รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน นิยาย บท 335

บทที่ 335 ไปให้ของขวัญกับคุณ

หลี่ซูเจ๋ใจสั่นสะท้าน เธออยากจะปฏิเสธอย่างเด็ดขาด แต่ก็ไร้หนทาง

สุดท้าย เธอก็พยักหน้ารับไป "อือ"

ทันใดนั้นโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น เป็นโอกาสให้หลี่ซูเจ๋ได้ปรับอารมณ์ เป็นส้งจิ้งเหอที่โทรมาหาเธอ เธอบอกให้ลู่เหวินซูทานข้าวให้ดีดี แล้วจึงออกไปรับสาย

ส้งจิ้งเหอเอ่ยถาม "ฉันได้ยินมาจากผู้ช่วยจาง ว่าเฉินหย่วนมีปัญหากับซินซิน มันเกิดอะไรขึ้น"

"ฉันเองก็ไม่รู้ เหมือนว่าจะเลิกกันแล้ว" เรื่องนั้นยิ่งมีคนรู้น้อยก็ยิ่งปลอดภัย หลี่ซูเจ๋จึงแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น "ตอนนี้ก็ไม่รู้ด้วยว่าซินซินอยู่ที่ไหน"

"อ่า ทำไมถึงได้...."

หลี่ซูเจ๋ดวงตาสั่นไหว ก่อนจะเอ่ยถามเสียงแผ่ว "นี่มันเป็นเรื่องของความรู้สึกของพวกเขา พวกเราเองก็ยื่นมือเขาไปยุ่งไม่ได้ เธอกับลูกของเธอแพ้ขนแมวไหม แมวแร็กดอลล์ของ ซินซินยังอยู่ที่บ้านอยู่เลย ฉันกลัวว่าฉันจะดูแลไม่ดี จึงอยากวานให้พวกเธอช่วยดูแลหน่อย จนกว่า ซินซินจะกลับมา"

เธอกลัวว่าในระหว่างที่เธอหาจังหวะหนี จะไม่มีโอกาสได้โทรหาส้งจิ้งเหอ

ถังซินพาหลินเฉิงจี๋ไปยังประเทศF คงไม่ได้กลับมาอีกสักระยะ จึงต้องมีคนคอยดูแลแมวแร็กดอลล์นั่น

"ได้สิ ฉางผิงชอบแมวมากด้วย" ส้งจิ้งเหอตอบกลับอย่างรวดเร็ว แต่ก็อดที่จะกังวลใจไม่ได้ "แต่ที่ซินซินหายไปแบบนี้ เฉินหย่วนจะไม่กังวลใจหรือ"

"อยู่แล้ว ซินซินบอกว่าหากมีเรื่องอะไรจะโทรมาหาฉันเอง"

ส้งจิ้งเหอรับคำเสียงอือ "โอเค ถ้าถึงเวลานั้นก็บอกกับฉันแล้วกัน หากช่วยได้ฉันจะช่วยอย่างแน่นอน"

"แน่นอน"

หลังจากวางสาย หลี่ซูเจ๋ก็กลับมานั่งที่โซฟา

ลู่เหวินซูถามด้วยความสงสัย "พี่สะใภ้ใหญ่โทรมาหรือ"

"อือ ฉางผิงบอกว่าชอบสัตว์ ฉันจึงให้พวกเขาเอาเจ้าแมวแร็กดอลล์นั่นไปเลี้ยงเลย" หลี่ซูเจ๋กล่าว "ฉันกลัวว่าหากไม่กลับไปบ่อยๆ แมวมันจะเกิดเรื่องเอา"

ลู่เหวินซูเงยหน้ามามองเธอ "ไม่ใช่เพราะคุณจะหนีไป เลยจัดการมอบหมายไว้ก่อนหรือ"

หลี่ซูเจ๋ใจกระตุก ก่อนจะทุบเขาแรงๆ หนึ่งที ก่อนจะกล่าวอย่างไม่พอใจ "เฮ้ ฉันดูไม่มีสัจธรรมเลยหรือ นี่ก็เพราะว่าแม่คุณไม่ชอบขนสัตว์ต่างหาก หากคุณพูดแบบนี้ ฉันจะกลับบ้านแล้ว ดูแลคุณเหนื่อยทั้งกายเหนื่อยทั้งใจ แล้วยังถูกคุณมองว่าเป็นคนไม่ดีอีก เกินไปแล้วนะ"

"ผมไม่ได้กลัวนี่" ลู่เหวินซูจับมือของเธอไว้ ก่อนจะกล่าวด้วยยิ้มปะเหลาะ "ครับๆ ผมผิดไปแล้ว วันนี้พอกลับไปแล้วผมจะทำอาหารให้พวกคุณทาน อย่างนี้ดีไหมครับ"

"เหอะ ที่คุณทำนั่นเรียกอาหารเย็นได้หรือ หมูมันยังไม่ทานเลย"

สีหน้าของลู่เหวินซูเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ๑ที่รักอย่าเป็นแบบนี้สิครับ ผมมีพรสวรรค์มากเลยนะ แค่คุณยังไม่เคยเห็น"

"เหอะ ฉันไม่อยากคุยกับคุณแล้ว ฉันยังต้องรีบไปทำงานอีก" หลี่ซูเจ๋เก็บถ้วยในมือของเขา จัดการเก็บกล่องรักษาอุณหภูมิให้เรียบร้อย แล้วลุกขึ้นยืนเพื่อนออกไป

ลู่เหวินซูดึงมือของเธอเอาไว้

เขากลัวมากว่าหากปล่อยมือแล้วเธอจะหนีไป ท้ายที่สุดเธอก็ได้แก้แค้นแล้ว จึงไม่มีอะไรให้ต้องนึกถึงกันอีก

ที่เธอบอกว่ารักเขา นั่นก็โกหกหรือไม่

หลี่ซูเจ๋หันกลับไปมองเขา "ปล่อยมือ หากฉันยังไม่ไปตอนนี้มันจะสายแล้ว"

"นางฟ้าตัวน้อยลำบากแล้ว" ลู่เหวินซูกำมือของเธอไว้แน่น ก่อนจะปล่อยไปอย่างเชื่องช้า "คุณต้องจำให้แม่น ผมรักคุณ ผมอยู่ข้างๆ คุณ"

"ฉันรู้ค่ะ" หลี่ซูเจ๋ดึงของตัวเองกลับมา "คุณอย่าเพ้อเจ้อนักเลย"

ประจวบเหมาะกับที่เลขาเคาะประตู ราวกับมีเรื่อง หลี่ซูเจ๋รีบดึงมือของตัวเองกลับมาและวิ่งออกไป เมื่อเปิดประตูออกก็เผชิญหน้ากับเลขาพอดิบพอดี จึงกล่าวอย่างถือวิสาสะ "ข้างในค่อนข้างรกนะ เธอไปเรียกแม่บ้านหลายๆ คนมาทำความสะอาดเถอะ"

แม่บ้าน... หลายๆ คนรึ

เลขามองท่าทีของหลี่ซูเจ๋ ราวกับคิดไปไกลแล้ว แต่ด้วยหน้าที่ของเลขานุการ จึงต้องกดมันเอาไว้ และรับคำไป

เมื่อได้รับคำอนุญาตให้เข้าออฟฟิศประธานได้ เลขาจึงได้เห็นว่าห้องนั้นพินาศขนาดไหนเธอถอนหายใจ และเมื่อหันไปมองลู่เหวินซูที่นั่งอยู่ที่โซฟา ด้วยท่าทีใบหน้าก้มต่ำ และบรรยากาศมาคุ

เลขาจึงวางเอกสารลงอย่างเงียบๆ แล้วจึงออกไปติดต่อแม่บ้านให้ขึ้นมา

ไม่กล้าถามอะไรแม้แต่คำ

--

เมื่อส้งจิ้งเหอนัดเวลากับหลี่ซูเจ๋เรียบร้อยแล้ว ก็ได้รับกุญแจที่มากับไปรษณีย์โดยเร็ว ในตอนที่กำลังจะไปรับแมว ฉางผิงก็โทรมาแล้วบอกว่าอยากจะไปกับเธอด้วย

บ้านที่ไม่มีใครอยู่บ้านหลายวัน ที่พื้นเริ่มมีฝุ่นจับจนหนาทึบ แร็กดอลล์ตัวน้อยที่อยู่บนโซฟาก็กระเด้งตัวขึ้นมา ไม่หวาดกลัว ส้งจิ้งเหอและฉางผิงที่เปิดประตูมาแม้แต่นิด

ขาสั้นๆ ของแร็กดอลล์ตัวน้อยสีขาวของฉางผิงอยู่ชั่วครู่ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนพื้น

ฉางผิงคุกเข่าลงไปลูบขนมัน ดูแล้วน่าจะชอบน่าดู "แม่ครับ นี่คือแมวที่คุณน้าเลี้ยงหรือครับ"

"ใช่จ้ะ คุณน้าไม่อยู่ พวกเราเลยต้องดูแลมันสักระยะนะ" ส้งจิ้งเหอเปิดกล่องแมว เพื่อให้แมวร็อกดอลล์เดินเข้าไป "พอกลับไปแล้ว ลูกต้องดูแลเขาดีดีนะจ๊ะ"

"สบายใจได้ครับแม่ แมวของคุณน้าก็คือแมวของผม ผมจะดูแลอย่างดีเลยครับ"

"รู้จักประจบแต่เล็กแต่น้อยเลยหรือ" ส้งจิ้งเหอดีดที่หน้าผากของเขาหนึ่งที “ได้ยินมาว่าลูกจำน้องที่จะเกิดจากน้าถังซินหรือ ฮึ”

ฉางผิงกล่าวอย่างมั่นใจ “ผมกลัวว่าหากผมไปเป็นทหารแล้วจะหาลูกสะใภ้ให้ไม่ได้ จึงจะขอจองน้องไว้ก่อน”

“หากน้าถังซินคลอดน้องผู้ชายมาล่ะ”

“ก็ ก็รอคลอดคนต่อไป” ฉางผิงคิดใคร่ครวญก่อนจะกล่าว “คุณน้าไม่มีทางคลอดแค่คนเดียวอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นความสวยของคุณน้าก็จะไม่มีใครสืบทอดต่อ นั่นมันน่าเสียดายมาก”

“เจ้าปีศาจเจ้าเล่ห์นี่ ความคิดนี่ไม่เบาเลย” ส้งจิ้งเหอส่ายหน้า “ลูกไม่เหมือนแม่ ไม่เหมือนพ่อ แม่ชักสงสัยแล้วนะว่าแม่คลอดลูกออกมาเองหรือไม่”

ฉางผิงกล่าว “แน่นอนสิ นี่อาจจะเป็นนิสัยลับๆ ของพ่อที่แม่ไม่รู้ แต่ผมสืบทอดมาก็ได้”

ส้งจิ้งเหอที่ได้ยินเช่นนั้นก็พูดไม่ออกบอกไม่ถูก

เมื่อนำแมวออกมาจากบ้านแล้ว ฉางผิงก็เอ่ยถาม “แม่ครับ คุณพ่อจะกลับมาคืนข้ามปีจริงๆ หรือครับ”

“โอ๊ย ถ้าลูกไม่พูดแม่ก็ลืมแล้วนะเนี่ย” ส้งจิ้งเหอตบหน้าผาก ช่วงนี้บริษัทตระกูลส้งยุ่งมาก เธอลืมบอกเรื่องนี้กับวี่เหวินถิงไปเสียสนิท “พ่อของลูกกลับมาแล้ว ตอนนี้อยู่เมืองหนานเฉิงจ้ะ”

ดวงตาของฉางผิงเป็นประกาย “จริงหรือครับ”

“จริงจ้ะ แม่ไม่หลอกลูกหรอก” ส้งจิ้งเหอลูบผมของเขาไปมา ก่อนจะกล่าวยิ้มๆ “หากพ่อได้เจอลูกนะ จะต้องตกใจอย่างแน่นอน แม่จะเรียกเขามาทานข้าวเย็นด้วยกัน”

“เช่นนั้นแม่รีบบอกพ่อเถอะ” หลายปีแล้วที่ฉางผิงไม่ได้พบเจอกับผู้เป็นพ่อ พอได้รู้ว่าจะได้เจอกับพ่อ ก็ตื่นเต้นอย่างทนไม่ไหวและเร่งให้ส้งจิ้งเหอรีบโทรหาทันที

ส้งจิ้งเหอหัวเราะ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาวี่เหวินถิงทันที

ฉางผิงที่อยู่ข้างๆ ก็กลั้นหายใจไปด้วย

โทรศัพท์ถูกรับโดยเร็ว วี่เหวินถิงเอ่ยขึ้นมาก่อน “มีเรื่องอะไรครับ”

“เย็นนี้มาทานอาหารเย็นด้วยกันนะคะ ที่บ้านของฉัน” ส้งจิ้งเหอเหลือบมองไปทางลูกชาย แล้วกล่าว “ฉันเตรียมของขวัญชิ้นใหญ่ไว้ให้คุณด้วยล่ะค่ะ”

วี่เหวินถิงไม่ได้ตอบกลับมาในทันควัน

ส้งจิ้งเหอรอคำตอบจากเขาไม่ไหว ใจพลันเต้นช้าลง “คุณแม่ทำให้ลำบากใจหรือคะ”

“ไม่ใช่” น้ำเสียงของวี่เหวินถิงฟังดูกังวลอย่างถึงที่สุด “พ่อของผมได้รับบาดเจ็บที่ซีเรีย”

“อาการสาหัสหรือคะ”

“ไม่ร้ายแรงครับ เพียงแค่ทีมมันกระจัดกระจาย ผมจะเข้าไปช่วย อาจจะต้องอยู่ที่นั่นสักระยะหนึ่ง” วี่เหวินถิงกล่าวอย่างรู้สึกผิด “เที่ยวบินสิบเอ็ดโมง คงอยู่ทานข้าวเย็นกับคุณไม่ได้แล้ว”

ส้งจิ้งเหอเหลือบมองนาฬิกา

ตอนนี้สิบโมง

เธอถาม “จากสนามบินเมืองหนานเฉิงหรือคะ”

“อือ”

“คุณรอฉันก่อน” ส้งจิ้งเหอกล่าวจบแล้ววางสายทันที ก่อนจะดึงฉางผิงวิ่งขึ้นรถอย่างว่องไว “พ่อของลูกจะไปต่างประเทศแล้ว แม่จะต้องพาลูกไปสนามบินเดี๋ยวนี้”

"สถานการณ์ที่ซีเรียตึงเครียดนัก วี่เหวินถิงไปครานี้ จะได้กลับมาอีกเมื่อไหร่ก็ไม่รู้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน