โรงถ่ายภาพยนตร์
ซูการ์แต่งหน้าให้กับ จุ๋มจิ๋ม เสร็จแล้ว และนั่งรอการมาของ ปริ้นซ์
“พี่สะใภ้ อรุณสวัสดิ์”
เสียง ปริ้นซ์ดังมาจากด้านหลัง
มือที่กำลังจัดกล้องเครื่องสำอางนั้นหยุดชะงักลง แล้วหันมองไปทางเขา
“ปริ้นซ์หลังจากนี้เรียกฉันว่าเฮเลนาก็พอค่ะ”
รู้สึกไม่ชินที่ถูก ปริ้นซ์เรียก พี่สะใภ้ใหญ่
ปริ้นซ์นั่งที่เก้าอี้แต่งหน้า พูดยิ้มๆ “จะได้ไงล่ะครับ? ถ้าคอฟฟีเมตรู้คงด่าผมเละ”
ซูการ์คิดท่าทางที่เมาของคอฟฟีเมต หูก็แดงหน่อยๆ
เธอรีบสลัดความคิดทิ้ง แล้วจัดเรียงอุปกรณ์แต่งหน้า
ปริ้นซ์เห็นเธอดูไม่แปลกๆ แล้วเข้ามาใกล้เธอ ถามหยอกล้อว่า “พี่สะใภ้ เมื่อคืนกลับไป คุณกับคอฟฟีเมตเข้ากันดีเลยใช่มั้ย?”
ซูการ์ “…..”
ปริ้นซ์เป็นผู้ชายเย็นชาที่มีชื่อเสียงกันในวงการไม่ใช่หรอ?
ทำไมขี้เม้าท์อย่างนี้!
“ปริ้นซ์นั่งดีๆนะคะ ฉันจะแต่งหน้าให้คุณแล้ว”
ซูการ์ทำเป็นไม่ได้ยิน และเตรียมที่จะแต่งหน้าให้เขา
ปริ้นซ์เลิกคิ้วขึ้น สัมผัสถึงนิ้วมือของซูการ์ที่เกลี่ยอยู่บนหน้าเขา พูดอีกว่า “พูดจริงๆนะ อย่าเสียโอกาสไปเลย พี่สะใภ้ คุณมาเป็นช่างแต่งหน้าประจำตัวของผมเถอะ! เรื่องค่าใช้จ่ายคุณคิดมาเลย”
การเชื้อเชิญนี้น่าดึงดูดจริงๆ
แต่เธอยังรับไว้ไม่ได้
ซูการ์ยกมุมปากขึ้น “ขอบคุณ ปริ้นซ์ที่ให้เกียรติ แต่ช่างมันเถอะ ถ้าให้เทียบกันแล้วฉันชอบแต่งหน้าให้หลายคนมากกว่าให้คนเดียวค่ะ”
อุปกรณ์แต่งหน้าที่ใช้อยู่ในมือได้แต่งเติมสีลงไปให้บุคคลที่ต่างกัน มันสัมผัสได้ถึงความแปลกประหลาดใจและเหนือความคาดหมาย
นี่เป็นความรู้สึกสำเร็จอย่างนึง
มันน่าสนใจ
“นี่คุณปฏิเสธผมหรอ? ฟัง เสียงหัวใจของผมสลายสิ”
มือของ ปริ้นซ์วางไว้ที่หน้าอก ใบหน้าเสียดาย
ซูการ์อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา คิดไม่ถึงเลยว่า ปริ้นซ์จะอารมณ์ขันอย่างนี้
“ขอโทษนะคะ!”
“แค่คำขอโทษแล้วเรื่องจะจบหรอ?”
ปริ้นซ์พูด “พี่สะใภ้ คุณต้องประจบผม ต่อให้คุณจะไม่เป็นช่างแต่งหน้าส่วนตัวของผม แต่ในมือของผมยังมีข้อมูลอีกเยอะที่จะแบ่งปันกับคุณได้”
“นั่นสินะ! งั้นฉันเลี้ยงเค้กที่อร่อยที่สุดในโลกดีมั้ยคะ ปริ้นซ์?”
“หื้ม ได้สิ!”
คนทั้งสองพูดไปหัวเราะไป ซูการ์แพลนว่าจะให้คนมาส่งเค้กและเครื่องดื่ม
ก็ถือว่าโฆษณาให้กับ Tasty Interlude Bakery เบาๆ
ที่หน้าประตูห้องแต่งหน้า แชมพู เห็นคนทั้งสองพูดไปหัวเราะไป นัยน์ตาก็มีความอิจฉา
เมื่อวานหลอกให้ แนทตี้ เชื่อได้อย่างสำเร็จ
แต่กลับถูกคำพูดสั้นของซูการ์ทำให้ความคิดร้ายของแฟนคลับที่มีต่อเธอนั้นมลายหายไป
ข่าวลือที่เกี่ยวกับ ปริ้นซ์และของเธอก็ถูกลบไปหมดแล้ว
ตอนนี้ความสัมพันธ์ของ ปริ้นซ์และเธอกลับใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น
มีสิทธิ์อะไร!
“ปริ้นซ์ช่างแต่งหน้าส่วนตัวของคุณยังไม่มาหรอคะ ให้ฉันหาช่างแต่งหน้าผู้ชายให้มั้ย?”
แชมพู เดินเข้าไปถามด้วยเสียงออดอ้อน “คุณก็รู้ว่าคุณไม่ใช่คนธรรมดา มีอะไรนิดอะไรหน่อยก็เกิดเป็นความสนใจได้ อย่าให้เหมือนเมื่อวานเลยที่คนอื่นเข้าใจผิดเรื่องความสัมพันธ์ของคุณกับเฮเลนา”
ได้ยินคำพูดนี้ มือที่กำลังแตะหน้าของซูการ์ก็หยุดชะงักลง ไม่พูดอะไร
ข่าวลือดาราเดิมทีก็เยอะอยู่แล้ว
ถ้าเข้าข่ายขึ้นมาจริงๆก็จบเพ่
แชมพู ไม่ชอบเธอนิ!
“ให้ช่างแต่งหน้าผู้ชายมา ทุกอย่างมันจะโอเคหรอ? ถ้านักข่าวอยากจัดการผม ก็บอกได้ว่าด้านนั้นผมไม่ปกติ ชอบผู้ชายน่ะสิ”
ปริ้นซ์ตอบเสียงเรียบ
ซูการ์ รู้สึกว่ามีเหตุผล เลยอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสียงเบา
ปริ้นซ์เลิกคิ้ว “พี่สะใภ้ คุณหัวเราะอะไร ผมแค่ยกตัวอย่าง ด้านนั้นผมปกติมากๆเลยนะ”
“คุณไม่ต้องอธิบายกับฉันหรอกค่ะ ฉันไม่ใช่แฟนคลับคุณ”
“พี่สะใภ้ ทำไมคุณจะไม่ได้เป็นแฟนคลับของผม ไม่ได้แล้ว คุณต้องติดตามผม”
“อยากเจอเขาใช่มั้ย งั้นแม่จะโทรหาเขา ให้เขาไปเดินเล่นกับพวกเรา!”
เกรซ ยกมุมปากขึ้นน้อย แล้วหยิบโทรศัพท์มาโทรหา คอฟฟีเมต
“ฮัลโหล?”
“คอฟฟีเมต ฉันพา ทาคุมิออกไปเดินเล่นข้างนอกได้มั้ยคะ? ฉันอยากซื้อเสื้อผ้าเปลี่ยนให้เขาสองชุด”
คอฟฟีเมต ที่อยู่ในสายนั้นเงียบแปปนึง “ผมจะให้คนมารับพวกคุณ พวกคุณไปเดินกันก่อน ผมจัดการธุระเสร็จจะไปหา”
“ค่ะ”
เกรซ พอใจ เอาโทรศัพท์ทิ้งลงบนโซฟา แล้วลุกขึ้น
“รอก่อน เดี๋ยวแม่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า”
เด็กน้อยไม่พูดอะไร รีบบิดลูกบิดที่อยู่ในมืออย่างรวดเร็ว
เดี๋ยวจะต้องให้พ่อดูผลงานของเขา
......
โรงถ่ายภาพยนตร์
ซูการ์รับสายของคณิตรู้ว่าเธอมาส่งเค้กก็รีบจัดแจงให้คนไปช่วยเธอถือเค้ก
“คณิตทำไมมาส่งเองล่ะ?”
“ก็เอรินน่ะสิ บอกว่าคิดถึงอยากมาหาเธอ ยังไงฉันก็ว่างเลยพาเธอมา”
คณิตอุ้มเอรินลงจากรถ เจ้าเด็กน้อยโผเข้ากอดซูการ์หัวเราะชอบใจ
“หม่ามี๊”
“อ๊า ตัวหม่ามี๊สกปรก ไปหามี่มี๊คณิตก่อน”
ซูการ์ใส่เสื้อช่างแต่งหน้า มือยังถือกล่องเค้กเป็นจำนวนมาก กลัวว่าจะเปื้อนเสื้อผ้าของเอรินเลยพูดยิ้มๆ
“มานี่ มี่มี๊คณิตอุ้ม”
คณิตอุ้มเด็กน้อย แล้วเดินตามซูการ์เข้าไปใน โรงถ่ายภาพยนตร์
ได้เจอกับคนหลายคน
หนึ่งในนั้นเป็นคนที่อายุประมาณสามสิบห้า ไม่ถือว่าสูงมาก แต่หน้าตายังถือว่าดูสง่า กำลังพูดคุยกับนักแสดงที่อยู่ข้างๆสองสามคน
ซูการ์หยุดเดิน แล้วมองไปทางคณิต
คนนั้นไม่ใช่ใครเป็นผู้กำกับในเรื่องนี้นั่นเอง และก็เป็น ทรงกลดBarrett อดีตสามีของคณิต
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานไม่เติมน้ำตาล