนี้ก็ไม่ได้ถามอะไรออกมาอีก
ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงกว่า ประตุถูกเคาะเป็นมู่เฉินหย่วนที่เข้ามา
เขาเห็นถังซินเปิดประตูด้วยสีหน้าล้าๆก็ลูบแก้มหล่อนแล้วพูดอย่างเจ็บปวด:“เหวินซูไม่เป็นไร พี่เขารักษาตัวที่โรงพยาบาลพวกคุณควรพัก”
“นอนไม่หลับ”ถังซินเห็นสีหน้าเขาไม่ดีก็ถามว่า“คุณมาตอนนี้มีอะไรหรือเปล่า?”
มู่เฉินหย่วนพูด:“ผมมีเรื่องต้องไปจัดการ พรุ่งนี้บ่ายอาจจะกลับมา กลัวคุณกังวลก็เลยมาบอกคุณ”
ถังซินก็ทายออกทันที“คุณจะติดตามเรื่องห้างเหรอ?”
“อื้ม”
“ให้ตำรวจท้องถิ่นจัดการเถอะ”หล่อนไม่รู้เรื่องค่าตอบแทนร้อยล้านนั่นพูดไปอย่างกังวลว่า“ฉันกลัวคุณจะได้รับบาดเจ็บเหมือนเหวินซู”
มู่เฉินหย่วนยิ้ม“คุณมองผู้ชายของคุณอ่อนแอไปแล้ว โจรนั่นทำร้ายพี่ผม อีกนิดนึงก็จะทำร้ายภรรยาผม ผมไม่ยอมแพ้ง่ายๆหรอก”
มีบางเรื่องเขาต้องไปจัดการ
“งั้นคุณก็ระวังตัว”ถังซินก็ไม่ห้ามต่อ หล่อนดึงมือเขาไปลูบไล้ตรงหน้า“บ่ายพรุ่งนี้กลับมาดีๆนะ ถ้ามีเรื่องอะไรฉันจะส่งข้อความไปให้”
มู่เฉินหย่วนมองสายตาของหล่อนแล้วพูดอย่างอ่อนโยนว่า“โอเค ผมรับปาก”
“ฉันจะรอคุณ”
มู่เฉินหย่วนลงไปก็พบผู้ช่วยจางที่เพิ่งกลับมาจากนิวยอร์กพอดี มีลมพัดมาผมเขาถูกลงพัดปลิว
“ประธานมู่”ผู้ช่วยจางเดินเข้ามาด้วยท่าทางยินดีพูดอย่างหวาดกลัวว่า“ว้าวขวางหยิ่งสุดยอดมาก ระยะทางที่ไกลกันนั้น ไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงแล้ว ตอนที่ผมนั่งนั้นกลัวตลอดเลย”
“ชิงเฟิงล่ะ?”
“น้องเขยรู้ว่าคุณถังไม่เป็นไรก็บอกว่าเอาทั้งหมดให้คุณ เขากลับไปแล้ว”ผู้ช่วยจางพูดว่า“คุณซือซือถ่ายละครที่ประเทศT เขากลัวถูกคนแกล้ง”
มู่เฉินหย่วนเหลือบมองเขาแล้วพูดอย่างไม่พอใจว่า“คุณเรียกใครว่าน้องเขยเหรอ?”
“ผมพูดผิดเหรอ?”
“นั่นคือน้องเขยผม เข้าใจไหม?”มู่เฉินหย่วนจัดเน็กไทให้เขาด้วยลมหายใจน่ากลัว“ต่อไปคุณพูดว่าคุณชายก็พอแล้ว ยังมีที่เรียกคุณถังนี่......”
ผู้ช่วยจางตัวสั่นรีบพูดว่า:“สมองผมไม่ค่อยดี จำผิด ต่อไปจะเรียกว่าคุณนาย!อ้อใช่ คุณนายเป็นไงบ้าง?”
เขาเห็นท่าทางอย่างนี้ก็เปลี่ยนเรื่อง
สีหน้าของมู่เฉินหย่วนดีขึ้นมาหน่อย“สบายดี คนที่คุณหาล่ะ?”
“พวกเขามาจากเมืองหนานเฉิงน่าจะอีกครึ่งชั่วโมง”ผู้ช่วยจางมองนาฬิกาข้อมือ“ผมแจ้งไปเรียบร้อยแล้ว ถ้าพวกเขามาก็รู้ว่าต้องทำอย่างไร”
“ที่อยู่ที่ผมต้องการล่ะ?”
“นี่ครับ!”ผู้ช่วยจางเอาเอกสารส่งให้ด้วยท่าทางประสมโรง“ประธานมู่ ผมยังไม่เห็นห้างนั้นเลย เดี๋ยวผมไปกับคุณเองเพื่อเป็นกำลังใจให้”
มู่เฉินหย่วนยิ้มอย่างเยือกเย็น“คุณจะไปเป็นตัวถ่วงให้ผมน่ะสิ!”
“ได้ยังไงล่ะ!”ผู้ช่วยจางทุบเข้าไปที่หน้าอกตัวเองแล้วทำท่าทางว่าตัวเองแข็งแกร่ง“ประธานมู่ คุณอย่าดูถูกผมผมฝึกเจี๋ยฉวนเต้ามาสองปี”
“คนพวกนี้มันไม่ใช่คนมาทำคุณนาย ทำให้คุณนายตกใจ ผมจะให้พวกเขาได้เห็นดีกัน!สั่งสอนพวกเขาให้หนัก!”
“หุบปากเถอะ”มู่เฉินหย่วนดุเขาเสียงดัง ดูเอกสารไปพลางเดินออกไป“ไปที่จอดรถ”
“โอเค!”ผู้ช่วยจางรีบออกไป
พอถึงที่จอดรถผู้ช่วยจางก็เปิดประตู หลังจากรอมู่เฉินหย่วนเข้าไปเขาถึงเข้าไปตาม ก้นเพิ่งนั่งลงไปก็ได้ยินมู่เฉินหย่วนพูดว่า
“พี่ชายของหลินเฉิงจี๋แน่ใจนะว่าชื่อจีนคือจี้เจียจื้อ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน
สนุกมากๆๆๆ...