บทที่ 336 ลูกและฉันรอคุณกลับมา
ฉางผิงร้องลั่น “พ่อเพิ่งจะกลับมาก็จะไปอีกแล้วหรือครับ”
“ใช่”
ส้งจิ้งเหอขึ้นทางด่วนเพื่อตรงไปสนามบิน แต่อย่างไรความเร็วนั้นก็ยังมีจำกัด เพราะเธอพาลูกมาด้วย ต่อให้ฉางผิงจะรีบมาก หากเขาไม่ใช่เด็กเล็กก็คงจะขับเองแล้ว
สี่สิบนาทีต่อมา ในที่สุดสองแม่ลูกก็ตรงมาถึงสนามบิน
ส้งจิ้งเหอเห็นว่าไฟลท์ของวี่เหวินถิงนั้นปิดไปนานแล้ว ก็รีบโทรหาผู้ช่วยจาง ในตอนที่ทางเครื่องบินกำลังนับคนก็รีบตามติดคนภาคพื้นดินไปทางสนามบินทันที
พนักงานต้อนรับมายังที่นั่งชั้นเฟิร์สคลาส ก็พบกับวี่เหวินถิง “คุณวี่คะ คุณส้งมาหาคุณค่ะ”
วี่เหวินถิงที่ได้ยินว่าส้งจิ้งเหอมาหา ก็รีบลงจากเครื่องบินทันที
ห่างไกลออกไปนั้น เขาเห็นส้งจิ้งเหอยืนอยู่ท่ามกลางลมที่หนาวเหน็บ เสื้อกันลมตัวใหญ่ถูกพัดกระพือ ส่วนมือขวานั้นกระชับมือของเด็กร่างขาวตัวสูงปากแดงอยู่
นี่ไม่ใช่ลูกของถังซินหรือ
ไม่เพียงแต่วี่เหวินถิง ฉางผิงที่เห็นเขาก็ชะงักไปเช่นกัน ด้วยอารามตื่นตะลึง
“แม่ครับ เขา เขา...” ฉางผิงเงยหน้ามองส้งจิ้งเหอ “ผมเคยเจอกับคุณอาสองครั้ง”
ส้งจิ้งเหอโบกมือให้กับเขา “อาอะไรกัน นี่พ่อของลูกต่างหากจ้ะ”
“.....”
จนกระทั่งวี่เหวินถิงเดินมาถึง ส้งจิ้งเหอก็แย้มยิ้ม และผลักฉางผิงไปทางเขา “คุณต้องไป เลยมาทานอาหารเย็นด้วยกันไม่ได้ ฉันจึงได้แต่นำของขวัญชิ้นใหญ่มาให้คุณถึงที่”
วี่เหวินถิงไม่รู้ว่าควรพูดอะไรออกไปดี
เขาก้มหน้ามองฉางผิง ฉางผิงเองก็จ้องเขา พ่อลูกต่างจ้องมองกันตาโต
ยังคงเป็นส้งจิ้งเหอที่พูดขึ้นมา “พวกคุณทำไมมองกันแบบนี้ล่ะ”
“ส้งจิ้งเหอ” ทันใดนั้นวี่เหวินถิงก็หันมาจ้องเธอด้วยสีหน้าทะมึน ก่อนจะระเบิดอารมณ์ออกมา “เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ทำไมคุณถึงปิดบังผมมาตลอดกัน”
ส้งจิ้งเหอรีบโต้กลับทันที “คุณคิดว่าฉันอยากปิดนักหรือคะ ไม่ใช่ว่าเป็นแม่คุณที่เกินไปหรือ ที่ฉันรับเงินจากท่านก็เพื่อนำมาดูแลลูก ใครจะไปคิดว่าท่านจะเปลี่ยนจดหมายของฉันกัน”
“แล้วนี่คุณจะมาตะโกนให้มันได้อะไร ฉันเลี้ยงลูกของคุณมาอย่างดี คุณควรจะขอบคุณฉันไม่ใช่หรือ ฉันคิดจะบอกกับคุณตั้งแต่ครั้งที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้ว ใครใช้ให้คุณมายั่วโมโหฉันกัน...”
วี่เหวินถิงรั้งเธอเข้ามากอดไว้แน่น “ผู้หญิงแบบคุณนี่มันน่าตายจริงๆ เหนื่อยใช่ไหมครับ ทั้งดูแลตระกูลส้ง ทั้งต้องดูแลลูกไปพร้อมกัน”
ส้งจิ้งเหอเริ่มปวดที่ทั้งสองตา ก่อนจะกอดเอวของเขาไว้แน่น “ไม่เหนื่อยเลยค่ะ แค่คุณกลับมาก็พอแล้ว”
“ผมควรรู้ให้เร็วกว่านี้” วี่เหวินถิงทั้งโกรธทั้งโมโห แต่สุดท้ายก็ได้แต่ถอนหายใจ
ควรรู้ได้ตั้งแต่ที่รู้สึกคุ้นกับดวงตาและคิ้วของเด็กคนนี้แล้ว เพราะว่าเหมือนกับส้งจิ้งเหอ ควรรู้ได้ตั้งแต่แรกว่าที่ถังซินปิดบังเด็กคนนี้เอาไว้ ก็เพราะกลัวว่าเขาจะมองออก
ส้งจิ้งเหอกล่าวอย่างขำๆ “มารู้ตอนนี้ก็ยังไม่สายค่ะ ไม่ทักทายกับลูกของคุณสักหน่อยหรือคะ พวกเราเอาแต่กอดกัน เขาก็ยืนตากลมหนาวเพียงคนเดียวสิคะ”
วี่เหวินถิงปล่อยส้งจิ้งเหอไป และหันไปมองฉางผิง
ฉางผิงโบกมือให้เขาอย่างไม่ขลาดอาย ทั้งยังยิ้มแฉ่ง “สวัสดีครับพ่อ”
วี่เหวินถิงย่อตัวลงไปหาเขา ทั้งยังสำรวจใบหน้านั้นไปด้วย “ลูกน่าจะเห็นว่าเราเหมือนกันตั้งนานแล้วใช่ไหม ทำไมถึงไม่บอกพ่อกัน”
“แม่บอกว่าพ่ออยู่ในกองทัพ ผมคิดว่าพ่อจะกลับมาตอนวันขึ้นปีใหม่” ใบหน้าของฉางผิงเต็มไปด้วยความจนใจ “ตอนแรกผมคิดว่าผมคงเป็นลูกของพี่น้องของพ่อ”
วี่เหวินถิงกล่าวอย่างจนใจ “พ่อของลูกเป็นลูกคนเดียวจ้ะ”
เขาเติบโตมาขนาดนี้ ในวันนี้ก็ได้รับเรื่องตื่นตะลึงที่เพียงพอไปทั้งชีวิตแล้ว
ฉางผิงแย้มยิ้ม “ไม่มีอะไรที่เกี่ยวกันเลย มารู้จักในตอนนี้ก็ยังไม่สาย สุดท้ายคุณพ่อก็ยังคือคุณพ่อ”
“มานี่มา” วี่เหวินถิงอ้าแขนออก น้ำเสียงฟังดูสั่นเครือ “มาให้พ่อกอดหน่อย”
ฉางผิงปรี่เข้าหาอ้อมแขนของเขาทันที
วี่เหวินถิงกอดร่างเล็กนั้นเอาไว้ แขนของเขาสั่นไหว มันไม่ง่ายเลยที่เขาจะต้องห้ามตัวเองเอาไว้ “พ่อไม่ได้ดูแลวัยเด็กของลูกเลย พ่อขอโทษนะ”
“พ่อครับ พ่ออย่ารู้สึกผิดเลยนะครับ” ฉางผิงกล่าวอย่างไม่ถือสา “แม่บอกเป็นผู้ชายคิดมากไม่ดี และผมก็เพิ่งจะสี่ขวบเท่านั้น วัยเด็กนั้นเพิ่งจะเริ่มขึ้นเท่านั้น”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน
สนุกมากๆ เลยค่ะ ขอบคุณมากๆ นะคะ ที่มีนิยายสนุกๆ ได้อ่าน...
สนุกมากๆๆๆ...