คอฟฟีเมตหันมองไปยังซูการ์โดยไม่รู้ตัว เห็นท่าทีที่โล่งอกของเธอ สีหน้ายังคงถมึงทึงดูไม่สบอารมณ์
ซูการ์รู้ ว่าคอฟฟีเมตกำลังโทษเธอที่พูดเรื่องหย่าต่อหน้าสาธารณชนแบบนั้น
แต่เธอก็ถูกสถานการณ์บังคับเหมือนกัน
มองดูพ่อลูกตระกูลจอห์นสันเดินเข้าห้องผู้ป่วยไป เธอก็รีบเดินตาม
ด้านหลัง ริตาคว้าตัวเกรซที่อยากจะเดินตามเข้าไปเอาไว้ แล้วดึงลากเธอไปยังที่ลับตาคน
“เกรซ นี่เธอกล้าที่จะขัดคำสั่งฉันงั้นเหรอ ? ฉันบอกไปแล้วว่าถ้านักข่าวถามอะไร ให้เธอตอบว่าใช่ เธอกลับทำเป็นหูทวนลมอย่างนั้นเหรอ ?”
ริตามีท่าทีโกรธจัด เกรซมองเธอด้วยดวงตาที่แดงก่ำ
“คุณริตา ไม่ใช่ว่าฉันจะไม่ฟังคุณ แต่ฉันทำแบบนั้นไม่ได้ หากฉันตอบว่าใช่ไปทุกอย่าง คุณคอฟฟีเมตก็จะต้องถูกจับกุม!หากเขาถูกจับ แล้วฉันยังจะได้อะไรอีก ? นี่ไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้องการ”
หญิงสาวท่าทีน่าสงสาร อกสั่นขวัญหายไปหมด
ริตายิ้มเยาะเสียงเบา ใบหน้าเย็นชาและยโส “แล้วเธอไม่กลัวว่าฉันจะเปิดเผยความจริงกับคอฟฟีเมตเหรอ? ”
เกรซรีบพนมมือ อ้อนวอนขอร้อง“คุณริตา ฉันสำนึกผิดแล้ว ได้โปรดให้โอกาสฉันอีกครั้ง ฉันสัญญา ขอแค่ฉันได้อยู่เคียงข้างกับคุณคอฟฟีเมต ต่อไปจะฟังคำสั่งคุณทุกอย่าง ”
เมื่อได้ยินคำนี้ มุมปากริตาก็ยกหยักขึ้น พยักหน้าให้อย่างพึงพอใจ
“ได้ ครั้งนี้ฉันจะยกโทษให้ จำคำพูดตัวเองเอาไว้ ต่อไปต้องฟังคำสั่งฉันทุกอย่าง ”
“ตกลง”
เกรซพยักหน้าให้ซ้ำๆ มองดูริตาเดินจากไปพร้อมรองเท้าส้นสูงที่สวมใส่ด้วยท่าทีมั่นใจ ดวงตาฉายแววเย็นเยือก
ไหนบอกว่าเขาจะจัดการริตาเองไม่ใช่เหรอ?
ทำไมถึงยังไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรเลย ?
ที่ห้องคนไข้
นายหญิงจูสค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมา
“แม่ ฟื้นแล้วเหรอ ? รู้สึกยังไงบ้าง?”ใบหน้าธรรมทานเป็นกังวล
นายหญิงจูสขยับร่างกาย อยากจะลุกขึ้นนั่ง
คอฟฟีเมตที่อยู่ข้างๆรีบหยิบหมอน ไปวางไว้ข้างหลังของเธอ
“ทุกคนออกไปก่อน เหลือไว้แค่ซูการ์กับคอฟฟีเมต”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานไม่เติมน้ำตาล