รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน นิยาย บท 375

บทที่ 375 ไม่ ไม่ได้นอนใช่ไหม

คนรับใช้บอกว่าห้องนอนใหม่ของถังซินได้เตรียมเรียบร้อยแล้ว

แต่หลินเฉิงจี๋กลับบอกไม่ต้อง ลงมือตรวจสอบของทุกชิ้นของถังซินด้วยตัวเอง หลังจากนั้นก็พาเธอไปไว้ที่ห้องของตัวเอง

“ไม่ต้อง” ถังซินเอ่ยห้าม ใบหน้าดูผิดแปลกไป “ห้องใหม่ห่างจากห้องของนายไม่มาก นายจะปกป้องเช่นเดิมก็ได้ แต่อย่ากังวล”

แต่หลินเฉิงจี๋ไม่สนใจที่เธอห้าม และลากเธอไปยังห้องของตัวเอง

เมื่อปิดประตูแล้ว เขาจึงได้พูดขึ้นมาว่า “ยินยิน ตอนนี้เธอไม่ได้ตัวคนเดียวแล้ว ยังมีลูกนะ สามชีวิต ผมบอกว่าจะดูแลพวกคุณให้ดี ก็ต้องทำให้ได้”

“เธอไม่ต้องกังวล ห้องนอนผมใหญ่มาก ห้องเสื้อนั้นสามารถทำเตียงนอนแบบง่ายๆได้ ต่อจากนี้ผมจะกลับให้ดึกขึ้น จะไม่รบกวนเธอกับลูกๆ”

เขากล่าวเช่นนั้น ก็หยิบเตียงออกมาจากห้องเสื้อ และหยิบฟูกกับหมอนออกมาจากตู้เสื้อผ้า

เมื่อเห็นชายหนุ่มขยันขันแข็งถึงเพียงนี้ หมอกควันในใจของถังซินก็จางไป เพราะการดูแลที่อบอุ่นของเขา

หลังจากที่อาบน้ำเสร็จแล้ว ถังซินก็ยังไม่ได้ล้มตัวนอน ยังคงศึกษารายชื่อและข้อมูลของนักการเมืองต่อไป

ในตอนที่นิ้วลากมาถึงชื่อของเย่นจิ่งเหนียน แววตาพลันสั่นไหว

เมื่อเธอเห็นว่าหลินเฉิงจี๋ไปอาบน้ำ ก็ตรวจหาเบอร์โทรศัพท์ของเย่นจิ่งเหนียน และรีบโทรหาทันที

รอสาย

เพียงไม่กี่นาที ถังซินก็ได้ยินเสียงตอบรับจากทางปลายสาย

เธอกล่าว “จิ่งเหนียน ฉันเอง ถังซิน”

“คุณถัง” น้ำเสียงของเย่นจิ่งเหนียนละมุน “ไม่ได้เจอกันนานนะครับ ที่โทรหาผมนี้มีเรื่องอะไรหรือ”

“นายได้รับการ์ดเชิญจากThe king’ s party หรือไม่”

เย่นจิ่งเหนียนหัวเราะ “ได้รับแล้ว แต่ที่คุณถังถามเช่นนี้ คุณก็ไปหรือ”

ถังซินขบริมฝีปากแน่น ก่อนจะเล่าเรื่องราวทั้งหมด “พ่อของหลินเฉิงจี๋ให้ใบรายชื่อกับเขามา เพียงแค่คนบนรายชื่อนั้นได้เซ็นจนหมด เขาก็จะได้คุณสมบัติสิทธิ์การสืบทอดอเล็กซ์เลียร์อีกครั้ง”

“ถ้าให้ผมเดา รายชื่อผมก็อยู่บนนั้นด้วย”

“อือ”

เย่นจิ่งเหนียนกล่าวเสียงเรียบ “คุณถัง ผมรู้ว่าคุณฉลาด ที่คุณตามหลินเฉิงจี๋กลับประเทศY ทั้งยังช่วยเหลือเขาถึงขนาดนี้ นั่นก็เพื่อแก้แค้นให้กับซือซือ แต่คุณเริ่มมันผิดวิธี หากคุณอธิบายให้พี่รองของผมเข้าใจตั้งแต่เริ่ม ใส่ใจเขาอีกสักครั้ง เรื่องทั้งหมดคนไม่กลายเป็นแบบนี้”

“ขอโทษ” ถังซินทำเรื่องที่โง่ไปมากมาย ทำได้เพียงพูดคำๆนี้เท่านั้น

เธอลูบท้อง และเอ่ยถามเขาเสียงเบา “เขา... เป็นอย่างไรบ้าง”

