รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน นิยาย บท 331

บทที่ 331 เขาเพียงกลัวว่าเธอจะเกิดอันตราย

ไม่กี่สิบนาทีก่อน เขาคิดว่าถังซินคงเจอกับเรื่องลำบาก แต่คิดไม่ถึงว่าการที่เธอมาหาหลินเฉิงจี๋ที่เมืองหางซี และขอเลิกกับเขาโดยที่ไม่บอกเหตุผลมาสักคำ

เฉินคางถอยออกไปด้านข้างด้วยอาการตัวสั่น

เขาอยู่กับประธานมู่มานาน นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นประธานมู่... ดูบ้าคลั่งขนาดนี้

คงไม่ใช่ว่าเกิดเรื่องใช่ไหม

หมอที่สังเกตเห็นว่าสถานการณ์เริ่มแปลกไป ก็พูดกับมู่เฉินหย่วนเพียงไม่กี่คำ และรีบออกไปทันที

เหลือเพียงมู่เฉินหย่วนกับเฉินคางที่ยังคงยืนที่เดิม

ทางเดินของโรงพยาบาลนั้นมีผู้คนเดินผ่านไปมา รูปร่างที่สูงโปร่งของมู่เฉินหย่วน โดดเด่นจากฝูงชน ผู้คนที่เดินผ่านไปมายังนึกไปว่าเป็นดาราที่มาถ่ายละคร จึงได้หันมามองพวกเขา

ยืนอยู่เพียงครู่ เฉินคางทนไม่ไหว จึงเอ่ยปากขึ้นอย่างกล้าหาญ “ประธานมู่ครับ มีอะไรก็สั่งผมมาเลยเถอะครับ พวกเราอย่าเอาแต่ยืนอยู่ที่ตรงนี้เลย”

มู่เฉินหย่วนเหลือบมองเขาด้วยสายตาดุดัน

เฉินคางขนสันหลังวาบทันที

“เฉินคาง” ชายหนุ่มเรียกเขา น้ำเสียงเคร่งขรึมและเต็มไปด้วยความกดดัน “เมื่อก่อนที่ฉันขอโทรศัพท์นาย นายดูตื่นกลัวมาก ดวงตานายก็เผยสิ่งที่คิดออกมาจนหมด”

เวรเอ๊ย สายตาของประธานมู่กำลังลุกเป็นไฟ

“มี มีด้วยหรือครับ...” เฉินคางหัวเราะแหะๆ ก่อนจะโกหกอย่างร้อนรน “ฮ่าฮ่าฮ่า ผมแค่กลัวว่าประธานมู่จะอ่านวีแชทของผมอะไรแบบนี้ ผมมีอาการหวาดระแวงครับ”

มู่เฉินหย่วนแสยะยิ้ม “ฉันเป็นเจ้านายของนายมาตั้งนาน ทำไมฉันถึงไม่รู้เรื่องนี้กัน”

“เพิ่งออกอาการช่วงนี้ครับ...”

“นายรู้อะไรมาใช่หรือไม่”

เฉินคางค่อนข้างร้อนรน จึงเอ่ยได้ไม่เต็มเสียง “ผมไม่รู้ครับ”

มู่เฉินหย่วนไม่ได้พูดไร้สาระอะไรกับเขาอีก ปลดล็อกโทรศัพท์และโทรหาลู่เหวินซู “ไอ้สี่ ช่วยฉันตรวจสอบประวัติการโทรออก เขาไปยังบริษัทTXJ ว่าจะเอาการบันทึกเสียงจากทุกหมายเลขที่โทรออกไปหรือไม่”

“ประธานมู่ ผมยอม ผมยอมแล้วครับ” เฉินคางรีบยกมือขึ้นทันที

เวร เขาลืมไปว่าบริษัทมู่ซื่อกับบริษัทTXJนั้นทำงานด้วยกัน สิทธิประโยชน์ที่ไม่น้อย หากลู่เหวินซูให้ตรวจสอบประวัติกับบริษัทTXJ จนได้การบันทึกเสียงมาจริงๆ นั่นล่ะเรื่องซวยที่แท้จริง

เวร เขาลืมไปว่าบริษัทมู่ซื่อกับบริษัทTXJนั้นทำงานด้วยกัน สิทธิประโยชน์ที่ไม่น้อย หากลู่เหวินซูให้ตรวจสอบประวัติกับบริษัทTXJ จนได้การบันทึกเสียงมาจริงๆ นั่นล่ะเรื่องซวยที่แท้จริง

“เธอโทรหานายทำไม”

“คุณถังเธอ เธอ...” เฉินคางพยายามเรียบเรียงคำพูดอย่างว่องไว “เหมือนว่าเธอกำลังร้องไห้ครับ บอกกับผมว่ามีเรื่องที่จะต้องไปทำ บอกให้ผมดูแลประธานมู่ให้เป็นอย่างดี”

มู่เฉินหย่วนกวาดสายตามองใบหน้าของเฉินคางทุกตารางนิ้ว ราวกับกำลังจับผิดคำพูดของเขา

“ได้บอกหรือไม่ว่าไปไหน” ตามหาอยู่นาน ถึงได้รู้ว่าถังซินอยู่กับหลินเฉิงจี๋ ในใจเขาเริ่มหงุดหงิด ปลดกระดุมออก จนเผยให้เห็นไหปลาร้าเล็กน้อย

แต่ยังคงไว้ซิ่งบรรยากาศเย็นยะเยือกจนคนต้องถอยห่างออกไป

เฉินคางส่ายหน้า

ที่กล่าวมานั้นเขาโกหก และเขาก็ไม่รู้ด้วยว่าถังซินไปที่ไหน

มู่เฉินหย่วนสายตามืดครึ้ม และเอ่ยถามเขา “หลังจากที่นายกลับมาจากเย่นจิง ก็รีบไปหากวนชิงเฟิงใช่หรือไม่”

เฉินคางข่มใจไว้ไม่ไหว รู้สึกสั่นสะเทือนไปทั้งใบหน้า ประธานมู่น่ากลัวนัก เขายังไม่ทันได้พูดอะไร ก็เดาได้แล้วว่าเขาไปที่ไหนมา

“แต่ท่าทางของนายเหมือนว่าจะไม่ได้ไปนะ” มู่เฉินหย่วนยิ้มเย็น ขายาวเบี่ยงออกไปอีกทาง และกดโทรศัพท์ของเฉินคางเพื่อตามหาเบอร์โทรของกวนชิงเฟิง

เฉินคางรีบตามไป และขอโทษขอโพยกวนชิงเฟิง

พี่ใหญ่ผมขอโทษ ลูกพี่ผมขอโทษ ประธานมู่เก่งเกินไป ผมไม่ใช่คู่มือของเขาเลย

หลังจากที่ต่อสายติด มู่เฉินหย่วนก็ถาม “พี่นายไปไหน”

“ต่างประเทศ ขึ้นเรือสำราญไป” กวนชิงเฟิงได้ยินว่าเป็นเสียงของเขา คาดว่าเขาคงจะจับได้ จึงไม่ได้คิดจะปิดบังเขา “ก่อนหน้านี้หนึ่งชั่วโมง ผมซื้อตั๋วเรือให้เธอสองใบ”

“เธอไปกับหลินเฉิงจี๋รึ”

“ใช่” กวนชิงเฟิงกล่าวสำทับ “ประธานมู่อย่าได้พยายามตามหา พวกเขาปกปิดตัวตน ช่วงเวลานั้นเรือเทียบท่าพอดี คุณตามหาพวกเขาไม่เจอหรอก”

มู่เฉินหย่วนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ฉันอยากรู้ว่าเพราะอะไร”

เขาเชื่อว่าระหว่างถังซินและหลินเฉิงจี๋นั้นไม่มีอะไร แต่เธอเพิ่งจะขอเลิกกับเขา และยังขึ้นเรือออกนอกประเทศไปกับหลินเฉิงจี๋ นั่นทำให้เขาร้อนใจอย่างยิ่ง

เขาเพียงกลัวว่าจะเกิดเรื่องขึ้นกับเธอ

“ประธานมู่ คุณเลิกกับพี่สาวของผมแล้ว” กวนชิงเฟิงเงียบเสียงไปชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาอีก “เธอจะทำอะไร ก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องอธิบายให้คุณฟัง และผมเองก็ไม่รู้”

มู่เฉินหย่วนแค่นเสียงเหอะ “หากไม่รู้จริงๆ นายจะไม่พูดแบบนี้ ผมจะไม่คาดคั้นนายอีก เธออยากออกนอกประเทศก็ให้ไป อย่างไรก็ต้องโทรกลับมา”

กล่าวจบเขาก็ตัดสายทันที

มู่เฉินหย่วนหมุนแหวนที่นิ้วนางไปมา ครั้งนั้นที่เขาไปเที่ยวญี่ปุ่นกับถังซิน ได้รางวัลใหญ่กลับมา ทั้งยังเป็นถังซินที่สวมให้กับเขา เพื่อเป็นการยืนยันความสัมพันธ์ของพวกเขา

เฉินคางที่เห็นว่ามู่เฉินหย่วนไม่ได้น่ากลัวแล้ว ก็ถึงได้กล้าเอ่ยขึ้น “ประธานมู่ พวกเราจะไปที่ไหนครับ”

“กลับเมืองหนานเฉิง”

เธออยากจะทำอะไรก็ปล่อยให้เธอทำไป แต่หวังว่ายามที่เกิดอันตราย เธอจะโทรมาหาเขาได้

หวังว่า

--

ลู่เหวินซูไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างถังซินและมู่เฉินหย่วน แต่จากการที่มู่เฉินหย่วนให้เขาตามหาถังซิน ก็เดาได้ว่าจะต้องเกิดเรื่องกับพวกเขาเป็นแน่ แต่เขาคงเข้าไปแทรกแซงไม่ได้

หลังจากที่คุณพ่อลู่สิ้นไป บริษัทก็เริ่มสั่นคลอน เขาเองก็ยุ่งอยู่แต่ที่บริษัท กลับบ้านประมาณทุ่มสองทุ่มตลอด

แต่ยังดีที่ภายในบ้านนั้นไม่ได้สั่นคลอน และยังคงอบอุ่นดี

เมื่อเข้าบ้านไป ลู่เหวินซูก็ส่งเสื้อคลุมให้กับคนรับใช้ ไกลออกไปนั้นก็ได้ยินเสียงหัวเราะแว่วมาจากในห้องครัว เมื่อตามไปดู ก็เป็นคุณแม่ลู่และหลี่ซูเจ๋ที่อยู่ในครัว

คุณแม่ลู่กำลังสอนหลี่ซูเจ๋ทำอาหารอิตาเลียน

หลี่ซูเจ๋มือไม้พันกัน มักจะทำให้เกิดเสียงเคร้งคร้าง จนคุณแม่ลู่หัวเราะร่า บนใบหน้านั้นไม่ได้กล่าวโทษเธอแม้แต่น้อย

“แม่ครับ กำลังทำอะไรอยู่หรือครับ” ลู่เหวินซูปลดกระดุมข้อมือ พลางเดินเข้าไปในห้องครัว “เรื่องทำอาหารยกให้คนใช้ก็ได้ครับ จะมาทำให้ยุ่งยากกันทำไม”

คุณแม่ลู่เมื่อเห็นว่าเขากลับมาแล้ว ก็แค่นเสียงในลำคอใส่ “พวกเราชอบทานอาหารที่ทำเอง ต้องสนลูกด้วยหรือ เดี๋ยวจะให้คนใช้ทำอาหารให้ลูกและกินคนเดียวไปเลย”

ลู่เหวินซูหัวเราะพลางขอความเมตตา “ผมเพียงกลัวพวกแม่จะเหนื่อยเท่านั้นเอง”

“โอ๊ย คุณอย่ายืนอยู่ตรงนั้นสิ ไปเอาจานมาเร็ว” หลี่ซูเจ๋เรียกเขาและสะบัดมือไปมา “ด้วยซอสเนื้อมันผิดสูตร เร็วๆ”

“มาแล้วๆ” ลู่เหวินซูรีบเปิดตู้ และหยิบจานในตู้ออกมามากมาย

ซอสเนื้อในจานช่างหอมกรุ่น

ลู่เหวินซูทดลองดม ก่อนจะเอ่ยชม “หอมมาก ที่รักฝีมือการทำอาหารของคุณยอดเยี่ยมขึ้นเรื่อยๆ เลย ผมรู้สึกไม่มีปัญหาเลยหากต้องทานห้าจาน”

“ฝันน่ะ ฉันทำขนาดนั้นไม่ได้หรอกค่ะ”

“ที่รักคุณไม่อยากให้ผมอ้วนขึ้นหรือครับ” ลู่เหวินซูปรี่เข้าหา และจูบเธออย่างหน้าไม่อาย “หากอ้วนขึ้นคนอื่นก็ไม่สนแล้ว ดีจะตายไป”

หลี่ซูเจ๋กลอกตาใส่เขา “คุณหลงตัวเองมาก ไม่ว่าใครก็เหมือนคุณทั้งนั้น”

“แต่อย่างไร ผมก็หล่อที่สุด”

คุณแม่ลู่ส่ายหน้า ทนกับการแสดงความรักของเขาทั้งสองไม่ไหว และรีบปลีกตัวออกไปทันที

โดยเร็วอาหารค่ำก็เสร็จ

ในตอนที่ทานอาหาร คุณแม่ลู่จดจ้องพวกเขา ก่อนจะยิ้มละมุน “พ่อของเหวินซูเพิ่งจะเสียไปเท่านั้น พวกเธอไม่สามารถจัดงานแต่งไปได้อีกสามปี แต่ไม่ห้ามให้พวกเธอเรื่องจดทะเบียนหรอกนะ”

หลี่ซูเจ๋ได้สติขึ้นมาก็หน้าแดงทันพลัน “คุณป้าคะ เรื่อง เรื่องนี้ค่อยคุณกัน...”

“ไม่ต้องคอยแล้ว ผมโอเค” ลู่เหวินซูเห็นด้วยกับคำพูดของคุณแม่ลู่ และกล่าวขึ้นมา “พรุ่งนี้วันพุธ ว่าการอำเภอยังคงเปิดอยู่ พวกเราไปกันตอนเช้าเถอะครับ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน