รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน นิยาย บท 348

บทที่ 348 vlogที่ช้า

ภาพสั่นไหว หลังจากนั้นคนที่โผล่ออกมาก็คือถังซิน ราวกับว่าเธอวางกล้องไว้บนโต๊ะ หลังจากนั้นก็ถอยเท้าไปนั่งโซฟาที่อยู่ด้านหลัง

มู่เฉินหย่วนเห็นเธอสวมเดรสยาวสีชมพูตัวบางๆ คาดว่าน่าจะอัดวิดีโอนี้ในตอนเข้าหน้าฤดูใบไม้ร่วง ดวงตาประกายคู่นั้นกะพริบปริบๆ ร่างผอมเพรียวที่งดงาม

ชายหนุ่มต้องใบหน้าของเธออย่างรักใคร่

เขาได้รู้แล้วว่ารักนั้นอธิบายได้ยากขนาดไหน แม้ว่าคนทั้งสองจะเลิกกันมานานขนาดไหน เขาใช้เวลาทั้งหมดไปกับการทำงาน แต่เพียงแค่ได้เห็นใบหน้าของเธอ ก็หยุดคิดถึงเธอไม่ได้ คิดว่าเธอที่อยู่ที่ต่างประเทศตอนนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง จะผอมหรือจะอ้วน นึกถึงยามที่เธออยู่ข้างกาย

“ดีจ้า” ถังซินที่อยู่ในวิดีโอนั้นโบกมือให้กับกล้อง และเริ่มพูดกับตัวเองทันที “ที่อัดVlogนี้ ก็เพื่อบันทึกความสวยของตัวฉันในตอนนี้ เพราะกลัวว่าคนรุ่นหลังจะไม่ได้เห็นคนที่งดงามแบบฉันอีก”

เธอสะบัดผมใส่กล้อง และฉีกยิ้มบางๆ อยู่ชั่วครู่ “แน่นอน มีคำพูดมากมายที่อยู่ภายในใจของฉัน จึงอยากใช้โอกาสนี้พูดมันเสียที”

“อือ... ส่วนที่ว่าวิดีโอนี้จะบันทึกอย่างไร จะเปิดเผยหรือไม่ ฉันยังไม่ได้คิดไว้หรอก” เธอจงใจชะงักไป ก่อนจะโบกมือให้กับกล้อง

“ต่อให้ไม่มีใครได้ดู แต่ฉันก็อยากแบ่งปันเรื่องราวที่มีความสุขให้ นั่นก็คือ ฉันหมั้นแล้วจ้า”

ถังซินย่นจมูก ก่อนจะบ่นพึมพำ “แต่แหวนนี้ได้มาจากการเข้าร่วมกิจกรรมนะ คนเขาไม่เอา เลยเอามาให้พวกเราแทน เฮ้อ คุณมู่ แม้แต่ขั้นตอนแต่งงานยังไม่มีเลยนะ”

มู่เฉินหย่วนอดที่จะขำไม่ได้

หากรู้ว่าผู้หญิงคนนี้ใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ขนาดไหน เขาจะมอบพิธีขอแต่งงานที่โรแมนติกให้กับเธอเป็นแน่

น่าเสียดายที่พวกเขาเลิกกันแล้ว

มู่เฉินหย่วนรู้สึกเสียใจ ทันใดนั้นถังซินก็ยิ้มสดใสให้กับกล้องด้วยดวงตาเป็นประกาย “แต่ไม่เป็นไร แค่ได้อยู่กับคุณมู่ ฉันก็ดีใจมากพอแล้ว”

“คุณมู่ หากคุณได้มีโอกาสดูวิดีโอนี้ ฉันอยากบอกกับคุณว่าฉันรักคุณ รักคุณมาก ดังนั้นต่อให้คุณไม่เพอร์เฟค ฉันก็ไม่สนใจหรอก”

กล่าวจบเธอก็หัวเราะ แล้วพูดกับตัวเอง “ไม่ๆ ฉันพูดไม่ถูกนี่ คุณมู่ คุณเพียงไม่ได้สนใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น คุณยังเพอร์เฟคมาก เป็นแฟนหนุ่มที่คุณสมบัติครบถ้วนมาก”

และเธอก็สำทับขึ้นมาอีกหนึ่งประโยค “ใช่ เป็นแฟนหนุ่มที่คุณสมบัติเกินเลยมาก”

“คุณมู่ คุณไม่เพียงเป็นแฟนหนุ่มที่เหมาะสม แต่เป็นครูที่เหมาะสมด้วย” ถังซินจ้องกล้องด้วยรอยยิ้มบางๆ “ฉันได้เรียนรู้อะไรจากคุณมาเยอะแยะเลย เป็นคุณที่สอนให้ฉันเติบโต”

“ตอนเด็กที่พ่อแม่หย่ากัน มันทำให้ฉันไม่สนใจในความรัก จนถึงขั้นกลัว ตอนที่เรียน ถึงแม้จะมีผู้ชายเข้ามาจีบ ฉันก็ไม่สนใจ สนใจแต่เรื่องเรียนเท่านั้น”

เธอก้มหน้าราวกับกำลังย้อนอดีต ก่อนจะกล่าวเสียงแผ่ว “ฉันในตอนนั้นนึกแต่จะหาเงินเท่านั้น ยิ่งเยอะก็ยิ่งดี เพื่อช่วยลดภาระของแม่ไปด้วย ภายหลังฉันได้บรรจุเข้าสถาบันแปลภาษาที่นิวคาสเซิล”

“ครั้งแรกที่ฉันได้พบกับหลินเฉิงจี๋ที่สถาบันแปลภาษา พวกเราคุยกันถูกคอมาก เขาชวนฉันเริ่มต้นความสัมพันธ์ ฉันเองก็ตอบโดยไม่คิด เขาเป็นรักแรกของฉัน และทำให้ฉันได้รู้ ว่าบนโลกใบนี้มีผู้ชายมากมายหลายประเภทขนาดไหน ไม่ได้มีแต่ผู้ชายที่ทิ้งภรรยาตัวเองแบบพ่อของฉัน”

นิ่งเงียบไปชั่วครู่ ถังซินก็เอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง “แต่พวกเราก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันนานขนาดนั้น... ฉันต้องการลบภาพในอดีตที่เคยมีกับเขา จึงได้กลับประเทศมา หาผู้ชายที่ถูกชะตาด้วยสักคนมาแต่งงานกัน ตอนนั้นฉันก็ยังคงไม่รู้ว่าความรักเป็นเช่นไร เพียงแค่ต้องการหาสถานที่ปลอดภัยให้กับตัวเองเท่านั้น”

เธอยิ้มให้กับกล้อง “คุณมู่ หากคูณดูถึงตรงนี้ จะต้องโกรธต้องหึงมากแน่ๆ ว่าฉันจะแต่งงานกับคุณแล้ว ทำไมถึงยังสนใจคนในอดีตกันใช่หรือไม่”

“เพราะ... หลังจากได้อยู่กับคุณมู่ ฉันถึงได้เข้าใจความหมายของความรัก” ถังซินมองกล้อง น้ำเสียงจริงจังอย่างถึงที่สุด “เข้าใจได้จากการรักใครสักคน โกรธก็เพราะเขา ดีใจก็เพราะเขา เพราะรัก แค่เขาขอโทษก็พร้อมจะให้อภัยแล้ว”

“ฉันนึกขอบคุณหลินเฉิงจี๋ เพราะเขาทำให้ฉันรู้ว่าการรักใครสักคนเป็นเช่นไร แต่นั่นไม่ใช่ความรัก เป็นเพียงความชอบเท่านั้น ฉันเองก็นึกขอบคุณมู่หยางซิว ช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุด เป็นเขาที่พาฉันผ่านมา ฉันเองก็อยากจะใช้ชีวิตแบบนี้ แต่ว่า...”

คำพูดเหล่านั้น สุดท้ายถังซินก็ไม่ได้พูดมันออกมา แต่กลับยิ้มซุกซนให้กับกล้องเท่านั้น “คุณมู่ คุณเองก็ต้องขอบคุณพวกเขาให้มากๆนะ ไม่อย่างนั้นคุณคงไม่ได้มาเจอกับฉันที่ดีคนนี้”

“ฉันพูดไร้สาระเสียมาก ก็เพราะอยากให้คุณมู่ได้รู้ว่าฉันรักคุณมากขนาดไหน อยากให้คุณเข้าใจฉัน คุณมู่ ฉันอยากจับมือกับคุณไปทั้งชีวิต คุณยินยอมหรือไม่คะ”

เธอกระแอมไอ ก่อนจะกล่าวอย่างจริงจัง “ฉันรู้ว่าคุณยอดเยี่ยมขนาดไหน ยืนอยู่ตรงนั้นมีผู้หญิงมากหน้าหลายตามาหลงรัก ฉันเองก็ไม่ต่างกัน ถึงบ้านจะจน แต่ตัวคนฉลาดนะ ใช่หรือไม่”

“ฉันพูดกับคุณมาเสมอ ฉันอยากออกไปเรียนรู้ด้วยตัวเอง พูดจริงๆ นะคะ เพื่อคุณ เพื่อฉัน หากฉันมีความสามารถที่แข็งแกร่ง ก็จะไม่ถูกคนกล่าวหาว่าเป็นเพียงแจกันดอกไม้ ใช้ความสวยมายั่วยวนคุณเอาไว้”

เมื่อกล่าวจบ เธอก็แลบลิ้น และกล่าวเสียงเบา “แน่นอน ฉันไม่สวยเท่าซือซือ แต่สวยกว่าผู้หญิงอีก80%แน่นอน ถ้าคุณได้เห็นก็ห้ามแย้งเข้าใจไหม”

มู่เฉินหย่วนมองเธอที่พูดเจื้อยแจ้วอยู่หน้ากล้อง ท่าทางพิลึกพิลั่น ใจค่อยๆ อ่อนลง ความโกรธที่สั่งสมในใจมานานนับเดือนเริ่มจางหายไป

เขาใช่นิ้วลูบกล้องด้วยแววตาอ่อนโยน รากกับว่ากำลังลูบใบหน้าของเธออยู่ “อือ คุณดูดีที่สุด”

“ยินยิน ลูกกำลังบ่นอะไรกัน” เสียงของคุณแม่ถังดังขึ้นมาในวิดีโอ

มู่เฉินหย่วนมองกล้องที่สั่น หลังจากนั้นก็ไม่เห็นถังซิน เพียงได้ยินเสียงฝีเท้า ทั้งยังได้ยินเสียงเธอคุยกับคุณแม่ถังไปด้วย

ราวกับถังซินเข้าครัวไปกับคุณแม่ถัง ออดอ้อนเธอเล็กน้อย “แม่ขา แม่เคยเรียนเย็บปักถักร้อยมาก่อนใช่หรือไม่ ช่วยฉันตัดชุดแต่งงานพิธีการให้หน่อยสิ”

“ลูกจะแต่งงานกับประธานมู่หรือ”

“หมั้น แค่หมั้นเท่านั้น” ถังซินแย้งทันทีด้วยความอับอาย “แต่งานแต่งของเราก็คงในไม่ช้าไม่เร็วนี่แหละ แม่ แม่ช่วยทำให้สักชุดสิ”

คุณแม่ถังกล่าว “มีรูป มีผ้าก็ทำได้แล้ว แต่งานเย็บชุดแต่งงานนี่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เลยนะ แม่คนเดียวก็คงสามปีน่ะ ลูกไม่อยากใส่ชุดแต่งงานหรือ”

“ไม่อยาก ฉันอยากใส่ชุดแต่งงานพิธีการที่แม่เย็บมากกว่า”

“เป็นแม่หม้ายแต่ทำไมความต้องการเยอะจังฮะ” คุณแม่ถังกระแหนะกระแหนเธอ “เฉินหย่วนยอดเยี่ยมจะตาย ผู้หญิงแบบไหนก็หาได้ทั้งนั้น มาตกหลุมอะไรลูกกัน”

“แม่เป็นแม่ฉันไหมเนี่ย ฉันกับหยางซิวแค่จดทะเบียนกันเท่านั้น ไม่ได้จัดอะไรเลย”

“ก็ยังนับเป็นแต่งงานครั้งที่สองอยู่ดี”

“เช่นนั้นฉันไปหาลูกเขยที่เคยแต่งงานแล้วมาให้แม่ดีหรือไม่”

คุณแม่ถังตอบทันที “เฉินหย่วนดีขนาดนั้น ลูกว่ายังไม่ดีพออีกหรือ อย่าหาเลย หาให้ตายก็หาดีไม่ได้เท่าเฉินหย่วนแล้ว”

“แล้วชุดแต่งงาน...”

“รองานเสร็จก่อน จะไปหาผ้ามาให้” คุณแม่ถังกล่าว “แต่สามปีก็นานไปไหม เฉินหย่วนก็ไม่เด็กแล้ว ลูกจะให้เขารออย่างเดียวไม่ได้นะ แม่จะลองหาดูว่ามีใครที่มีฝีมืองานปักเย็บบ้าง จะได้ขอให้มาช่วยกัน หากร่วมกันทำ เจ็ดแปดเดือนก็พอแล้ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน