การจุดไฟของโจวเหมินเหมินทำให้โจวรั่วหลานโกรธได้สำเร็จ และเหลือบมองไปหาเย่เสวี่ยจู๋ พร้อมพูดว่า: "เอากล่องอาหารไว้ที่นี่ เธอกลับไปก่อน"
เย่เสวี่ยจู๋ไม่กล้าคัดค้านจึงวางกล่องอาหารที่เต็มไปด้วยโจ๊กเนื้อลงที่โต๊ะ แล้วกล่าวลาโจวรั่วหลานด้วยความเคารพและออกจากบ้านตระกูลเฉินอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่เย่เสวี่ยจู๋จากไป โจวรั่วหลานก็เหลือบมองไปที่กล่องอาหารที่เย่เสวี่ยจู๋ทิ้งไว้อย่างขยะแขยง และพูดกับป้าหลิวด้วยความโกรธว่าห: "เอาไปทิ้ง!"
ป้าหลิวลังเลอยู่ครู่หนึ่ง และหลังจากนั้นเธอก็เกลี้ยกล่อมโจวรั่วหลาน“ คุณนาย คุณก็รู้อารมณ์ของคุณชายรอง " อีกซักครู่ถ้าเขากลับมาไม่เห็นคุณเย่ก็ไม่มีอะไร แต่ถ้าเขาไม่เห็นกล่องอาหาร ฉันเดาว่าเขาคงจะเสียอารมณ์ "
เมื่อโจวรั่วหลานได้ยินคำนั้น เธอก็รู้สึกว่าป้าหลิวพูดถูก และพยักหน้าเห็นด้วย "งั้นก็เอาไว้แบบนี้แหละ" จากนั้นเธอก็มองไปที่คนรับใช้ "อีกซักครู่คุณชายรองกลับมา พวกเธอรู้นะว่าควรจะพูดอย่างไร?"
ป้าหลิวเป็นผู้นำในการตอบ: "ไม่ต้องห่วง เมื่อคุณชายรองกลับมา ฉันจะบอกเขาว่าคุณเย่เพิ่งนำโจกมาให้และเธอรอไม่ไหวเลยขอตัวกลับก่อน! "
โจวรั่วหลานพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ แต่อารมณ์โกรธของเธอไม่สามารถหายไปได้
สำหรับลูกชายของเธอเอง ในความเป็นแม่ เธอไม่สามารถควบคุมได้เลย และบางครั้งเธอก็กลัวที่จะทำให้ลูกชายของเธอไม่มีความสุข!
เฉินซิงเหย้าต่อต้านขึ้นมา แม้แต่โจวรั่วหลานก็กลัว
เมื่อสี่ปีก่อน เพื่อช่วยเย่เสวี่ยจู๋ ขาเต็มใจที่จะทำให้ทุกคนขุ่นเคือง ถึงขนาดหนีออกจากบ้าน และทะเลาะกับพ่อของเขา หาก โจวรั่วหลานไม่ได้เป็นคนไกล่เกลี่ย และเฉินซิงเหย้าเองก็พอจะมีทักษะบางอย่าง บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่เขาก่อตั้งขึ้นก็เพิ่มราคาหุ้นขึ้นเรื่อยๆ ไม่เช่นนั้นพ่อของเขาคงไม่ให้อภัยจนถึงทุกวันนี้
ในตอนแรกเฉินซิงเหย้าไม่ต้องการอะไรจากเย่เสวี่ยจู๋ เขาบอกว่าไม่มีความรู้สึกใดๆกับเธอ และเขาช่วยเธอเพียงเพื่อล้างแค้นให้กับเย่จือที่ตายไป แม้ว่าทุกคนในโลกจะเชื่อก็ตาม แต่โจวรั่วหลานไม่เชื่อเลย
เฉินวิงเหย้ารักเย่เสวี่ยจู๋อย่างลึกซึ้งมาก จนเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่านั่นคือความรัก
บางทีความรักไม่ต้องการเหตุผล
เช่นเดียวกับตอนที่โจวรั่วหลานยังวัยรุ่น เธอเห็นพ่อของเฉินซิงเหย้าในแวบแรก เพียงแค่แวบแรกก็ขาดไม่ได้ แม้ว่าพ่อของ เฉินซิงเหย้าจะมีภรรยาและลูกแล้ว แต่ในเวลานั้นเธอก็เหมือนแมลงเม่าวิ่งเข้ากองไฟ เธอเต็มใจที่จะจมอยู่ในกองไฟ
พ่อของเฉินซิงเหย้ามักจะพูดกับโจวรั่วหลานเสมอว่าความงดงามคือความหายนะ
และเย่เสวี่ยจู๋คือหายนะของเฉินซิงเหย้าอย่างไม่ต้องสงสัย!
โจวรั่วหลานหวาดกลัวผู้หญิงคนนี้ที่ชื่อว่าเย่เสวี่ยจู๋ เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นคนถ่อมตัว และไม่เหมือนโสเภณี แต่เธอมีความสามารถในการทำให้ลูกชายของเธอหลงใหล และแสร้งทำเป็นไร้เดียงสา!
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ โจวรั่วหลานรู้สึกว่าหัวใจของเธอถูกสะกัดกั้นด้วยก้อนหิน และเธอก็หายใจไม่ออก!
โจวเหมินเหมินพยายามช่วยพยุงแขนของโจวรั่วหลาน และพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า "คุณป้า !"
ขึ้นไปชั้นบนกันแล้วหนูจะนวดให้ โจวรั่วหลานถอนหายใจและพูดกับโจวเหมินเหมินว่า: "ยังไงโจวเหมินเหมินของฉันรู้จักความ ยังรู้จักทำให้ฉันอารมณ์ดี!"
โจวเหมินเหมินยิ้มอย่างมีชัยและเธอพยุงโจวรั่วหลานขึ้นไปชั้นบน เดินไปได้ครึ่งทาง เธอมองกลับไปที่กล่องอาหารอันน่ารังเกียจที่ยังวางอยู่บนโต๊ะ แล้วจ้องไปที่ป้าหลิวด้วยท่าทางดุร้ายและพูดว่า: แก่แล้วยังไม่อยากตายก็อย่ายุ่งกับเรื่องนี้!
ป้าหลิวเห็นสายตาอันน่ารังเกียจของเธอและก็ทำได้เพียงแค่ถอนหายใจ
...
เฉินซิงเหย้าขับรถกลับบ้านทันที หลังจากงานปาร์ตี้เสร็จสิ้นลง เขาดื่มแอลกอฮอล์เล็กน้อยและขับรถกลับไปที่บ้านตระกูลเฉิน โดยไม่คิดถึงคำเตือนของเลขา
เมื่อเขาขับรถกลับ เขาอารมณ์ดีและเขาไม่รู้ว่าเป็นเพราะการดื่มหรือเปล่า หลายครั้งที่เขานึกถึงทรงผมลูกชิ้นที่ตลกมากของเย่เสวี่ยจู๋
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักกันอย่างเสียงเงียบ เบิกบานอย่างสุขสงบ