“พวกคุณเลิกกันแล้ว พี่รองผมจะดีจะร้าย ก็ไม่เกี่ยวกับคุณถังหรอกกระมัง” เย่นจิ่งเหนียนกล่าว “ผมได้รับการ์ดเชิญ แต่งานในมือก็ล้นหลามแล้ว เกรงว่าเมื่อถึงเวลานั้นคงไปไม่ได้”

ตอนที่ถังซินโทรมา ก็คาดเดาคำตอบของเขาได้บ้างแล้ว แต่อย่างไรก็อดผิดหวังไม่ได้อยู่ดี

ขาดเพียงรายชื่อเดียว หลินเฉิงจี๋ก็หมดสิทธิ์ในการได้รับสิทธิ์ผู้สืบทอดทันที

“จิ่งเหนียน ขอโทษเป็นอย่างมากที่ทำลายห้องปฏิบัติการของคุณ” ถังซินกล่าว “คุณต้องการเท่าไหร่ ฉันจะชดใช้ให้คุณเอง”

“คุณไม่ต้องขอโทษ คนที่ต้องรับผิดชอบคือจี้เจียจื้อ” เหมือนว่าเย่นจิ่งเหนียนต้องไปที่ไหนแล้ว “คุณถังยังมีธุระอีกไหม หากไม่มีผมคงต้องวางก่อนแล้ว”

ถังซินลังเลอยู่ชั่วครู่ แล้วกล่าว “หลินเฉิงจี๋ต้องการIxora แต่ว่ามัน... หมดแล้ว จิ่งเหนียน ฉันรู้ว่าคุณยอดเยี่ยมมาก ฉันขอร้อง ใช้หลินเฉิงจี๋เป็นงานทดลองก็ได้ ช่วยเขาด้วย ไม่ว่าการวิจัยของคุณครั้งนี้จะใช้เท่าไหร่ ฉันยินดีจ่ายให้คุณไม่อั้น”

น้ำเสียงของเย่นจิ่งเหนียนฟังดูเฉยชา “ดูเหมือนคุณถังจะมีความรักที่ลึกซึ้งกับแฟนเก่าน่าดูนะครับ”

“...ฉันติดหนี้เขา”

“ต้องขอโทษด้วย ที่ผมคงช่วยอะไรไม่ได้ คุณถังไปหาคนอื่นเถอะครับ” เย่นจิ่งเหนียนพูดจบก็วางสายในทันที

ถังซินมองโทรศัพท์ด้วยสายตามืดมน

หลินเฉิงจี๋ที่อาบน้ำเสร็จ เมื่อเห็นถังซินนั่งอยู่ที่ข้างหน้าต่าง ก็เข้าไปถาม “ยินยิน เป็นอะไร”

“ไม่ ไม่ได้เป็นอะไร” ถังซินเก็บโทรศัพท์ลง และหันกลับมาหาเขา ด้วยท่าทางปกติ “ก่อนหน้านี้ได้ยินพวกนายพูดถึงกาวเหม่ยซี เธอยังทำงานที่บริษัทของจี้เจียจื้อหรือ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น แววตาของหลินเฉิงจี๋ก็ทอประกายไม่แยแส “ครั้งนั้นที่คุณไปตามหามู่เฉินหย่วนที่คลับ ก็ถูกวางแผนโดยจี้เจียจื้อ วิดีโอนั้น... ผมเห็นแล้ว ดังนั้นผมจึงต้องใช้วิธีฟันต่อฟัน ใช้วิธีเดียวกันนี้แก้แค้นกาวเหม่ยซี หลังจากนั้นเพราะร่างกายของผมไม่ดี ถูกจงเซิงพาออกไป หลังจากนั้นก็ไม่ได้เจอกันอีก”

“อ๋า” ถังซินนิ่งไปอึดใจ นึกไปถึงเรื่องครานั้น และหันกลับมามองหลินเฉิงจี๋ ใบหน้าพลันแดงพลันเขินอาย นึกอยากจะลงแส้หวดจี้เจียจื้อมันสักร้อยครั้ง

เธอขบฟันแน่น “ผู้ชายคนนั้นเปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์แบบทีเดียว”

“เขาจงใจ อยากจะใช้วิดีโอนั้นมาทำลายผม” หลินเฉิงจี๋กล่าว ครั้งนั้นมันกระตุ้นเขาได้อย่างแท้จริง จนทำให้ไวรัสในร่างกระจายไปอย่างรวดเร็ว จนทานยาก็ไม่ได้ผล

“ยินยิน เธออย่าได้แสดงท่าทางเช่นนั้นออกมาอีก” หลินเฉิงจี๋เข้าไปใกล้เธอ “ผมไม่ใช่โบราณ ผมไม่สนใจว่าเธอจะใกล้ชิดกับผู้ชายคนไหนมาก่อน ผมรักเธอ ผมรับทั้งหมดของเธอได้ สิ่งที่ผมจะสนใจ คือเธอรักผมหรือไม่เท่านั้น”

เขาเข้ามาใกล้เกินไป ถังซินสั่นไปทั้งร่างอย่างห้ามไม่อยู่ และก้าวถอยหลังไปเล็กน้อย

เธอกล่าวอย่างตะกุกตะกัก “ไม่ ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว ฉันถามนายอีกเรื่องหนึ่งได้ไหม”

“สิบคำถามก็ได้”

“คำถามนี้สำคัญมาก” ถังซินที่รู้ความจริงอยู่แก่ใจ สายตาทอประกายสับสน “หลายปีมานี้ ที่นายให้กาวเหม่ยซีมาอยู่ข้างกาย และแสดงละครไปกับเธอ นาย... ได้นอนกับเธอไหม”

หลินเฉิงจี๋ชะงักนิ่ง สายตาทอประกายขบขัน “ทำไมถึงถามเรื่องนี้ เธอใส่ใจเรื่องนี้ด้วยหรือ”

ถังซินเบิกตาโพลง “ไม่ ไม่ได้นอนใช่ไหม”

“เปล่า ผมไม่ได้สนใจเธอเลย” ร่างใหญ่ของหลินเฉิงจี๋เอนเข้าไปหาเธอ ลมหายใจระรวยรินอยู่ที่ข้างแก้มของเธอ “ชีวิตของผม มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่อยู่ในความคิด”

“เช่นนั้นก็ดีแล้ว”

ถังซินถอนหายใจ นึกว่าจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นเสียแล้ว

พอเธอได้สติก็พบว่าหลินเฉิงจี๋ขยับเข้ามาใกล้อีกแล้ว จึงรีบนำมือขึ้นปิดปากเขาทันที “หลินเฉิงจี๋ ฉันมีเรื่องสำคัญจะบอกกับนาย พวกเราต้องนั่งคุยกันดีๆ”

หลินเฉิงจี๋ “.....”

เมื่อนั่งลงที่โซฟาดีๆแล้ว ถังซินก็ไถมือถืออยู่สองครั้ง และเงยหน้าขึ้นมาหาหลินเฉิงจี๋ “แต่เดิมฉันไม่คิดจะบอกเรื่องนี้กับนาย แต่จี้เจียจื้อเองก็รู้ หากอยู่ในช่วงเวลาสำคัญ ฉันกลัวว่าเขาจะนำเรื่องนี้มาทำลายนาย ดังนั้นฉันจึงอยากบอกกับนายต่อหน้า เพื่อให้นายจะไม่ถูกเขาควบคุม”

เมื่อเห็นสีหน้าที่เคร่งเครียดและจริงจังของเธอ หลินเฉิงจี๋เองก็หุบยิ้ม “เกี่ยวกับผมหรือ”

ถังซินพยักหน้า “เรื่องภูมิหลังของนาย”

“ผมรู้ แม่ของผมตอนนี้แต่งงานกับโมมอยคางผิง ลูกสาวของเธอก็คือโมโมยเหม่ยซี เป็นน้องสาวของผม” น้ำเสียงของหลินเฉิงจี๋ราบเรียบ “ผมมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับเธอ แต่เธอคนของจี้เจียจื้อ ภักดีต่อจี้เจียจื้อ หากเธอกล้ามาขวางผม ผมก็ไม่เกรงใจเช่นกัน”

“ไม่ใช่เรื่องนี้”

หลินเฉิงจี๋คิ้วขมวด “หากไม่ใช่เรื่องนี้ ยังมีเรื่องอะไรที่ผมไม่รู้อีกหรือ”

เขามองถังซินด้วยแววตาสงสัยอย่างทนไม่ได้

เพื่อไม่ให้จี้เจียจื้อใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้มาควบคุมอารมณ์ของหลินเฉิงจี๋ เธอหลับตาลง และส่งโทรศัพท์ให้กับเขา “นาย... มีพี่ชายอีกคนหนึ่ง”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน