บทที่395 เขาไม่มีทางมาได้
ถังซินส่ายหัว“ตอนนี้พวกเรายังไม่แน่ใจว่าคนที่แมกซี่พูดถึงใช่คนของจี้เจียจื้อหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่ แล้วจี้เจียจื้อรู้ว่าคุณยังคุยกับแมกซี่ไม่ได้เขาจะต้องมาก่อกวนฉันแน่ คุณจับตาดูจี้เจียจื้อไว้ เรื่องแมกซี่เดี๋ยวฉันจัดการเอง”
หลินเฉิงจี๋พูดอย่างเจ็บปวด“ผมไม่อยากให้คุณเหนื่อยขนาดนั้น”
“ไม่เป็นไร เหนื่อยมานานแล้ว คืนนี้อีกคืน”ถังซินยิ้มให้ ริมฝีปากแดงๆยกขึ้น รอยยิ้มที่มีเสน่ห์นั้นทำให้หลินเฉิงจี๋หลงใหล
ข้างกายมีผู้หญิงฉลาดคนนี้ เขาจะยังมีอะไรไม่พอใจได้อีก?
สองทุ่ม รถก็ถึงโรงแรมAtlantis
Atlantisเป็นโรงแรมแปดดาวที่ในโลกนี้น้อยนักจะมี ช่างหรูหราอย่างเปรียบไม่ได้ งานเลี้ยงที่มีชื่อเสียง งานประมูลหรือกระทั่งงานวันเกิดของเหล่าราชวงศ์ล้วนแต่จัดที่นี่
เมื่อก่อนตอนที่ถังซินมาทำงานต่างจังหวัดก็เคยมาพักที่นี่ แต่ว่าโรงแรมแปดดาวนี้ก็เคยมาครั้งนึง พอลงจากรถก็โดนความหรูหราของโรงแรมนี้ทำให้ตกใจ
ขึ้นลิฟท์ไปกับหลินเฉิงจี๋ถังซินก็เข้าไปกระซิบเขา“ได้ยินว่าPartyนี้มาตรฐานสูงมาก 90% ของนักการเมืองผู้มีชื่อเสียงต่างก็มาที่นี่ จริงป่ะ?”
หลินเฉิงจี๋ตอบรับไปแล้วพูดกับหล่อนว่า“ทีแรกตอนเริ่มนั้นเป็นสถานบันเทิงPartyที่ราชวงศ์แพลนไว้ คิดไม่ถึงว่านักธุรกิจต่างชาติบางคนอยากมาสร้างชื่อเสียง ทำธุรกิจง่าย นักการเมืองก็อยากสร้างคอนเนคชั่น ราชวงศ์เห็นว่าทำเงินได้และยังดึงดูดเงินลงทุนจากต่างประเทศก็เลยจัดขึ้นปีละครั้ง แต่ละปีก็มีคนมาเยอะมากขึ้น นับวันยิ่งครึกครื้น”
“คนของพระราชานี่มีหัวการค้าจัง!”ถังซินพูด“ถ้าฉันจ่ายหนึ่งล้านมาร่วมParty แม้ว่าฉันจะเจรจาธุรกิจไม่สำเร็จ แต่ได้นามบัตรมาสองสามใบก็ถือว่าทำเงินได้แล้ว”
“รอฉันว่างจะโทรหาพวกเขา ไม่มีนักธุรกิจคนไหนหรอกที่ไม่สนใจทำธุรกิจที่ได้กำไรสูงใช่ไหมล่ะ?ถ้าไม่มีทางทำร่วมกันจริงๆล่ะก็ ก็ยังสามารถใช้พวกเขาสร้างคอนเนคชั่นได้อีก”
“วิเคราะห์ถูกแล้ว”หลินเฉิงจี๋พยักหน้า“ผมต้องเอาธุรกิจส่งให้คุณจัดการแล้วล่ะ”
ถังซินโบกมือปฏิเสธบ่นว่า“อย่าน่ะ!ฉันแค่พูดไปงั้น ทฤษฎีกับความเป็นจริงยังห่างกันเยอะ คุณอย่ามองฉันสูงไป
“ผมไม่ได้มองสูง แต่คุณน่ะฉลาดมาก เรียนรู้อะไรก็ไว”หลินเฉิงจี๋พูดจริง“ถ้ามีสักสองสามบริษัททำให้คุณเติบโตได้ถึงแม้ว่าจะขาดทุน ผมก็คิดว่าคุ้ม”
“อ๊า ถึงแล้ว”ลิฟท์เปิดออกถังซินก็เดินออกไปก่อน“เรื่องนี้ไว้ค่อยคุยละกัน”
เห็นหล่อนตัดบทแบบนี้ สายตาของหลินเฉิงจี๋ก็หม่นลง
คืนนั้นที่รู้เรื่องของตัวเอง เขาก็ใช้เวลาเดือนนึงถึงจะดีขึ้นแต่ว่าก็ยังรับไม่ได้ที่เขากับมู่เฉินหย่วนเป็นพี่น้องแม่เดียวกัน
เขาไม่ยอมรับความสัมพันธ์กับมู่เฉินหย่วนและไม่คาดหวังว่าถังซินจะมีวันกลับไป
ท่าทางของหล่อนแสดงต่อเขาดี แต่ในใจหล่อน เขากับมู่เฉินหย่วนยังมีข้อแตกต่างกัน
หล่อนรับต่อบริษัทมู่ซื่อได้ ทำอะไรแทนมู่เฉินหย่วนได้ แต่พอเขาให้ของดีๆกับหล่อนบ้าง หล่อนกลับไม่ต้องการ
หลินเฉิงจี๋ยังไม่ตามมา ถังซินเลยหันไปมองเขา“ทำไมไม่ออกมาล่ะ?”
“มาแล้ว”หลินเฉิงจี๋ซ่อนอารมณ์เก่ง สายตาอ่อนโยน รีบออกมาจากลิฟท์ตอนที่ลิฟท์จะปิดแล้วเดินไปข้างๆถังซิน
ทั้งสองแสดงตัวตนแล้วเข้าไปในห้องโถง
ในห้องนั้นหรูหราใหญ่โตมากจนเกือบจะมองไม่เห็นหัวคน ข้างในเปิดเพลงแจ๊สดีๆภายในงานแขกระดับสูงต่างสวมชุดดูดีมาก ราวกับว่ามาร่วมงานเลี้ยงฉลองที่เป็นทางการ
ถังซินเดินตามหลินเฉิงจี๋ไปเรื่อยๆ สายตามองไปรอบๆ
มีเหล่านักการเมืองที่ปรากฎหน้าในหนังพิมพ์เป็นครั้งคราวอยู่ด้วยและยังมีนักธุรกิจที่มีทรัพย์สินหลายพันล้านถือแก้วไวน์ยืนยิ้มพูดคุยกันอยู่
ทันใดนั้น คนรูปร่างสูงยาวก็ตกอยู่ในสายตาของหล่อน
เขาสวมชุดสูทสีดำที่เข้ากับตัว ผมดำที่จัดทรงนั้นรับกับใบหน้าที่คมชัด ริมฝีปากสีแดงเข้มยกขึ้นยิ้ม
เขาถือแก้วไวน์ในมือกำลังพูดกับคนตรงข้าม
รูปร่างสูงยาวดูดีโดดเด่นเป็นอย่างมาก เพื่อนที่อยู่ตรงหน้า คนรอบๆข้างต่างโดนความเยือกเย็นของเขากดไว้
ถังซินเบิกตาโต สูดลมหายใจเข้า หัวใจที่เต้นอยู่นั้นเกือบจะหยุดเต้น
“ขอทางหน่อยค่ะ รบกวนขอทางหน่อยค่ะ”หล่อนเดินแหวกฝูงคน จ้องเขม็งไปที่ชายคนนั้น
หล่อนเดินไปไม่กี่ก้าว ผู้ชายที่อยู่ไกลๆที่กำลังคุยกับเพื่อนก็ไม่ได้อยู่ในฝูงคนตรงนั้นแล้ว เหมือนว่าที่หล่อนเพิ่งเห็นเมื่อกี้จะเป็นแค่ภาพลวงตา
ถังซินรีบเข้าไปแต่มือกลับถูกดึงไว้
“ยินยิน เป็นอะไร?”เป็นหลินเฉิงจี๋รีบเข้ามาถามหล่อน
“ฉันเห็นพี่สอง......ไม่สิ มู่เฉินหย่วน”ถังซินรีบเปลี่ยนคำพูด สายตายังมองหาแต่ก็ไม่เจอชายคนนั้นแล้ว
เห็นหล่อนท่าทางรีบๆ มองหามู่เฉินหย่วนอย่างร้อนรน ในใจหลินเฉิงจี๋ก็เจ็บ
หลินเฉิงจี๋พูดอย่างอ่อนโยน“ยินยิน เขามาที่นี่ไม่ได้หรอก คุณลืมแล้วเหรอ?คุณตาฝาดแน่ๆ”
คำพูดของเขาเหมือนสาดน้ำเย็นใส่หล่อนจนความรีบร้อนพวกนั้นดับไป
หล่อนยิ้มฝืนๆ“เนอะ ฉันตาฝาดมองผิดไปแน่ๆ เขาไม่มีทางมาได้”
สองเดือนก่อน ปืนสองนัดที่โรงแรมและสายตาเย็นชาของเขาแสดงให้เห็นว่าเขาผิดหวังหล่อนขนาดไหน แล้วเขาจะมาที่นี่ได้ไง?
หลินเฉิงจี๋จับมือของหล่อนเบาๆ“ไปเถอะ ไปทักทายพ่อผม”
ถังซินพยักหน้า
โบแนร์กำลังคุยกับเพื่อนสองสามคน พอหลินเฉิงจี๋พาถังซินมาก็รีบแนะนำเพื่อนคนนั้นให้หลินเฉิงจี๋
เขาชี้ไปที่ถังซินแล้วพูดอย่างภูมิใจว่า“นี่แฟนของColbert ถังซิน!”
“ผมรู้ แฮโรลด์เคยบอกผม”
“คุณนี่โชคดีจัง ลูกชายเก่ง และยังมีสะใภ้ที่เจ๋งแบบนี้อีก ยินดีด้วยครับ!”
โบแนร์หัวเราะพูดว่า“พวกเขายังเด็ก วันข้างหน้ายังต้องให้พวกคุณดูแล”
“......”
สนนทนาสั้นๆนั้น โบแนร์ก็ดึงดูดคอนเนคชั่นแทนหลินเฉิงจี๋ได้มาก
ถังซินยังคงยิ้ม ยืนถือแก้วเหล้าตรงนั้น
หลังจากเห็นแมกซี่ หล่อนก็ดึงเสื้อของหลินเฉิงจี๋พูดเบาๆว่า“ฉันไปหาแมกซี่ คุณเฝ้าจี้เจียจื้อดีๆ”
หลินเฉิงจี๋พยักหน้า“งั้นคุณระวังด้วย”
สายตาจ้องไปที่หล่อนแล้วสั่งอีกว่า“เอาผ้าคลุมไหล่คลุมดีๆ อย่าเอาลงมา”
“รู้แล้วน่า!”
เห็นแมกซี่เดินไปไกล ถังซินก็รีบหันไปตอบหลินเฉิงจี๋ ท่ามกลางฝูงคนนั้นหล่อนเห็นแมกซี่เข้าไปในห้องส่วนตัวชั้นสูงที่อยู่ข้างๆห้องโถง
หล่อนมองไปที่ป้ายตรงหน้าห้องเขียนว่า“ห้องสันทนาการ”หลังจากสูดลมหายใจเข้าก็ยื่นมือไปผลักประตู
ในห้องสันทนาการนั้นดูอบอุ่น มีโต๊ะพลู คนที่นั่งหน้าโต๊ะหมากรุกกำลังครึกครื้น พื้นขนาดใหญ่พร้อมกับกระเบื้องกระจกแก้วที่กำแพง มองเห็นภายในห้องอย่างชัดเจน
ห้องสันทนาการมีผู้หญิงอยู่ไม่กี่คน รุปร่างสูงผอม หน้าตาสวย แต่ถังซินเข้ามา ผมดำผิวขาว ท่าทางคมๆหุ่นผอมๆบางๆนั่นทันใดนั้นก็ทำให้พวกเขาหมองลงไปแปปนึง
ถังซินไม่สนใจสายตาคนเหล่านั้น หล่อนเดินไปที่แมกซี่
“คุณแมกซี่คะ ขอเวลาสองนาทีได้ไหมคะ?”หล่อนใช้เสียงทุ้มๆเบาๆ“ฉันอยากคุยกับท่านค่ะ”
“ผมกำลังยุ่งเลย!”ปากของแมกซี่ที่คาบบุหรี่อยู่กำลังเล่นสนุ๊กไม่ได้มองถังซิน“รอผมเล่นเสร็จค่อยคุยกัน”
“ค่ะ”ถังซินยิ้มแล้วไปยืนข้างๆรออย่างเงียบๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน
สนุกมากๆๆๆ...