รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน นิยาย บท 385

บทที่ 385 สร้างความร้าวฉาน

หลังจากที่หลี่ซูเจ๋พบว่าอาหารนั้นมีปัญหา ไม่ว่าจะเคาะประตูกี่ครั้งเพื่อให้คนรับใช้เปลี่ยนอาหาร ก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับอยู่ร่ำไป

หลังจากนั้นเธอจึงช่างมัน เลือกที่จะไปทานอาหารเหล่านั้น ใช้น้ำร้อนจากฝักบัวอาบน้ำต้มยาทาน และห่มผ้าหนาๆ เพื่อให้เหงื่อออก

เธอวิงเวียนศีรษะอยู่ตลอด เพราะไม่ได้ทานมานานจนตัวเองเริ่มผ่ายผอมจนแทบไม่เป็นรูปเป็นร่าง นอนติดเตียงทั้งวัน และพยายามใช้แรงให้น้อยที่สุด

ผ่านไปหลายวันในที่สุดไข้ของเธอก็ลดลง อาการของเธอดีขึ้นมาอย่างยากลำบาก

เมื่อหายไข้แล้ว หลี่ซูเจ๋ก็ดีขึ้นมาก เธอลุกนั่งรอ

จนกระทั่งคนรับใช้มาส่งข้าว เธอก็จับมือนั้นไว้ และส่งกระดาษที่เขียนไว้ให้เธออ่าน ทำไมถึงเอาอาหารหมดอายุมาให้ฉัน กะจะฆ่ากันให้ตายหรือ

คนรับใช้ตื่นกลัว โบกมือเป็นพัลวัน “คุณลู่ใช้ให้ฉันนำมาให้ค่ะ เรื่องที่คุณเป็นไข้ ฉันก็โทรไปบอกคุณลู่แล้วเช่นกัน ท่านบอกคุณจะชอบไม่ชอบ แต่ถ้าไม่ทานก็จะจงหิวไป แต่อย่าได้คิดจะออกไปจากห้องนอน”

คำพูดเหล่านี้ เป็นเจียน่าที่สอนคนรับใช้

หลี่ซูเจ๋นึกคิดไปถึงก่อนหน้านี้ที่ลู่เหวินซูกลัวว่าเธอจะหนีไป จึงได้ให้คนลดอาหารเธอ ทั้งยังบอกว่าหากเธอยังคิดหนีจะหักขาของเธอทั้งสองข้างทิ้ง การที่เอาอาหารหมดอายุเหล่านี้มาทำโทษเธอ ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีทางเป็นไปได้

สายตาของเธอมืดหม่น ใช้ปากกาเขียนลงบนกระดาษอีกครั้ง ขอฉันยืมโทรศัพท์สักสามนาทีได้หรือไม่

คนรับใช้ปฏิเสธในทันที แต่หลี่ซูเจ๋ก็ถอดแหวนยัดใส่มือของเธอไป ทั้งยังเขียนบอกว่า ฉันเพียงห่วงเพื่อนคนหนึ่งเท่านั้น จึงอยากจะส่งข้อความไปถามไถ่เธอ สามนาทีก็พอ พอส่งเสร็จฉันจะลบทิ้งทันที เธอไม่พูด ก็ไม่มีใครรู้แล้วว่าเธอให้ฉันยืมโทรศัพท์ และแหวนนี้ก็จะเป็นของเธอ

แหวนที่ใหญ่ขนาดนี้ คงไม่ต่ำกว่าสามกะรัต

คนรับใช้ที่คิดได้ดังนั้น ก็เอาโทรศัพท์ยัดใส่มือของเธอทันที “สามนาทีเท่านั้น ทำเวลาด้วยนะคะคุณหลี่”

หลี่ซูเจ๋ขยับปากบอกกับเธอว่าขอบคุณ

หลังจากที่ได้โทรศัพท์มาแล้ว ก็รับส่งข้อความหาถังซินทันที ซินซิน ฉันหลี่ซูเจ๋นะ ก่อนหน้านี้ฉันมีธุระ จึงไม่ได้รับสายเธอ ขอโทษด้วยจริงๆ ครั้งนั้นที่ฉันวิดีโอคอลหาเธอ ก็เพื่อจะบอกกับเธอว่าจู่ซือซือน่าจะไปประเทศFเพื่อหาเธอ

ไม่กี่สิบวิถังซินก็โทรมา

หลี่ซูเจ๋ไม่พูดไม่ได้ จึงตัดสาย และส่งข้อความหาเธอ ทางนี้ยุ่งมากเลย ไม่สะดวกรับสาย

ถังซินตอบ ทำไมกัน ตระกูลลู่ยุ่งมากหรือ

หลี่ซูเจ๋ตอบ อือ เหวินซูค่อนข้างหงุดหงิด ฉันเลยต้องอยู่ข้างเขาตลอด ทำไมเธอถึงไปประเทศYกับหลินเฉิงจี๋กัน แล้วจู่ซือซือได้ไปตามหาเธอไหม

ถังซินตอบ ฉันมีเรื่องให้ต้องจัดการ จึงต้องอยู่ที่ประเทศYสักระยะ หากธุระเสร็จแล้ว จะกลับประเทศไปบอกเธอนะ ลูกเป็นอย่างไรบ้าง เหวินซูใส่ใจเธอกับพวกเด็กๆ หรือไม่

หลี่ซูเจ๋กระบอกตาเริ่มร้อนผ่าวเมื่อได้อ่านเช่นนั้น

ลูกไม่อยู่แล้ว และเธอกับลู่เหวินซูก็พังกันมานานแล้ว ที่เป็นอยู่ตอนนี้มันยุ่งเหยิงเหลือเกิน

หลี่ซูเจ๋รู้ว่าเธอมีเรื่องกวนใจมากขนาดไหน ไม่อยากจะเอาเรื่องของตัวเองไปให้เธอกังวลใจเพิ่ม จึงตอบกลับไปว่า หากเขาดูแลฉันกับลูกไม่ดี ฉันก็ไม่เอาเขาแล้ว

ถังซิน อย่าน่า หากเขามารังควานพวกฉัน ใครจะไปรับมือได้กัน ฉันมีเรื่องจะบอกกันเธอล่ะ ฉันท้องแล้ว

หลี่ซูเจ๋ชะงักนิ่ง ก่อนจะยิ้มออกมา และจะส่งข้อความยืนดีไปให้ แต่โทรศัพท์นั้นก็ถูกคนรับใช้แย่งไปเสียก่อน “ครบสามนาทีแล้วค่ะคุณหลี่ ฉันต้องเปลี่ยนกะกับพวกเธอแล้ว”

คนรับใช้กล่าวจบ ก็ปิดประตูอย่างไม่แยแสทันที

หลี่ซูเจ๋ไม่ได้รบเร้าคนรับใช้อีก ตอนนี้แค่ได้รู้ว่าถังซินไม่เป็นอะไร เธอก็สบายใจแล้ว

คนรับใช้นำเรื่องของหลี่ซูเจ๋ไปบอกกับเจียน่า แต่ยกเว้นเรื่องที่เธอให้หลี่ซูเจ๋ยืมโทรศัพท์ไป

เจียน่ากลัวว่าเธอจะเป็นอะไรแล้ว ลู่เหวินซูจะมาลงโทษที่เธอ จึงให้คนรับใช้จัดสำรับอาหารให้หลี่ซูเจ๋ปกติ แต่มีแค่ข้าวกับอาหารจืดชืด ไม่ยอมให้เธอได้ทานอะไรดีๆ

วันนี้เจียน่านัดช่างทำเล็บมาที่บ้านเพื่อทำเล็บ ในตอนที่ปัดไทม์ไลน์อย่างเบื่อหน่าย ก็พบว่าลู่เหวินซูนั้นได้กลับมาจากต่างประเทศแล้ว

เจียน่าส่งข้อความไปหาลู่เหวินซูอย่างระมัดระวัง

ไม่คาดคิดว่าลู่เหวินซูจะตอบกลับเธอ ทั้งยังบอกว่าจะมาที่นี่ในตอนเย็นอีกด้วย

เจียน่าที่เห็นว่าลู่เหวินซูให้ความสนใจกับตัวเองอีกครั้ง ก็เรียกให้คนรับใช้เตรียมอาหารเย็นทันที “เหวินซูจะมาเย็นนี้ พวกเธอทำอาหารดีๆ หน่อย เร่งมือเข้า”

และเธอก็ได้เรียกคนรับใช้ที่เฝ้าหน้าห้องของหลี่ซูเจ๋มา “เธอเป็นอย่างไรบ้าง พูดได้บ้างหรือยัง”

คนรับใช้ส่ายหน้า “คุณหลี่อาการดูดีขึ้นแล้วค่ะ แต่เสียงยังไม่กลับมา เหมือนว่าไม่ได้พูดมานาน จึงใช้วิธีเขียนใส่สมุดให้ฉันอ่านเอา”

“ก็ยังดี ดูเธอเอาไว้ อย่าให้เธอออกมา” เจียน่าหยิบเงินในกระเป๋าให้กับเธอ “เพียงแค่เธอทำตามที่ฉันบอก ผลประโยชน์จะไม่ลดหายไปแน่นอน”

“ขอบคุณค่ะคุณเจียน่า” คนรับใช้ยิ้มแย้ม และรับเงินไปทันที

คนรับใช้นำเงินใส่กระเป๋าเสื้อ แต่ไม่ทันระวังจนทำแหวนหล่นลงมา

แหวนนั้นกลิ้งไปทางเจียน่า

ยังไม่ทันที่คนรับใช้จะหันไปมอง เจียน่าก็เห็นมันเสียก่อน

“เพชรเม็ดใหญ่อะไรขนาดนี้” เจียน่าตาเป็นประกายทันทีที่เห็นแหวนวงนั้น

แหวนเพชรเม็ดๆ ที่อยู่บนนิ้วของเธอ เมื่อเอามาเทียบกันแล้วก็ดูหมองไปทันที

“น่า คุณเจียน่าคะ นั่นของฉันค่ะ”

เจียน่าหันไปมองคนรับใช้ และเอ็ดตะโร “เธอต้องขโมยที่ไหนมาแน่ ถ้าเธอมีแหวนเพชรวงใหญ่ขนาดนี้ จะมาเป็นคนรับใช้อยู่ที่นี่ทำไม ให้ฉันเปลี่ยนคนดีไหม”

เหงื่อผุดขึ้นมาเต็มหน้าผากของคนรับใช้คนนั้นทันที ก่อนจะกล่าวอย่างกระอึกกระอัก “ฉัน ฉันเจอตามข้างถนนค่ะ”

“แหวนวงนี้อย่างต่ำก็หนึ่งล้าน หากคนอื่นทำตกไว้จริงๆ ก็ต้องแจ้งความสิ” เจียน่าจับสีหน้าของคนรับใช้ และเพิ่มระดับเสียงให้สูงขึ้น “หากเธอไม่บอกว่าได้มาจากที่ไหน ฉันแจ้งความแน่”

“อย่านะคะๆ” คนรับใช้กลัวว่าเจียน่าจะแจ้งความจริงๆ จึงพูดออกไปอย่างเสียไม่ได้ “คุณหลี่ขอใช้โทรศัพท์ของฉัน และให้แหวนวงนี้เป็นการแลกเปลี่ยนค่ะ”

เจียน่าถลึงตัวลุกขึ้นมาจากโซฟา และกล่าวอย่างร้อนรน “แล้วเธอก็ให้รึ เธอติดต่อไปหาลู่เหวินซูหรือไม่”

“เหมือนว่าจะไม่ใช่ค่ะ”

เจียน่าใจเย็นลงในทันที และคิดในใจว่าก็จริง หากหลี่ซูเจ๋ติดต่อลู่เหวินซูแล้วบอกอะไรแก่เขา ป่านนี้ลู่เหวินซูคงกลับมาลงโทษเธอตั้งนานแล้ว

ยาที่เธอซื้อมา ก็เพื่อให้หลี่ซูเจ๋พูดไม่ได้ไปไม่กี่เดือนเท่านั้น รั้งลู่เหวินซูไม่ให้ขึ้นไปชั้นสามครั้งสองครั้ง แต่ลู่เหวินซูก็อารมณ์ร้าย ไม่ใช่ทุกครั้งที่จะรั้งไว้ได้ เธอจึงไม่สามารถลงมือกับหลี่ซูเจ๋ได้

เช่นนั้นสู้ทำให้ลู่เหวินซูเกลียดหลี่ซูเจ๋ จนไล่เธอออกไปเสียยังดีกว่า

เจียน่ามองแหวนเพชรที่ส่องประกายอยู่ในมือ ทันใดนั้นก็คิดอะไรที่ยอดเยี่ยมขึ้นมาได้

จนกระทั่งลู่เหวินซูกลับมาตอนเย็น เมื่อเห็นเจียน่ากำลังติเตียนคนรับใช้ คิ้วของเขาก็ขมวดทันที “คุณเป็นบ้าอะไร คนรับใช้ที่ผมจ้างมาไม่ได้มีไว้เพื่อให้คุณด่าทุกวันหรอกนะ”

“คุณลู่ กลับมาแล้วหรือคะ” เจียน่าวิ่งมาหาเขา และกล่าวอย่างนึกชัง “ฉันแค่จะสั่งสอนเธอเท่านั้น เธอไม่ฟังคำสั่งของคุณ และเอาโทรศัพท์ให้คุณหลี่ยืมค่ะ”

ลู่เหวินซูใบหน้าแข็งกร้าวทันพลัน

เจียน่านำแหวนที่ได้มาส่งให้กับเขา “คุณหลี่ใช้โทรศัพท์ของคนรับใช้ส่งข้อความไปหาเพื่อนเป็นเวลาสามนาทีค่ะ โดยมีแหวนวงนี้เป็นข้อแลกเปลี่ยน เธอไม่ทันระวังฉันก็เลยจับได้ค่ะ”

“คุณลู่คะ ฉันคิดว่าคุณหลี่ต้องใช้โทรศัพท์เพื่อทำเรื่องสำคัญเป็นแน่ ค่อยขอยืมตอนคุณกลับมาก็ได้นี่คะ การที่เธอใช้แหวนเพชรเม็ดใหญ่ขนาดนี้เพื่อขอยืมโทรศัพท์จากคนรับใช้สามนาที นี่จะเกินไปแล้วนะคะ”

ลู่เหวินซูรับแหวนวงนั้นมาจากเธอ ดวงตาทอประกายดุดัน

นี่คือแหวนหมั้นที่เขาให้หลี่ซูเจ๋

เธอเก่งมาก เอาของที่เขาให้ไปให้ใครก็ได้เพื่อขอยืมโทรศัพท์หนึ่งครั้ง ไม่แยแสกันแม้แต่น้อย เหมือนกันที่เธอไม่สนใจลูกทั้งสองคน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน