บทที่ 351 เธอจะทิ้งฉันไปรึป่าว
เขาชินกับการที่ตื่นมาแล้วเห็นใบหน้าที่เต็มไปรอยยิ้มของเธอ พูดอรุณสวัสดิ์กับตัวเอง ชอบมื้อเช้าที่เธอทำ และของขวัญเหล่านั้นที่เธอมอบให้เขา ความอบอุ่นนั้นที่เขาต้องการ มีเพียงเธอที่ให้เขาได้
ในโลกนี้มีเพียงประเทศเอฟประเทศเดียวเท่านั้นที่เขาอยากจะใช้ชีวิตอยู่ตลอดไป
และเธอสามารถอยู่กับเขาได้ตลอดไป
--
ห้องทดลองของเย่นจิ่งเหนียนอยู่ในเขตเมือง ซึ่งห่างจาก โรงแรมที่เข้าพักไม่ไกล ถังซิน ขับรถเพียง 6 นาทีก็ถึงแล้ว เขากดกริ่งที่ประตูสองครั้งอย่างรู้สึกตื่นเต้น
ไม่นาน ชายผมสีทองคนหนึ่งก็เดินเปิดประตูออก สายตามาพร้อมกับกันเตือนเป็นนัยๆ
“คุณ เป็นใคร?”
“ สวัสดีค่ะฉันเป็นเพื่อนของคุณเย่น” ถังซิน ใช้ภาษาฝรั่งเศสแนะนำตัวเอง “ ฉันชื่อถังซิน ฉันมาเพราะ lxora คุณเย่นเคยพูดกับคุณมั้ย?”
ใช่ผมทองปิดประตูและดูเหมือนว่าจะเดินไปคุยโทรศัพท์
ถังซินเองก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร ขณะที่เธอยืนรออยู่นั้น ผ่านไปไม่ถึง 1 นาทีประตูก็ถูกเปิดออก ชายผมทองเชิญให้เธอเข้ามา “ฉันโทรหาYan เพื่อเช็ค ว่าทุกคนหรือไม่แล้วแต่ว่าสิ่งที่เธอต้องการมันค่อนข้างที่จะยุ่งยากนิดหน่อย”
“ หมายความว่าอะไร?”
ชายผมทองไม่ได้พูดอะไร ทำเพียงแค่พาถังซิน ลงไปยังอีกห้องหนึ่งที่อยู่ชั้นล่างเพียงหนึ่งชั้น
นี่คือเวทีระเบียงสองร้อยตารางเมตรเต็มๆ ด้านในมีอุปกรณ์ที่ล้ำสมัยและผลการทดลองเต็มไปหมด นักทดลองเจ็ดแปดคนกำลังสวมชุดแล็บกำลังสวมชุดป้องกันที่ห้องทดลองนี้
ถังซินมองด้วยความตกใจจนไม่สามารถเอาอะไรมาเปรียบได้
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องยาสมุนไพรของเย่นจิ่งเหนียนที่ประเทศLH ของใช้สำหรับทหารสามารถทำกำไรได้ตั้งมากเท่าไหร่ มู่ซื่อ มีเขาก็เท่ากับว่ามีแบคที่ค่อนข้างจะดีคนหนึ่ง
เธอเดินตามชายผมทองเข้าไปในห้องทดลองขนาดเล็ก เธอมองเห็น กระป๋องแก้วหลายใบที่กำลังหวังอยู่ยังแท่นวางในห้องทดลอง หนึ่งในนั้นมีพืชสีเขียววางอยู่ด้านไหนหนึ่งลำต้น นี่เป็นพืชที่พวกเขานำมาจากหมู่บ้านโชคดีที่ตุรกี หลังจากที่ทำวิจัยเสร็จเย่นจิ่งเหนียนและเจ้าหน้าที่ที่เป็นลูกมือ ก็ตั้งชื่อให้กับมันว่า lxora
ของเหลวที่อยู่ในกระจกนี้ก็เป็นlxora หรอคะ? ถังซิน ชี้ไปยังแก้วทดลองสีเขียวก่อนที่จะหันไปถามชายผมทอง
ชายผมทองพยักหน้า แววตาเผยถึงความลุกวาว “ใช่! พิจารณามาถึงขั้นตอนที่สี่แล้ว ไม่มีสักครั้งที่จะบกพร่อง พวกเราเองก็ไม่คิดว่าจะสืบหาได้ดีขนาดนี้” ถังซินมองไปยังหลอดทดลองที่อยู่บนเเท่น แล้วเอ่ยขึ้นอย่างสงสัย “ ฉันจำได้ว่าตอนแรกแย่งIxora มาได้หกลำต้นนี่ แต่ที่นี่มีแค่กระป๋องแก้วหนึ่งใบและแก้วทดลองสี่ใบ”
ชายผมทองเอ่ย “ยังมีอีกหนึ่งลำต้น ถูกYanเอาไป เขาบอกว่าซื้ออุปกรณ์ใหม่ที่สามารถแยกIxoraได้เร็วขึ้นได้แล้ว เขาจะเอาไปทำที่นั้น จะได้ไม่ต้องย้ายอุปกรณ์ไปมาให้ยุ่งยากน่ะ”
ถังซินะยักหน้า และเดินตามเขาไป “ขายให้ฉันสักต้นได้มั้ย ราคาเท่าไหร่ก็ได้”
ชายผมทองส่ายหน้า
ถังซินคิดว่าเขาไม่เห็นด้วย ในใจก็รู้สึกผิดหวังขึ้นมาทันที เธอกัดฟันพูด “ถ้าใช้เงินไม่ได้ นายต้องการอะไรก็พูดมาฉันจะทำให้อย่างเต็มที่”
“คุณถัง คุณคิดมากเกินไปแล้ว” ชายผมทองหัวเราะขึ้น “Yan พาคุณมาที่นี่ได้นั้นก็หมายความว่าคุณเป็นเพื่อนที่สำคัญมากๆสำหรับเขา คุณอยากได้อะไรก็เอาไปเถอะ”
“ ถ้าอย่างนั้นทำไม...”
“Ixora ยังอยู่ในช่วงของการทดลองอาจจะสามารถนำไปใช้กับโรคที่ไม่รู้สาเหตุได้” ชายผมทองอธิบายขึ้น “พวกเราต้องทำการทดลองให้สำเร็จ ต้องทดลองจริงกับคนจริงๆหลังจากที่พวกเราทดลองความปลอดภัยของมันแล้วนั้นถึงจะให้คุณได้”
“ สารบางชนิดที่อยู่บนพืชบางชนิดหรือสัตว์บางอย่างก็มีอานุภาพในการติดต่ออย่างมาก มันสามารถแพร่เชื้อทางอากาศได้ ถ้าหากมันแพร่ไปในที่เมืองใหญ่ นั่นก็หมายความว่าจะสามารถสร้างหายนะที่จะทำให้คนตายได้ ได้ถึงแสนคนล้านคน”
ถังซินคิดถึงชาวบ้านเหล่านั้นที่มักจะใช้lxoraในการปรุงอาหารและยังเอามันมาทำเป็นหนึ่งในวัตถุดิบทำน้ำซุป
แต่ตอนที่มันยังเป็นพืชแบบดั้งเดิมและตอนที่นำมันมาสกัดเป็นของเหลวจึงไม่เหมือนกัน ซึ่งอาจจะต้องให้เจ้าหน้าที่ทดลองซ้ำแล้วซ้ำเล่า บางครั้งอาจจะได้สารบางอย่างออกมา
หลังจากที่พิจารณาเรื่องนี้ได้อย่างดีแล้วถังซินจึงหันไปพยักหน้าให้กับชายผมทอง “ขอโทษนะฉันรีบเกินไป ในใจคิดเพียงอยากที่จะเอามันกลับไปช่วยเหลือคน ไม่ได้ ไตร่ตรองให้มากซะก่อน”
ใช่ผมทองรูปคางอย่างครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะขึ้น “การที่จะทดสอบlxora จนถึงขั้นตอนสุดท้าย ต้องใช้เวลาสิบวัน อีกทั้ง ยังต้องนำมันไปใช้กับสิ่งมีชีวิตเพื่อที่จะบันทึกอัตราต่างๆ อย่างน้อยก็ต้องสามสิบวัน”
“ได้สามสิบวันฉันรอได้” เพียงแค่ทดสอบlxora ให้สำเร็จก็สามารถรักษาหลินเฉิงจี๋ได้แล้ว ถังซินถอนหายใจเฮือกใหญ่หนึ่งที “รบกวนคุณช่วยบอกฉันด้วยเมื่อถึงเวลานั้น”
“พวกคุณสามารถจากประเทศเอฟได้มั้ย?”
ถังซินส่ายหน้า “ไม่ พวกเรารอให้การทดสอบ lxora สำเร็จมาโดยตลอดอีกทั้งตอนนี้สุขภาพเขาก็ไม่ดีไม่สามารถที่จะไปไหนได้
ชายผมทองยิ้มพลางเอ่ยถาม “ เห็นคนเรียกขนาดนี้ต้องเป็นคนสำคัญแน่ๆใช่มั้ย?”
