“แม่!”
โรซาลีได้ยินคำพูดของนายหญิงจูสก็อดไม่ได้ที่จะพูดค้านออกมา
นายหญิงจูสเปรยตามองเธอ พูดอย่างเสียไม่ได้ว่า “ทำไมหรือคิดว่าฉันแก่แล้ว ไม่มีสิทธิ์จะพูดในตระกูลจอห์นสันหรอ?”
โรซาลีสะอึก ทำได้แค่กลืนคำพูดตัวเองลงไป
“ในเมื่อแม่พูดออกมา ก็ฟังที่แม่พูดเถอะ”
ธรรมทานลูกกตัญญู เอ่ยปากพูดออกมา
อารมณ์ที่อยู่ในใจของโรซาลีไม่ไหวติง สายตามองเค้าด้วยความไม่พอใจ แต่กลับไม่พูดอะไร
แล้วบอกว่าเป็นนายหญิง ของจอห์นสันอะไรกัน
ในตระกูลจอห์นสัน เธอก็เป็นแค่คนต่ำต้อยพูดอะไรก็ไม่สำคัญ
ก่อนหน้านี้ถูกนายหญิงใหญ่ กดขี่
ต่อจากนี้ยังต้องถูกเด็กรุ่นหลังทั้งสองนี้ขี่หัวอีกหรอ!
เรื่องก็ตัดสินให้เป็นแบบนี้ ซูการ์ไปส่งนายหญิงจูสกลับ ในใจก็รู้สึกขื่นขม
เธอไม่อยากที่จะมีลูก เธออยากที่จะหย่า!
สายตาเฉียบคมที่อยู่ด้านข้างมองมา
ซูการ์หันมองอย่างรู้สึกตัวก็ไปปะทะกับสายตาของคอฟฟีเมต
มันมีความรู้สึกไม่พอใจนั้นแฝงอยู่มาก รวมไปถึงเย็นชา
เขากำลังโกรธหรอ?
ซูการ์เม้มปาก ทำท่าเป่าลมออกจากปาก
ถ้าคอฟฟีเมตรู้ว่าแต่ก่อนเธอเคยมีลูก จะเหมือนเมื่อกี้ที่เขายังปกป้องเธอมั้ยตอนที่คนรอบข้างจะฟ้องเธอ?
และลูกสาวของตัวเธอเองจะมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับเขากันแน่มั้ย?
“แม่ จะให้มันจบแบบนี้หรอคะ?”
รอจนกระทั่งคนที่อยู่ในห้องพักรับรองไปหมดแล้วริตาดึงแขนของโรซาลีพูดด้วยสีหน้าไม่ยินยอม
โรซาลีปรับอารมณ์ ยิ้มอย่างเยือกเย็นว่า “นังซูการ์นี่มันร้ายนัก พวกเราต้องสืบหาความจริงของมันวามันแต่งตัวอัปลักษณ์เข้ามาแต่งงานในตระกูลจอห์นสันทำไมกัน!”
เธอมีลางสังหรณ์ว่าซูการ์ต้องมีความลับที่ปิดบังอยู่อีกแน่นอน!
…………
ซูการ์กลับมาที่เลียงฮอลล์ วิลล่า
เธอไม่สนใจท่าทีที่ตกใจของป้านีย์ยิ้มแล้วขึ้นไปด้านบน ไปล้างหน้าล้างตาที่ห้องน้ำก่อน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานไม่เติมน้ำตาล