ตอนที่49 คิดเพ้อเจ้อ
ในตอนที่ถังซินเอาอาหารกลับมานั้นก็พอดีกับที่หลีซูเจ๋เลิกงานกลับมาพอดี ก่อนหน้านี้หลีซูเจ๋พักอยู่ที่คอนโดถังวี่ เดิมทีทำสัญญาเช่าสามปี คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าของห้องจะเป็นมิจฉาชีพ ถนัดทำธุรกิจไม่ดีแบบนี้ ถังซินเห็นว่าอพาร์ทเม้นของเธอยังมีห้องว่าง เลยรีบให้หลีซูเจ๋ย้ายเข้ามา เก็บค่าเช่าครึ่งหนึ่ง
“ถังซินเธอช่างเป็นคนดีเหลือเกิน กลับไปบ้านก็ยังนึกถึงฉัน”หลีซูเจ๋กอดถังซินไว้แล้วหอมแรงๆไปที่แก้มของเธอสองฟอก พูดอย่างดีใจว่า “วันนี้แบบทดลงอันหนึ่งของฉันผ่านแล้ว อีกสักพักเราออกไปฉลองกันหน่อย”
“ฉลองที่บ้านไม่เหมือนกันเหรอ? ทำไมต้องบินออกไปข้างนอก”ถังซินถามอย่างแปลกใจ
หลีซูเจ๋พูดอย่างไม่พอใจว่า“แน่นอนว่าอยากออกไปเดินเที่ยวเล่นอยู่แล้ว เธอคิดดูซิ ตั้งแต่ฉันย้ายมาที่เมืองหนานเฉิง ขนาดถึงวันหยุดยังต้องรีบร่างแบบรูป ไม่มีเวลาออกไปข้างนอกดีๆสักทีเลย”เมื่อถังซินคิดดูดีๆก็ใช่
สองอาทิตย์มานี้ ฝ่ายวางแผนยุ่งเป็นอย่างมาก ตอนที่เธอพักผ่อนหลีซูเจ๋ยังทำงานล่วงเวลาอยู่ที่บริษัทอยู่เลย
“งั้นก็ได้ อีกสักพักฉันจะพาเธอออกไปเที่ยวเอง”
หลีซูเจ๋กลัวว่าถ้าเหลืออาหารถึงพรุ่งนี้จะไม่อร่อย จึงรีบกินทันที และพูดอย่างโอเว่อร์ว่า“ว้าว ! ถังซินกับข้าวที่แม่เธอทำก็อร่อยเกินไปหรือเปล่า อร่อยจนฉันจะกลืนลิ้นตัวเองเข้าไปแล้วเนี้ย”
“เมื่อก่อนแม่ฉันเป็นเชฟหน่ะ”ถังซินตอบ “ท่านคนเดียวเลี้ยงลูกสามคน บางทีออกไปทำงานจนไม่มีเวลา มีแค่ฉันอยู่บ้านทำกับข้าว ต่อมาขนาดน้องชายก็ทำอาหารเป็น”มีแค่กวนหลิงเอ่อคนเดียวที่บอบบางเกินไปจนไม่ยอมเรียนอะไรสักอย่าง ถังซินคิด
“ห้ะ เธอยังมีน้องชายเหรอ?”หลีซูเจ๋ดันแว่นตาตัวเอง ถามอย่างสงสัยว่า“ยังเรียนอยู่เหรอ?”
ถังซินพยักหน้าแล้วพูดว่า“อืม เป็นโรงเรียนปิดหน่ะ สองสามเดือนจะได้เจอครั้งหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้นโรงเรียนพวกเขาแปลกมาก ไม่ต้องสอบเอนทรานซ์อีกด้วย ล้วนใช้ระบบภายในโรงเรียน”
“แสดงว่าน้องชายเธอเรียนเก่งมากแน่ๆ”พูดไปพูดมา หลีซูเจ๋ก็ถือชาวข้าวขึ้นมาใกล้แล้วพูดว่า“ฉันนึกออกแล้ว ช่วงเช้าตอนฉันกลับมาเอาของ เห็นจู่ซือซือกำลังออกจากห้องเข้าพอดี ข้างๆมีผู้ชายคนหนึ่งตามมาด้วย รูปร่างสูงใหญ่ ทำให้ฮอร์โมนพลุ่งพล่านเป็นอย่างมาก เธอว่าหล่อนจะสวมหมวกเขียว (สวมเขา)ให้ประธานมู่หรือเปล่า”
“น่าจะไม่ใช่นะ ผู้ชายคนนั้นไม่ใช่แฟนก็ต้องเป็นบอดี้การ์ดของเธอแหละ”จากที่ถังซินได้เจอจู่ซือซืออยู่สองสามครั้ง ในสายตาของจู่ซือซือนอกจากจะมองประธานมู่แล้วก็ไม่เคยลืมตามองผู้ชายคนอื่นเลย ยิ่งไปกว่านั้นเป็นไปไม่ได้ที่เธอเลี้ยงเด็กไว้หลับหลังประธานมู่หรอก
“ผู้ชายคนนั้นเท่มากจริงๆนะ เหมือนกับกู้เทียนเล่อเลย”หลีซูเจ๋กัดตะเกียบแล้วพูดอย่าเพ้อฝันว่า“ถ้าฉันหาแฟนที่สูงขนาดนั้นได้ก็คงดีซินะ”พอพูดจบก็ถอนหายใจอย่างเจ็บปวดแล้วพูดว่า “แต่งานแบบนี้อันตรายก็อันตราย เวลาที่จะออกไปเที่ยวเล่นก็ไม่มี จะเอาเวลาไหนไปหาแฟน เห้อ! ชีวิตชั่งไม่มีสีสันเอาสักเลย ”
ถังซินเม้มริมฝีปากยิ้มแล้วพูดว่า“ไม่เป็นไร อีกสักครู่ฉันจะพาเธอไปดูคนหล่อๆเป็นอาหารตา”
“ถังซินฉันรักเธอที่สุดเลย”
ถังซินเปิดโน้ตบุ๊คขึ้นมาเคลียร์งานบางส่วน ในอีเมลยังมีเอกสารสองสามชิ้นที่มู่เฉินหย่วนส่งมา ทำให้เธอสงสัยว่าที่พูดกับมูเฉินหย่วนไปวันนั้นเขาฟังไม่เข้าใจหรือไง
คนคนนี้ต่อมมนุษย์สัมพันธ์พังหรือไง ทำไมเธอต้องจัดการเอกสารพวกนี้ให้เขา คนแผนกเลขาไม่ต้องทำงานกันแล้วหรือยังไง
“ถังซินไปกัน ไปกัน”ตอนนี้หลีซูเจ๋อาบน้ำและแต่งตัวอีกลุคหนึ่งเสร็จแล้ว ทำให้ถังซินถึงขนาดต้องหันกลับมามอง จนเกือบหลุดขำออกมา ต้องโทษที่หลีซูเจ๋รูปลักษณ์ดูอ่อนโยนเกินไป พอแต่งตัวในลุคเซ็กซี่แล้วให้ความรู้สึกเหมือนเด็กมัธยม ผอมแห้งเหมือนไม่เสียบลูกชิ้น ตัวก็เล็กกระจิริด ทำให้คนรู้สึกว่าน่ารักเท่านั้น
หลีซูเจ๋มองดูตัวเอง ถามขึ้นอย่างสงสัยว่า“เป็นไงบ้าง เสื้อผ้าที่ฉันใส่มันไม่ได้เหรอ?”
“ไม่ใช่ๆ เธอน่ารักมากเลย”ถังซินกลั้นหัวเราะแล้วพูดว่า “หลายๆสถานที่จะต้องไม่ยอมให้เธอไปเข้าแน่”
“ที่จริงแค่รูปร่างไม่สูงก็ทำให้เจ็บปวดมากพออยู่แล้ว เธอยังจะมาทำร้ายกันอีกเหรอ?”
“ok ไม่พูดแล้ว ไม่พูดแล้ว”ถังซินกลับเข้าห้องไปเปลี่ยนเป็นกระโปรงตัวยาว ในมือถือกระเป๋าหนึ่งใบ แล้วก็ตามหลีซูเจ๋ออกไป
เวลาสามทุ่มเป็นเวลาที่คึกคักมาก รถยนต์บนถนนก็เยอะแยะเต็มไปหมด ส่องแสงไฟนีออนออกมาเป็นแถว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน
สนุกมากๆ เลยค่ะ ขอบคุณมากๆ นะคะ ที่มีนิยายสนุกๆ ได้อ่าน...
สนุกมากๆๆๆ...