รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน นิยาย บท 333

บทที่ 333 ผมไม่ได้มาข่มขู่ นี่คือการยื่นข้อเสนอ

ลู่เหวินซูใบหน้ามืดคล้ำ ก่อนจะโยนมือถือลงกับพื้น และใช้เท้าเหยียบจนแตก

เห้อจื่ออวี๋ที่อยู่ตรงข้ามไม่ได้มีท่าทีตกใจ เขาเลียริมฝีปากก่อนจะกล่าว “คุณลู่จะพังโทรศัพท์ผมก็ไม่ได้อะไร วิดีโอนี้ผมยังมีอีกเพียบ ต้นฉบับผมก็ซ่อนไว้แล้ว”

“แกต้องการอะไร”

“ห้าสิบล้าน ผมต้องการยกเลิกสัญญากับบริษัท โดยเงินชดเชยนั้นคุณลู่ต้องจ่ายให้ผม” เห้อจื่ออวี๋กล่าว “และคุณลู่จะต้องดันผมให้ได้กลับเข้าไปในวงการบันเทิงอีกครั้ง จากนั้นผมถึงจะส่งต้นฉบับวิดีโอให้กับคุณลู่”

ลู่เหวินซูแสยะยิ้ม “แกกำลังข่มขู่ฉันรึ”

“ผมไม่ได้ข่มขู่คุณ ผมเพียงยื่นข้อเสนอให้กับคุณลู่เท่านั้น” เห้อจื่ออวี๋หาได้กลัวไม่ ทั้งยังหัวเราะน้อยๆ “ผู้หญิงในวิดีโอนี้คือใคร คุณลู่ย่อมรู้ดี และผมก็รู้ว่าในตอนนี้เธอกำลังคบหาอยู่กับคุณลู่”

เห้อจื่ออวี๋จิ๊ปาก และทำท่านึกย้อนกลับไป “ไม่คิดเลยว่าผมจะได้ชิมผู้หญิงของคุณลู่ หากวิดีโอนี้ได้เผยแพร่ไปบนโซเชียล ทั้งยอดดูและยอดบันทึกจะต้องระเบิดแน่ๆ”

ลู่เหวินซูทะลึ่งตัวลุกขึ้น ข้ามโต๊ะไปคว้าคอของเห้อจื่ออวี๋ด้วยมือเดียวอย่างดุร้าย

ใบหน้าดุดัน ทั่วร่างของเขาเต็มไปด้วยสังหาร

เห้อจื่ออวี๋ที่โดนบีบคอจนหน้าเริ่มม่วงคล้ำ ก็เริ่มหายใจได้อย่างยากลำบาก “คุณลู่จะอยากฆ่าผมก็ได้ ไม่มีปัญหา ผมตาย วิดีโอนั้นจะถูกเผยแพร่ทันที คุณจะบล็อกมันแล้วอย่างไรล่ะ สุดท้ายมันก็จะกลับขึ้นมาอีกครั้งอยู่ดี”

ลู่เหวินซูเรียกสติกลับมาได้ ก็สะบัดเขาจนตกลงไปที่พื้น เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง “เอาเช็ดและสัญญามาให้ฉัน”

เห้อจื่ออวี๋ไออย่างยากลำบาก ลูบลำคอที่เจ็บอย่างทรมานของตัวเอง ในใจเริ่มหวาดกลัว

เมื่อครู่ลู่เหวินซูเกือบจะฆ่าเขาแล้ว

เมื่อเห็นลู่เหวินซูเรียกคนให้เอาเช็คมาให้ เห้อจื่ออวี๋ก็รู้ว่าตัวเองได้ชนะเดิมพันแล้ว แต่เขาก็งงเช่นเดียวกัน

ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้เรื่องของลู่เหวินซู ทำไมถึงให้ค่ากับผู้หญิงแบบนั้นกัน

หรือว่า...

เห้อจื่ออวี๋มองโทรศัพท์ที่นอนเละอยู่ที่ใต้โต๊ะ

เขาไม่ได้บอกว่าผู้หญิงในวิดีโอนั้นคือใคร ลู่เหวินซูคิดไปเองว่านั่นคือหลี่ซูเจ๋ นั่นก็ไม่ใช่ความผิดของเขา

หลังจากที่วางสาย ลู่เหวินซูก็กล่าวเสียงเรียบ “เรียกให้คนเอาวิดีโอต้นฉบับมาซะ”

เห้อจื่ออวี๋กล่าว “กำลังมา ไม่ต้องกังวล”

โดยเร็ว คนของลู่เหวินซูก็นำเช็คและสัญญามาให้

ลู่เหวินซูเขียนจำนวนเงินใส่เช็ค และลงนามลงบนสัญญา ก่อนจะสะบัดไปทางเห้อจื่ออวี๋ เห้อจื่ออวี๋เซ็นรับ ก่อนจะเก็บลงกระเป๋าและนำUSBออก