“ไม่ใช่ แค่เพื่อนเท่านั้นแหละ” ถังซินเอ่ยขึ้นหลังจากงงๆ เธอทำอะไรมากมายก็เพื่อที่จะทดแทนในสิ่งที่หลินเฉิงจี๋เคยดูแลเธอไว้เลยเมื่อก่อน เธอเป็นห่วงเขา แต่ไม่สามารถที่จะให้เขาไม่อยู่ในใจเธอได้
อีกอย่างหลังจากรอให้เขามีสุขภาพดีขึ้น เธอก็จะกลับไปแล้วเพื่อที่จะไปอยู่กับมู่เฉินหย่วนและขอโทษเขา
เรื่องนี้เธอเป็นคนที่เอาเปรียบมู่เฉินหย่วน
ตอนที่ถังซินจากไปเธอได้แลกเบอร์โทรศัพท์กับชายผมทองไว้ ชายผมทองบอกว่าหากมีอะไรคืบหน้าจะบอกเธอ ระหว่างทางที่กลับนั้นในใจของเธอก็รู้สึกไม่สงบ ทว่าเมื่อถึงโรงแรมหลินเฉิงจี๋ ได้เตรียมอาหารมื้อกลางวันไว้ให้เรียบร้อยแล้วเมื่อได้ยินเสียงกริ่งที่ประตูดังขึ้นจึงเดินออกไปเปิดประตู อย่างรีบเร่ง
เมื่อเขาเห็นแก้มแดงแดงขอถังซิน แววตาและมุมปากก็หยิบมันขึ้นมาราวกับว่ามีความสุขมาก เขาจึงยิ้มขึ้นพร้อมถามเธอ และ ไม่ไหวที่จะส่งต่อให้เธอ “ไปเจออะไรมาหรอทำไมถึงมีความสุขขนาดนี้?”
“ฉันเจอห้องทดลองของเย่จิ่งเหยียนแล้ว!”
หลินเฉิงจี๋อึ้งไปชั่วขณะ
ขณะที่ถังซินกำลังถอดเสื้อโค้ทและผ้าพันคอออกนั้นไม่ได้ระวังถึงอารมณ์ของเขา เธอหันหลังให้กับเขาพร้อมพูดต่อว่า “ ตอนเช้าคุณเย่นโทรมาหาฉันบอกว่าห้องทดลองของเขาอยู่ที่ไหน ฉันไปมาแล้วหนึ่งรอบ คุณลองเดาดูสิว่าเกิดอะไรขึ้น การทดสอบlxora ไปถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้วนะพวกเราต้องรอแค่อีกแค่หนึ่งเดือนเท่านั้นเอง”
ขณะที่เธอยิ่งพูดเธอก็ยิ่งมีความสุขความสุขนั้นไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่สามารถทำให้ ความสุขนั้นจางหายไปได้ เธอหันกลับไปพร้อมทั้งกุมมือคู่นั้นของเขาแน่น “หลังจากนี้หนึ่งเดือน สุขภาพของคุณก็จะดีขึ้น คุณจะมีชีวิตใหม่”
หลังจากที่หลินเฉิงจี๋เรียกสติกลับมาได้แล้วนั้น ใบหน้าของเขากลับไม่แสดงอารมณ์ใดๆ “จริงหรอ?”
ตอนที่ถังซินพูดสิ่งเหล่านั้นออกมาในใจของเขา กลับรู้สึกหวาดกลัวขึ้น เค้าไม่คิดว่าเย่นจิ่งเหนียนจะโทรมา และเธอไม่สามารถที่จะหาห้องทดลองของเย่นจิ่งเหนียนเจอตลอดไป
เพราะเขารู้ว่าถ้าเขาหายดีแล้วเธอจะต้องไป แต่ไม่ว่าจะยังไงเขาก็ไม่อยากให้เธอจากไป
“คุณไม่ดีใจหรอ?” ถังซินเห็นสีหน้าของเขาไม่ดีจึงเอ่ยขึ้น “ขอโทษนะ การที่คุณเย่นโทรมาหาฉันฉันไม่ได้ต้องการที่จะปิดบังคุณ ฉันเพียงแค่อยากจะไปดูสถานการณ์ให้แน่ใจก่อนแล้วค่อยกลับมาบอกให้คุณรู้สึกประหลาดใจ”
หลินเฉิงจี๋ส่ายหน้า เขายิ้มขึ้นอย่างอบอุ่น “เป็นเพราะฉันเธอถึงต้องไปจัดการเรื่องต่างๆข้างนอกมากมายฉันเป็นห่วงเธอในที่สุดเธอก็เจอห้องทดลองของเขาแล้ว ฉันก็ต้องดีใจสิ”
ขณะที่พูด มือของเขาก็ยกขึ้นไปพร้อมกับลูบไปยังผมสีดำและแก้มของเธอไปพลาง
ร่างของถังซินแข็งไปทั้งตัว หลังจากคิดถึงเรื่องราวต่างๆของเขาจึงไม่ได้ถอยหนีออกไป มิหนำซ้ำยังกุมมือของเขาไว้แน่น “ หนึ่งเดือนผ่านไปเร็วมาก ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนคุณเองค่ะ”
ตาสีฟ้าของหลินเฉิงจี๋จ้องมองไปยังเธออย่างขี้ขลาด ก่อนที่จะเอ่ยถามขึ้นอย่างใจไม่ดี “ตลอดไปมั้ย? ถ้าฉันหายดีแล้วเธอจะทิ้งฉันไปรึป่าว?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน
สนุกมากๆๆๆ...