รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน นิยาย บท 345

บทที่ 345 นั่นคืออดีตพี่เขย

เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของเธอ เฉินคางก็ทำได้เพียงแสร้งงงไปเท่านั้น “เป็นไปไม่ได้ ประธานมู่กับพี่ใหญ่รักกันดีออก”

กวนหลิงเอ๋อจ้องเขาอย่างจับผิด “ฉันถามนายว่าพี่เขยเป็นอย่างไรบ้าง นายตอบว่าพวกเขารักกันดี คำตอบมันไม่ตรงกับคำถามของฉันนะ นายรู้อะไรมา”

เวรแล้ว

“ผม ผมไม่รู้อะไรเลย...” เฉินคางยกสองมือขึ้นสูง น้ำเสียงฟังดูลุกลน “ผมอยู่กับประธานมู่ทุกวันก็จริง แต่ผมไม่ได้เข้าออฟฟิศของเขาเลย ผมเป็นผู้คุ้มกันเท่านั้น”

กวนหลิงเอ๋อจับความผิดปกติบนใบหน้าของเขาได้ในเสี้ยววิ มั่นใจได้ทันทีว่าเขาต้องรู้อะไรมา หน้าตึงขึ้นมาทันตา “เฉินคาง คืนนี้กลับไปนอนคนเดียวนะ”

“ฮะ” เฉินคางชะงักนิ่ง “เธอพูดว่าจะไปดูดอกไม้ไฟไม่ใช่หรือ”

“ก็ฉันไม่อยากไปแล้ว” กวนหลิงเอ๋อเหลือบมองเขา ก่อนจะกล่าวเสียงเย็นชา “วันนี้ฉันจะอยู่กับแม่ และจะดูรายการของเทศกาลตรุษจีนกับแม่ทั้งคืน”

เฉินคางตกตะลึง รับรู้ได้ว่ากวนหลิงเอ๋อโกรธเสียแล้ว ใบหน้าพลันทุกข์ระทม “อย่านะ... คืนข้ามปีแบบนี้ผมไม่อยากอยู่คนเดียว...”

ขายขี้หน้านัก

กวนหลิงเอ๋อจงใจถาม “นายพูดว่าอะไรนะ ไม่ได้ยินเลย”

เฉินคาง “.....”

เฉินคางเหลือบมองกวนชิงเฟิง ก่อนจะลอบกล่าวในใจ ผมขอโทษครับเจ้านาย ผมก็อยากจะเก็บความลับให้ แต่ภรรยาก็สำคัญเช่นกันครับ

หลังจากนั้นก็ดึงกวนหลิงเอ๋อเข้าห้องไป แอบเล่าเรื่องตั้งแต่ที่ถังซินติดต่อเขา จนเขาถูกดึงเข้าไปในแผนของถังซิน ตั้งแต่เยนจิงกลับมาอยู่ข้างๆ มู่เฉินหย่วน ทั้งยังเรื่องระหว่างถังซินและมู่เฉินหย่วน เขาบอกเธอทุกอย่าง

เรื่องสั้นสามนาที ที่ทำให้กวนหลิงเอ๋อชะงักไปเสียนาน

เฉินคางใช้มือเขย่าหน้าเธอ “เฮ้ เฮ้ ที่รักคุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม ทำไมถึงไม่พูดอะไรเลยครับ”

ทันใดนั้นกวนหลิงเอ๋อก็สูดลมหายใจเข้าลึก ราวกับกำลังจะกรีดร้อง “ปล่อยฉัน พวกเขาเลิกกัน....”

“เบาๆ ที่รักเบาเสียงหน่อย” เฉินคางรีบปรี่เข้าไปปิดปากเธอทันที “ห้องที่บ้านของเธอไม่เก็บเสียง เดี๋ยวน้องชายของเธอมาได้ยินเข้า”

เพราะกลัวท่าทางเช่นนี้ของกวนหลิงเอ๋ออย่างไรเล่า เขาถึงได้ลากเข้ามาเล่าให้ฟังในห้อง

เป็นการกระทำที่เยี่ยม

กวนหลิงเอ๋อกระชากมือของเขาออก ทั้งยังถามอย่างตกใจ “พวกเขาไม่ได้รักกันดีหรือ ทำไมถึงเลิกกันล่ะ แล้วพี่ฉันไปต่างประเทศทำไม”

“เรื่องนี้ผมก็ไม่รู้ เหมือนว่ากำลังหาอะไรอยู่” เฉินคางส่ายหน้า และถามเธอ “รู้จักหลินเฉิงจี๋ใช่ไหม ที่พี่ใหญ่เลิกกับประธานมู่ก็เพราะเขา”

“หลินเฉิงจี๋รึ” กวนหลิงเอ๋อเบิกตาโพลง

เธอย่อมรู้จักแน่นอน

หากไม่ใช่เพราะการช่วยเหลือจากหลินเฉิงจี๋ เธอคงไม่ดีมาจนถึงทุกวันนี้ หากไม่ใช่เพราะอดีตพี่เขยของเธอ

กวนหลิงเอ๋อสงบโดยเร็ว และไต่ถาม “เป็นเพราะพี่ใหญ่กลับมารู้สึกกับหลินเฉิงจี๋อย่างนั้นหรือ ถึงได้เลิกกับประธานมู่ ไม่น่าเป็นเช่นนั้นไปได้...”

ในอดีตถังซินเกลียดหลินเฉิงจี๋แค่ไหน เธอได้เห็นกับตาของเธอเองแล้ว ครั้งนั้นเป็นเพราะพูดถึงหลินเฉิงจี๋ ถึงได้ถูกถังซินตบเข้าให้ ตอนนี้เธอก็ยังคงจำมันได้แม่น

แล้วอย่างนั้นพวกเขาจะรื้อฟื้นความรู้สึกเก่าๆ กันได้เช่นไรกัน

เฉินคางได้ยินที่เธอบ่นกับตัวเองไม่ชัด จึงเอ่ยถามอย่างสงสัย “พี่ใหญ่กับหลินเฉิงจี๋มีความสัมพันธ์กันหรือ”

“อือ อดีตพี่เขยฉันเอง”

“ฮะ”

“แฟนตอนที่พี่ใหญ่ไปเรียนที่ต่างประเทศ รักแรก เป็นเพราะความช่วยเหลือของเขาด้วยที่ทำให้ฉันได้เข้าวงการบันเทิง”

“ฮะ”

“นายจะฮะไปทำบ้าอะไรยะ” กวนหลิงเอ๋อทนไม่ไหว จึงตบหน้าผากเข้าเขาให้ “ให้ฉันเบาเสียง นายดูตัวเองก่อนเถอะว่าตัวเองดังขนาดไหน”

เฉินคางลูบตรงจุดที่โดนตบ ยังไม่สามารถดึงสติมาจากข่าวคราวที่น่าตกใจของเธอได้ “ผมก็สงสัย พี่ใหญ่กับประธานมู่รักกันดีขนาดนั้น ทำไมถึง... เป็นเพราะแฟนเก่าของเธอนั่นเอง”

หลังจากที่เขาประมวลผลความคิดเสร็จ ก็หันไปถามกวนหลิงเอ๋อ “หลินเฉิงจี๋เป็นใครมาจากที่ไหนกัน”

“ตระกูลอเล็กซ์เลียร์แห่งประเทศYรู้จักไหม”

เฉินคางพยักหน้า หลังจากนั้นก็เริ่มรับรู้โดยเร็วพลัน และสบถออกมา “เขาคือคนของอเล็กซ์เลียร์รึ”

“ไม่ใช่แค่นั้น ทั้งยังเป็นทายาทคนที่สอง”

เฉินคาง “.....”

กวนหลิงเอ๋อไม่ได้ดูว่าเฉินคางสติหลุดไปแล้ว ลูบคางไปมาแล้วเอ่ยพึมพำ “พี่ฉันทำแบบนี้ไม่ได้สิ ต่อให้พี่เฉิงจี๋จะมีเงิน แต่ธุรกิจของครอบครัวไม่ได้เกี่ยวข้องกับทางเอเชียเลยนะ”

“ฉันเพิ่งจะเซ็นสัญญากับบริษัทพิงโอไป ห้าปีแหนะ นายบอกว่าประธานมู่กำลังอารมณ์ไม่ดีเพราะพี่สาวฉันขอเลิก หากฉันโดนรังแกขึ้นมาจะทำอย่างไร”

เมื่อดึงสติกลับมาได้ เฉินคางก็เอ่ยถามอย่างไม่รู้ตัว “ประธานมู่คงไม่ใจแคบขนาดนั้น”

กวนหลิงเอ๋อร้องเหอะ แล้วถามเขา “หากฉันโดนชายอื่นแย่งไป นายจะโกรธไหม”

“ไม่ได้ๆ” เฉินคางรีบตอบทันที เพียงแค่คิดถึงเขาก็รับไม่ได้แล้ว “ใครกล้าแย่งเธอไป ผมจะเป่าสมองมันก่อนอย่างแรก”

“ก็นั่นแหละ” กวนหลิงเอ๋อลูบไหลของเขา ทั้งยังเอ่ยอย่างระมัดระวัง “เรื่องผู้หญิงของตนเอง ผู้ชายหน้าไหนก็ใจแคบทั้งนั้น ไม่มีข้อยกเว้นไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม”

“เฉินเฉิน( เฉินคาง) นายต้องคอยดูอารมณ์ของประธานมู่ไว้ พวกเราจะต้องทำให้พวกเขาคืนดีกัน เมื่อนำพี่เฉิงจี๋กับประธานมู่มาเทียบกันแล้ว ฉันรู้สึกว่าประธานมู่เหมาะกับพี่ฉันมากกว่า”

“ผมมองว่าไม่...” เฉินคางกล่าวอย่างเถรตรง “เธอแค่กลัวว่าหากพี่ใหญ่กับประธานมู่เลิกกัน เธอจะไม่ได้รับสิ่งที่ดีจากบริษัทพิงโอ หากหลินเฉิงจี๋มีหุ้นอยู่ในบริษัทพิงโอ เธอต้องกลับคำพูดแน่”

“เฮ้ ฉันดูไร้ความรู้สึกขนาดนั้นเลยหรือ” กวนหลิงเอ๋อบิดหูของเขาเต็มมือ “ที่ฉันทำงานหาเงินก็เพื่ออนาคตของเราทั้งนั้น ฉันเองก็หวังให้พี่ใหญ่มีความสุขเช่นกัน”

เฉินคางที่โดนบิดจนเจ็บ ก็เริ่มร้องขอชีวิตทันที “ครับๆ ที่รักพูดถูกทุกอย่างเลย”

“เป็นสายลับข้างกายประธานมู่ให้ดีๆ คอยดูอารมณ์ของประธานมู่เอาไว้ด้วย”

“นั่นมันสำรวจเห็นได้จริงๆ หรือ”

“ก็ไปหาวิธีมาสิ เจ้าโง่” กวนหลิงเอ๋อกลอกตาใส่เขา ราวกับนึกอะไรขึ้นมาได้ รีบปล่อยมือจากเขา และวิ่งออกจากห้องไปทันที

“ที่รัก คุณจะไปไหนกัน” เฉินคางตะโกนเรียก เขานวดใบหูของตัวเอง พร้อมกับวิ่งตาม

เมื่อเห็นกวนหลิงเอ๋อเข้าไปในห้องของถังซิน นำกล้องSLRลงมาจากชั้นหนังสือ จึงเข้าไปถามด้วยความสงสัย “รอไปถ่ายภาพทีหลังไม่ได้หรือครับ”

“หุบปาก” กวนหลิงเอ๋อตอบกลับเขาไปประโยค รีบเปิดกล้องSLRอย่างว่องไวเพื่อหาอะไรสักอย่าง

เฉินคางเองก็อยากดู จึงได้ปรี่เข้าไป สุดท้ายก็ได้เห็นหน้าจอนั้น เป็นร่างของถังซิน แต่กล้องSLRนั้นก็ถูกปิดลงโดยกวนหลิงเอ๋อ

กวนหลิงเอ๋อเก็บกล้องSLRลงกระเป๋าไป หลังจากนั้นก็ส่งมันให้กับเขา ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มพึงพอใจ “เดี๋ยวเอาไปให้พี่เขยด้วย บอกว่าพี่ใหญ่มอบให้เขา รู้หรือไม่”

“ประธานมู่น่าจะทานข้าวอยู่ที่บ้านตระกูลมู่” เฉินคางกล่าว เขายังไม่อยากทำงานตั้งแต่คืนแรกของปีใหม่หรอกนะ “ตอนค่ำผมจะพาคุณไปดูดอกไม้ไฟ หลังจากนั้นก็กลับไปนอนพักที่บ้าน”

กวนหลิงเอ๋อเท้าเอวจ้องเขาตาถลึง “ไปส่ง ส่งเสร็จแล้วค่อยกลับมารับฉัน เข้าใจไหม”

“ตอนนี้รึ”

“ก็ตอนนี้ไง จะไปไม่ไปฮะ”

“ไปครับๆ” เฉินคางออกไปทั้งสีหน้าขมขื่น

ฝ่าลมหนาวเพื่อไปส่งของ โชคดีที่จะไม่ต้องข้ามปีตัวคนเดียว หากไม่ไปส่งของ นั่นคงน่าสังเวชมากกว่า

หลายวันมานี้มู่เฉินหย่วนอารมณ์ไม่ดีนัก เฉินคางจึงไม่กล้าเขาไปวุ่นวายกับเขามาก ในตอนที่จะนำของไปส่งให้ ก็กระแอมไอในลำคอ แล้วโทรหาลูกพี่ลูกน้องอย่างผู้ช่วยจางเป็นอันดับแรก

เขาออกมาจากเขตชุมชนแล้ว ตากลมหนาวจนตัวสั่น เพียงชั่วครู่ผู้ช่วยจางก็รับสาย น้ำเสียงฟังดูไม่มีความสุขเท่าไหร่นัก

“คืนข้ามปีแบบนี้ นายโทรมาทำไม”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน