บทที่ 388 นมที่ผิดปกติ
ชิงเหอกล่าวอย่างตะกุกตะกัก “หมอ หมอหรือ”
เย่นจิ่งเหนียนยิ้มบางๆ “ช่วยเปิดประตูด้วย ผมจะเข้าไปตรวจอาการ”
“คงไม่ดีเท่าไหร่ค่ะ” ชิงเหอกลัวว่าเขาจะตรวจพบว่านมที่เอาไปให้คุณหลี่นั้นมียาคุมอยู่ จึงขวางอย่างสุดกำลัง “แผลของคุณหลี่คงไม่สะดวกใจเท่าไหร่ที่จะให้หมอผู้ชายเป็นคนตรวจ คุณส่งยามาให้ฉันก็พอค่ะ”
“ผมไม่ได้ดู แค่ถามเธอเอาก็พอ” เย่นจิ่งเหนียนไม่ได้เกรงใจอีก “หลบไป”
ชิงเหอกลัวว่าหากพูดมากไปความจะแตกเอา อย่างไรเขาก็เป็นเพื่อนของ
เธอทำได้เพียงเปิดประตูให้อย่างหมดหนทาง เชิญเย่นจิ่งเหนียนเข้าห้อง เพราะอยากดูว่าหลี่ซูเจ๋ได้ทานหมดหรือไม่ ทำทีจะเข้าไปเอาถาด แต่พบว่าหลี่ซูเจ๋นั้นไม่ได้ดื่มนมในแก้วแม้แต่นิด
“ออกไปเถอะ” เย่นจิ่งเหนียนกล่าวกับชิงเหอ “เวลาทำงานผมไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวาย”
“ฉัน ฉันมาเก็บถาดอาหารค่ะ” ชิงเหอยิ่งเห็นแก้วนมนั้นใจยิ่งร้อนรน “คุณหลี่ อาหารเช้าวันนี้ไม่ถูกปากหรือคะ เช่นนั้นฉันนำไปเปลี่ยนให้นะคะ”
เย่นจิ่งเหนียนขวางเท้าชิงเหอไว้ ทั้งอมยิ้มเล็กน้อย “ไว้ที่นี่ เดี๋ยวผมเจาะเลือดของเธอเสร็จ เธอต้องทานของหวานเติมเข้าไปทันที”
ชิงเหออยากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่เย่นจิ่งเหนียนก็พูดเสริมขึ้นมาอีกประโยค “ช่วยออกไปเดี๋ยวนี้ด้วย”
ชิงเหอได้แต่ถอยเท้าออกไปด้วยท่าทีกระวนกระวาย
หลังจากที่สงบลงได้ เย่นจิ่งเหนียนถึงได้เห็นว่าหลี่ซูเจ๋ผมลงไปขนาดไหน ใบหน้าซีดเผือด แตกต่างจากในอดีตไปมากโข
ทั่วร่างนั้นต่างมีรอยฟกช้ำประปราย
“เหวินซูมัน...” เย่นจิ่งเหนียนอยากจะพูดอะไร แต่เมื่อพบว่าตัวเองเข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้มากไม่ได้ สุดท้ายก็ส่ายหน้า และหันไปเปิดกระเป๋ายาแทน
เขาถามหลี่ซูเจ๋ “ผมขอเจาะเลือดคุณได้ไหมครับ”
หลี่ซูเจ๋เลียริมฝีปาก ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ยื่นมือออกไปเท่านั้น
เย่นจิ่งเหนียนใช้เข็มเจาะเลือดของเธอ และหยดลงบนเครื่องวิเคราะห์
ไม่ถึงสิบวินาที เครื่องวิเคราะห์ก็รายงานสภาพร่างกายของหลี่ซูเจ๋ออกมา
เย่นจิ่งเหนียนอ่านรายงานนั้นจบ ก็หันมาบอกกับเธอ “ร่างกายแข็งแรงดี แต่โลหิตจางกับขาดสารอาหารนะ ทานข้าวให้ครบสามมื้อ และทานเนื้อเยอะๆ”
เขาพูดไปเรื่อยๆ แต่เมื่อพบว่าหลี่ซูเจ๋ไม่ตอบสนองอะไร ก็อดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้ “คงไม่ใช่เพราะเรื่องของเหวินซู คุณเลยไม่อยากคุยกับผมหรอกนะ”
หลี่ซูเจ๋ส่ายหน้า
“เช่นนั้นทำไมผมพูดกับคุณ แล้วคุณไม่มีท่าทีตอบกลับอะไรมาเลย” เย่นจิ่งเหนียนถามอย่างสงสัย
หลี่ซูเจ๋กลับไปที่หัวเตียงเพื่อหยิบสมุดกับปากกา หลังจากนั้นก็ส่งสมุดให้เขาอ่าน คอของฉันไม่ดี เลยพูดไม่ได้
“ต่อมทอนซิลอักเสบหรือ”
เมื่อเห็นหลี่ซูเจ๋ยังคงส่ายหน้า เย่นจิ่งเหนียนกดที่คอของเธอเบาๆ แล้วถาม “เจ็บหรือไม่ครับ พูดไม่ได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เจ็บตั้งแต่เมื่อไหร่”
หลี่ซูเจ๋เขียนลงบนสมุด ก่อนที่จะเป็นหวัด หลังจากนั้นก็พูดไม่ได้อีก
“หวัดก็คือหวัด ไม่ได้เกี่ยวกับเส้นเสียงของคุณเลย” เย่นจิ่งเหนียนเหลือบมองไปทางนม และนึกถึงท่าทีลุกลี้ลุกลนของชิงเหอก่อนหน้านี้ ก็เข้าใจได้ในทันที
เขาหยิบขวดยาขึ้นมาจากในกระเป๋ายา
เมื่อจัดยาเรียบร้อยแล้ว ก็ส่งให้กับหลี่ซูเจ๋ “ทุกครั้งตอนตื่นนอน ใส่ไปน้ำอุ่นเล็กน้อยแล้วดื่มให้หมด หากผ่านไปหนึ่งสัปดาห์แล้วคุณยังพูดไม่ได้ ให้คนรับใช้โทรตามผม”
หลี่ซูเจ๋ยิ้มอย่างขมขื่น ราวกับไม่อยากรับไว้ แต่ก็ไม่สามารถเลี่ยงได้
และเย่นจิ่งเหนียนก็หยิบยาทาให้เธออีกสองกล่อง เมื่อเห็นว่าเวลาผ่านไปมากแล้ว ก็เก็บกระเป๋ายา ก่อนจะไปยังเทนมใส่ขวดและนำออกไปด้วย
ชิงเหอนั้นรออยู่ที่ข้างนอกตลอด
เมื่อเห็นเย่นจิ่งเหนียนออกมา ก็เข้าไปถามทันที “คุณหลี่ไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ”
“อยากให้เธอเป็นอะไรหรือ” เย่นจิ่งเหนียนถามกลับ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน
สนุกมากๆ เลยค่ะ ขอบคุณมากๆ นะคะ ที่มีนิยายสนุกๆ ได้อ่าน...
สนุกมากๆๆๆ...