“ติ๊งต๊อง ติ๊งต๊อง...”
เสียงกริ่งหน้าประตูดังขึ้น
ทักษกรกำลังจะออกไปเปิดประตูแต่ คุณปู่กลับพูดขึ้นว่า “นั่งเถอะ ฉันกินอิ่มแล้ว เดี๋ยวฉันออกไปเปิดเอง”
คุณปู่ชรัณลุกขึ้นเดินออกไป
“พี่เหลือเกี๊ยวไว้ให้ฉันหน่อยสิ”
กนกอรเห็นพี่ชายคีบเกี๊ยวไม่หยุดมือก็อดพูดขึ้นมาไม่ได้
“ใครกินเร็วคนนั้นก็ได้กินเยอะ ไม่เหลือให้หรอก”
ปากพี่กอล์ฟบอกว่าไม่เหลือให้ แต่กลับผลักเกี๊ยวที่เหลืออีกครึ่งจานไปตรงหน้าของน้องสาว
ก่อนจะยกยอปอปั้นคุณแม่ของตัวเอง “แม่ครับ เกี๊ยวที่แม่ทำอร่อยมากเลย ผมชอบมาก กินเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อเลย”
“หึ ตอนที่แม่ทำเกี๊ยวให้กินติดต่อกันเป็นเดือน ๆ ใครกันล่ะที่หาข้ออ้างมาอ้างแอบออกไปกินอาหารเช้าข้างนอกแทน”
“แม่ พี่ชายพูดค่ะ ตอนนั้นพี่ชายบ่นให้หนูฟังว่าแม่ทำแต่เกี๊ยวทุกวัน ยิ่งกินยิ่งไม่อร่อย พอเห็นเกี๊ยวก็อยากจะอ้วกแล้ว”
พี่กอล์ฟ “…กนกอร!”
หักหลังเขาซะเลย!
ทักษอรเหลือบตามองลูกชายของตัวเอง “ตอนนี้อ้วกออกมาให้ฉันดูสิ”
“แม่ครับ ผมชอบกินนะ ชอบกินมากจริง ๆ เกี๊ยวที่แม่ทำมีรสชาติของความเป็นแม่ อร่อยที่สุด แม่อย่าไปฟังคำพูดไร้สาระที่กนกอรพูดนะ”
พี่กอล์ฟคุยกับแม่พลางยิ้มแฉ่งให้แม่ของเขา ก่อนจะหยิบแก้วนมถั่วเหลืองที่ยังไม่ได้ดื่มขึ้นและรีบคว้าปาท่องโก๋ ก่อนจะรีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
ตะเกียบของทักษอรคีบได้แต่ความว่างเปล่า
“ฮ่า ๆ คีบไม่ทันแล้ว”
พี่กอล์ฟหยิบของรางวัลแห่งชัยชนะแล้วเดินออกไปอย่างรวดเร็ว เขากำลังจะไปทำงานสายแล้ว
สุดท้ายก็เป็นน้องสาวสบายที่สุด
เปิดร้านและเป็นเจ้าของเอง ไม่จำเป็นต้องไปเบียดเสียดกับกลุ่มคนที่เร่งรีบไปทำงาน ทานอาหารเช้าแบบไม่ต้องรีบร้อน จิบชา อ่านข่าวซุบซิบแล้วค่อยไปเปิดร้านก็ยังไม่สาย
พี่กอล์ปบังเอิญชนเข้ากับคุณปู่ที่สวนหน้าบ้านเข้าพอดี
แก้วนมถั่วเหลืองหกเลอะเทอะเต็มตัวของคุณปู่ไปหมด
“ปู่!”
พี่กอล์ฟยิ้มเจื่อน ๆ
คุณปู่ชรัณก้มลงมองเสื้อของตัวเอง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองหลานชาย
“ปู่ ผะ ผมไม่ได้ตั้งใจนะ”
“อายุจะสามสิบอยู่แล้ว สุขุมกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือไง”
คุณปู่ชรัณดุหลานชายตัวเอง ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องพูดกับหลานชายว่า “หน้าบ้านมีพวกหมาบ้าสองสามตัวมาดักรอ แกหาไม้มาไล่พวกมันไปสิ”
“หมาบ้าเหรอ หมาบ้าจากไหน ทำไมไม่ได้ยินเสียงเห่าหอนเลย”
พี่กอล์ฟทำหน้างุนงง แต่ในไม่ช้าเขาก็ยื่นแก้วให้คุณปู่ แล้วกัดปาท่องโก๋เดินไปลากท่อนไม้ไผ่หนา ๆ ในสวน ไม่รู้ว่าแม่ไปเอามันมาจากไหน คงจะเป็นไม้คานเอาไว้ตากผ้าในสวนละมั้ง
เขารีบวิ่งออกไปพร้อมกับไม้ไผ่ลำหนา พร้อมที่จะต่อสู้กับหมาบ้าที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนเต็มที่
ใครจะไปรู้ว่าพอเขาเปิดประตูออกไปจะกลายเป็นว่าเห็นผู้ชายร่างสูงใหญ่สองสามคนกำลังยืนอยู่ นอกจากคนที่เป็นหัวหน้าแล้ว คนอื่น ๆ ก็พากันถือถุงใบใหญ่ใบเล็กพะรุงพะรัง ถ้าไม่รู้อะไรคงคิดว่าพวกเขากำลังจะหอบสินสอดมาขอใครแต่งงาน
พี่กอล์ฟยกไม้ไผ่ขึ้นสูง ถลึงตากว้างมองอีกฝ่าย
ใบหน้าของนฤเบศวร์เต็มไปด้วยความลำบากใจ
เขาเป็นคนกดกริ่งเมื่อครู่นี้
ตอนที่คุณปู่ชรัณออกมาเปิดประตู เขาก็ขานเรียกคุณปู่อย่างมีมารยาท
หลังจากที่คุณปู่ชรัณจำเขาได้ ไม่ใช่แค่ไม่ยอมให้เขาเข้าไป แถมยังต่อว่าเขาอีกยกใหญ่และไม่ยอมให้เขาเรียกคุณปู่ จากนั้นก็ไล่พวกเขาไปให้พ้น แล้วปิดประตูใส่หน้าทันที
นฤเบศวร์ถึงกับทำอะไรไม่ถูกเลย
เขาบอกไปคุณปู่ไปตามความจริงไม่ได้ เพราะถ้าเป็นแบบนั้นคุณปู่ชรัณคงไม่ใช่แค่ด่าเขา แต่คงจะเอาไม้กวาดมาไล่ฟาดเขาแทน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน