บทที่ 83 มู่เสี่ยวซูเรียกเธอว่าภรรยา
จากปากของมู่เฉินหย่วน ถังซินจึงรู้ว่าผู้ช่วยจางเป็นคนค้นพบพืชชนิดนี้ บางครั้งเขาได้รับกระดาษที่เขียนที่อยู่จากชาวตุรกีที่เป็นคนที่นี่
พอได้มูลค่าของพืชมาผู้ช่วยจางรีบรายงานมู่เฉินหย่วนทันที เพียงแต่ที่อยู่บนว่ากระดาษเป็นภาษาอังเกอร์ที่เกือบจะสาบสูญไปเลยแล้ว เพื่อหาคนที่ได้ภาษาอังเกอร์ พวกเขาทุ่มเทไปไม่น้อยเลย
ถังซินได้แต่คิดหึหึ
ใช่สิ แต่ไม่ใช่ทุ่มเทไปมากหรอก อุบายห่วงสัมพันธ์ของมู่เฉินหย่วน เธอเป็นคนแนะนำเองต่างหากละ
ท้องฟ้านอกหน้าต่างค่อย ๆ มืดลง หญิงที่มีผ้าโผกหัวเข้ามาอีกแล้วและบอกจะพาถังซินออกไปกินข้าว
ถังซินปฏิเสธไม่ลงเลยออกไปกับมู่เฉินหย่วน
พอไปถึงลานบ้าน ถังซินก็พบว่าลานบ้านนั้นสวยงามมาก ที่แท้ก็เป็นเพราะหินก้อนโตที่วางรายล้อมอยู่นั้นมีการเคลือบสีย้อมเอาไว้ชั้นหนึ่ง เปรียบเสมือนแสงจันทร์ยามค่ำคืน
ในพื้นที่เปิดโล่งก็มีพรมที่ทำจากขนสัตว์วางอยู่หลายผืน ด้านบนมีโต๊ะเล็ก ๆ วางอยู่ มีพวกผู้ชายนั่งล้อมวงคุยกัน ส่วนเด็ก ๆ ก็อยู่โต๊ะของตัวเอง ทางด้านพวกผู้หญิงก็เตรียมอาหาร
บรรยากาศชื่นมื่นมาก ๆ ใบหน้าของแต่ละคนดูมีความสุขกันมาก
“ที่นี่ดีจริง ๆ เลย” ฉากที่อยู่ตรงหน้าราวกับภาพวาด ทั้งเงียบสงบและสวยงามทำให้ถังซินอิจฉามาก อยู่ที่นี่แก่ช้าแล้วยังไม่ต้องกังวลอะไรด้วย
“ถ้าดี งั้นก็อยู่ที่นี่อีกสักสองวันสิ” ผู้หญิงที่ชื่อไอชาพูดยิ้ม ๆ ให้เธอ
เธอพาถังซินกับมู่เฉินหย่วนเจอกับกลุ่มคน “หัวหน้าหมู่บ้าน นี่คือซูร์แมกับสามีของเธอสหยู พวกเขาจะขายของ แต่เกิดหลงทางระหว่างทางเสียก่อน”
ไอชาบอกว่าหัวหน้าหมู่บ้านคนนั้น ดูอายุประมาณสามสิบปี ที่ตรงหัวตามีริ้วรอยเล็กน้อย ยังหนุ่มยังแน่นอยู่ หากไม่รู้จักพืชชนิดนั้นถังซินคงคิดว่าเขาอายุแค่สามสิบจริง ๆ ไปแล้ว
พอเธอออกมาแล้วก็พบว่าคนที่นี่ไม่มีคนแก่เลย
“สวัสดีค่ะ ท่านหัวหน้าหมู่บ้าน” ถังซินคุ้นเคยในภาษานี้มากขึ้นแล้ว เธอหันไปโค้งคำนับหัวหน้าหมู่บ้าน “ขอขอบคุณที่ยอมให้พวกเราทั้งสองคนอยู่ที่นี่นะคะ รู้สึกซาบซึ้งมากเลยค่ะ”
“ไอชาพูดถูก คุณพูดภาษาของพวกเราได้จริง ๆ ด้วย” หัวหน้าหมู่บ้านก็รู้สึกแปลกใจมากเช่นกัน “ฉันนึกว่านอกจากคนในหมู่บ้านของพวกเราแล้ว ก็ไม่มีใครที่พูดได้แล้วเสียอีก”
หัวหน้าหมู่บ้านจัดแจงให้ถังซินกับมู่เฉินหย่วนนั่งลงข้าง ๆ แล้วพูดคุยกัน
ถังซินปูภูมิหลังเอาไว้ให้ตัวเองกับมู่เฉินหย่วนอย่างเพอร์เฟคแล้ว หัวหน้าหมู่บ้านถามอะไรก็ตอบอย่างนั้น และทำตัวน่าสงสารบ่อย ๆ “เจ้าใบ้” มู่เฉินหย่วนที่ถูกเซ็ทให้นั่งข้าง ๆ เงียบ ๆ
คุยไปได้สองสามนาที จู่ ๆ หัวหน้าหมู่บ้านก็ถาม “แล้วพวกคุณค้าขายอะไรล่ะ”
ถังซินรู้สึกงานเข้า
แย่แล้ว ก่อนหน้านี้ที่อยู่ในห้องเธอไม่ได้ถามมู่เสี่ยวซูด้วย
เธอใช้มือผลัก ๆ มู่เฉินหย่วน แต่ไม่ได้หันหน้าไป “ประธานมู่คะ หัวหน้าหมู่บ้านถามว่าพวกเราค้าขายอะไรค่ะ”
มู่เฉินหย่วนหยิบขนมปังในจานสองก้อนมาป้อนถังซิน แล้วพูดเสียงเบา ๆ “ผักและเมล็ดฝ้าย”
ไอลมหายใจอุ่น ๆ โดนหูของถังซิน ถังซินสั่นไปทั้งตัว เลยกัดนิ้วของเขาไปหนึ่งที
เธอรีบยัดขนมเข่งใส่ปากแล้วพูดอย่างไม่สะทกสะท้าน “พวกเมล็ดผักและเมล็ดฝ้ายค่ะ”
"เมล็ดผักเหรอ” หัวหน้าหมู่บ้านรู้สึกสนใจ พื้นดินของพวกเขาที่นี่เหมาะแก่การเพาะปลูก แต่เป็นเพราะภาษาเลยสื่อสารกับคนอื่นไม่ได้เลยแลกเปลี่ยนสิ่งของเหล่านี้ไม่ได้
ในหมู่บ้านขาดแคลนผักที่สุด พวกเขากินได้แต่สัตว์ที่ล่ามาได้
ถังซินพยักหน้า พูดเศร้า ๆ “บ้านของฉันค้าขายเมล็ดพวกนี้ แต่พ่อของฉันไม่ชอบสหยู เมล็ดที่เอามาจากบ้านฉันเลยขายไม่ได้ ก็เลยเอามาขายแถวนี้”
“ขอให้พระเจ้าคุ้มครอง” หัวหน้าหมู่บ้านพูด “พวกเราก็ขาดแคลนเมล็ดผักกับฝ้าย ถ้าหากคุณตกลง ฉันจะเอาขนสัตว์มาแลกเปลี่ยนกัน”
“ไม่ ไม่ เกรงใจท่านหัวหน้าหมู่บ้าน เมล็ดพืชพวกนั้นฉันให้คุณก็ได้ค่ะ” ถังซินส่ายหัว พูดด้วยความจริงใจ “ถ้าไม่ได้คุณน้าไอชาให้อาหารฉันกิน ลูกของฉันก็คงจะไม่รอดแล้ว พวกคุณคือผู้มีพระคุณ เพียงแต่ว่าพวกเราหลงทางเลยไม่รู้ว่ารถขนสินค้าอยู่ที่ไหน”
หัวหน้าหมู่บ้านพูด “ไม่เป็นไร คืนนี้คุณกับสหยูพักผ่อนให้ดี พรุ่งนี้ฉันจะให้คนออกไปหาให้นะ”
“ขอบคุณนะคะ หัวหน้าหมู่บ้าน”
หลังจากที่คุยเสร็จ ถังซินก็ถอนหายใจยาวหนึ่งที
เธอฉวยโอกาสตอนที่หัวหน้าหมู่บ้านหันไปคุยกับคนอื่นบอกเรื่องที่เธอคุยเมื่อกี่ไปให้มู่เฉินหย่วนฟัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน
สนุกมากๆ เลยค่ะ ขอบคุณมากๆ นะคะ ที่มีนิยายสนุกๆ ได้อ่าน...
สนุกมากๆๆๆ...