เห้อจื่ออวี๋ส่งUSBไปให้ “คุณลู่ไว้ใจได้มากจริงๆ ต้นฉบับทั้งหมดผมให้คุณลู่ คุณลู่สบายใจได้ ทางผมไม่มีวิดีโออื่นอีกแล้ว ผมยังคิดจะอยู่ที่เมืองหนานเฉิงนี้ต่อ”

ลู่เหวินซูไม่ได้สนใจ ดึงUSBนั้นมาและหย่อนลงกระเป๋าเสื้อไป

เขาลุกขึ้นยืนและจะจากไป

“คุณลู่ ผมยังอยากจะบอกคุณอีกสักหน่อย” เห้อจื่ออวี๋เรียกเขาไว้ “หลี่ซูเจ๋กำลังใช้ประโยชน์คุณ ผู้หญิงคนนี้ร้ายนัก คุณอย่าได้หลงกลเธอเชียว”

ลู่เหวินซูออกจากร้านอาหารมาโดยไม่ได้สนใจเขาแม้แต่น้อย

เมื่อขึ้นมาบนรถแล้วเขาก็หันไปสั่งกับผู้ช่วย “ไม่ต้องดึงเช็คกลับมา บอกกับทางตม.ไว้ ส่งมันให้ได้ทุกข์ระทมที่ต่างประเทศ จัดการทางพ่อแม่มันด้วย”

“ครับ”

ระหว่างทางไปบริษัท ลู่เหวินซูก็โทรหาหลี่ซูเจ๋

“ตอนเช้าฉันออกไปซื้อของ มีอะไรหรือ” ในที่สุดหลี่ซูเจ๋ก็รับสาย “คนรับใช้บอกว่าคุณออกไปโดยที่ไม่ได้ทานอาหารเช้า งานที่บริษัทยุ่งหรือ ให้ฉันนำอาหารเช้าไปส่งให้ไหม”

ลู่เหวินซูอยากจะถามเธอเกี่ยวกับเรื่องของเห้อจื่ออวี๋

หลี่ซูเจ๋ไม่ใช่ว่ารู้จักกับเห้อจื่ออวี๋หรอกหรือ ทำไมเห้อจื่ออวี๋ถึงมีวิดีโอนั้นกัน ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้หลี่ซูเจ๋มีความสัมพันธ์กับเห้อจื่ออวี๋หรือ

แต่ครั้งแรกของพวกเขาทั้งสอง เขามั่นใจได้ว่าหลี่ซูเจ๋ยังบริสุทธิ์

หรือว่าหลี่ซูเจ๋จะแอบลอบพบกับเห้อจื่ออวี๋

ทันใดนั้นก็ได้ยินหลี่ซูเจ๋เอ่ยอย่างเป็นกังวล เขาถามว่าเธอหมายถึงอะไร แต่ไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติม

เมื่อเห็นลู่เหวินซูยังคงนิ่งเงียบ หลี่ซูเจ๋ก็ถามอีกครั้ง “ทำไมถึงไม่พูดอะไรเลย”

“เมื่อครู่โทรศัพท์ตกครับ” ลู่เหวินซูเปลี่ยนน้ำเสียงอย่างว่องไว และหัวเราะ “ผมตื่นขึ้นมาไม่พบคุณ จึงโทรมาถามว่าคุณอยู่ที่ไหน”

“คุณทำฉันตกใจนะคะ ฉันนึกว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น” หลี่ซูเจ๋พึมพำ “คุณยังไม่ไปบริษัทอีกหรือคะ ขับรถไม่ต้องคุยโทรศัพท์ค่ะ อันตราย เดี๋ยวอีกครู่ฉันจะนำอาหารเช้าไปส่งนะคะ วางแล้ว”

กล่าวจบเธอก็วางทันที

ลู่เหวินซูมองโทรศัพท์ รอยยิ้มบนใบหน้าค่อยๆ หายไป สายตาแปรเปลี่ยนเป็นมืดครึ้ม

สิบนาทีให้หลัง รถของเขามาถึงที่ลานจอดรถ ลิฟต์มาหยุดที่ชั้นบนสุด และก็ได้พบกับเลขาทันที

“ประธานลู่ อรุณสวัสดิ์” เลขาโค้งคำนับเล็กน้อย “ผู้ช่วยจางจากบริษัทมู่ซื่อมารอได้ครึ่งชั่วโมงแล้ว จึงได้ให้เขาเข้าไปรอท่านข้างในออฟฟิศ”

ผู้ช่วยจางมาหาเขาทำไมกัน

ลู่เหวินซูรับเสียงอือ คลายปมเนกไท และเข้าออฟฟิศไป

เมื่อเห็นผู้ช่วยจาง เขาก็ถามทันที “ผู้ช่วยจาง พี่รองกับพี่สะใภ้ทะเลาะกันหรือ โวยวายว่าจะเลิกรึ”

“ไม่ใช่โวยวายครับ รอบนี้เลิกกันแล้วครับ” ผู้ช่วยจางถอนหายใจ

“ฮะ” ลู่เหวินซูไม่ตอบสนองไปชั่วครู่ “พวกเขาดีกันแล้วไม่ใช่หรือ ทำไมถึงเลิกกันล่ะ แต่นายมาหาฉันทำไมกัน ฉันทำให้พวกเขาคืนดีกันไม่ได้หรอกนะ”

ทันใดนั้นสีหน้าของผู้ช่วยจางก็แปรเป็นเคร่งเครียด

ลู่เหวินซูที่เห็นเช่นนั้นใจก็พลันเต้นระรัว “เวร ที่ฉันพูดมันจริงอย่างนั้นหรือ”

ผู้ช่วยจางไปล็อกประตูก่อนจะกลับมา และนำเอกสารเหล่านั้นให้กับลู่เหวินซู “คุณวี่ให้ผมมาครับ ท่านบอกบางเรื่องคุณเองก็มีสิทธิ์ที่จะได้รู้”

ผู้ช่วยจางเองก็ไม่ได้อยากมานี่ แต่เดิมที่ต้องมาดูแลมู่เฉินหย่วนพร้อมที่จะระเบิดอารมณ์ได้ตลอดเวลา มันก็ไม่ง่ายสำหรับเขามากแล้ว สุดท้ายวี่เหวินถิงก็โทรมาถามเขา ว่าเหตุใดหลี่ซูเจ๋ยังไม่ไปอีก

เขาบอกสิ่งที่ประธานมู่กล่าวไว้ ค่ำคืนนี้วางแผนไว้ว่าจะให้หลี่ซูเจ๋ออกนอกประเทศ วี่เหวินถิงจึงรีบส่งเอกสารมาโดยเร็ว สั่งให้เขามาที่ตระกูลลู่เพื่อมอบให้กับลู่เหวินซู ท่าทางดุดันอย่างถึงที่สุด

ซวยฉิบหาย

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับอันธพาลใหญ่ที่ไม่สามารถไปยั่วโมโหได้ เขาทำได้แค่หดตัวเท่านั้น

“คืออะไร” ลู่เหวินซูเงยหน้าขึ้นมองผู้ช่วยจางเพียงครู่ และรับเอกสารมา

ผู้ช่วยจางกล่าว “คุณลู่ เพียงคุณเปิดก็จะรู้ได้ทันทีครับ”

ในตอนที่ลู่เหวินซูเปิดเอกสาร ผู้ช่วยจางก็ถอยออกห่างไปอย่างเงียบๆ ขยับเข้าไปใกล้ประตู เพื่อที่จะหนีได้ทันที ในยามที่ลู่เหวินซูระเบิดอารมณ์

เขารับมือด้วยไม่ไหวหรอก

ลู่เหวินซูกวาดสายตาอ่านเนื้อหาในเอกสารผ่านๆ ตา สายตาพลันหรี่แคบ ยิ่งอ่านใบหน้าเขายิ่งหด ขบริมฝีปากเอาไว้แน่น

เมื่ออ่านจบ เขาก็กำกระดาษไว้แน่น โดยที่ไม่ขยับแม้แต่นิด

ผู้ช่วยจางเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัย เมื่อเห็นลู่เหวินซูสาวเท้าไปยังโต๊ะปาถ้วยกาแฟบินว่อน แต่มันตกลงบนพรม จึงยังไม่แตก

ราวกับลู่เหวินซูยังไม่พอใจ ลุกขึ้นหยิบเก้าอี้ขึ้นมาฟาดคอมพิวเตอร์ ทั้งยังทุบตู้ไม้เนื้อแพร์ จนของตกและน้ำกระเซ็นไปทั่วพรม

ในออฟฟิศของประธานนั้น มีแค่เสียงตึงตึงดังขึ้นไม่มีขาดสาย

ผู้ช่วยจางก้มหน้านิ่งเงียบ คิดในใจ โชคดีที่คุณลู่เลือกปาของระบายอารมณ์ ไม่ใช่ปาใส่เขา โชคดีแล้ว

เป็นเวลานาน เมื่อเห็นว่าโทสะของลู่เหวินซูเหมือนจะหายไปแล้ว ผู้ช่วยจางจึงเอ่ยขึ้น “คุณวี่บอกว่า คุณจะทำอะไรก็ได้ แต่ต้องไว้ชีวิตหลี่ซูเจ๋เพียงเท่านั้น”

และเป็นเพราะมันได้แต่ขีดจำกัดที่ต่ำที่สุดของมู่เฉินหย่วนและวี่เหวินถิงแล้ว ผู้ช่วยจางจึงยินดีที่จะช่วยทำทุกๆ อย่าง

หลี่ซูเจ๋น่าอนาถนัก พี่สาวถูกข่มขืนจนฆ่าตัวตาย ส่วนพ่อกับแม่ที่ลุกขึ้นมาทวงความเป็นธรรมให้กับลูกสาวก็ถูกบังคับให้ฆ่าตัวตาย ท้ายที่สุดคนพวกนั้นก็ยังไม่ปล่อยเธอไป

เธอเคารพในกฎหมาย แต่ผลสุดท้ายครอบครัวก็ตายจากไป

นี่คือโทสะส่วนบุคคล

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน