เมื่อบัณฑิตาโมโห ก็เอ่ยเรียกด้วยสีหน้าทะมึน โดยไม่สนใจว่าตัวเองมาทำอะไรที่นี่ “ตาเบศวร์”
นฤเบศวร์ได้ยินเสียงตะโกนเรียกของมารดา ก็นึกว่าตัวเองหูฝาด เขาจะได้ยินเสียงเรียกของมารดาได้อย่างไรกัน
“ตาเบศวร์ ลูกถึงกับขอเครื่องประดับของคุณย่าลูกจากคุณปู่มาให้กนกอรใส่ แม่ของลูกยังไม่เคยใส่เครื่องประดับของคุณย่าลูกเลย เธอมีสิทธิ์อะไร”
คำพูดของบัณฑิตาเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา
อิจฉาริษยาที่ลูกชายดีกับกนกอรขนาดนี้
แม้ว่าสามีของเธอจะดีกับเธอมาก แต่ก็เป็นเพราะตอนที่แต่งงานกับเธอในปีนั้น สามีทะเลาะกับคุณพ่อสามีอยู่นานมากถึงจะสมปรารถนา หลังแต่งงาน สามีก็ขัดขืนเรื่องต่างๆที่เป็นความประสงค์ของคุณพ่อสามีน้อยมาก หลังจากที่ขอเครื่องประดับของคุณแม่สามีกับคุณพ่อสามีให้เธอ สามีก็ไม่ขออีกเลย
ตาเบศวร์สามารถขอมาได้ ถ้าหากว่าสามียอมขอกับคุณพ่อสามี จะต้องสามารถขอเครื่องประดับมาให้เธอใส่ได้เซตหนึ่งแน่นอน
“คุณแม่? คุณแม่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงครับ”
ในที่สุดนฤเบศวร์ก็เห็นแม่แท้ๆของตัวเองสักที
เขาเอ่ยเรียกด้วยความประหลาดใจก่อน จากนั้นก็ถามต่อว่า “คุณแม่ คุณแม่มาหาเรื่องกนกอรใช่มั้ยครับ”
บัณฑิตาก้าวขึ้นมา ตอบกลับอย่างไม่สบอารมณ์ “แม่ไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น แม่แค่ผ่านมาทางนี้ เลยเข้ามาดู ลูกอย่าเห็นว่าแม่อยู่ที่นี่ ก็คิดว่าแม่เข้ามาหาเรื่องเธอ นิสัยเธอ แม่ยังจะหาเรื่องเธอได้อีกหรอ”
“ไม่เคารพผู้อาวุโสเลยสักนิด”
บัณฑิตาบ่น
เทวิกาแย่งกนกอรตอกกลับบัณฑิตา “ผู้อาวุโส? ไม่รู้ว่าคุณณัฏฐาเป็นผู้อาวุโสคนไหนของกนกอร เข้ามาถึงก็ด่ากนกอรว่าเป็นโสเภณี พวกเราสาดน้ำใส่เธอกะละมังหนึ่งนั้นนับว่าเบาแล้ว นับว่าเธอหนีได้เร็ว ถ้าถูกฉันจับได้ ฉันจะตัดลิ้นเธอไปให้หมากินแน่นอน”
“มีลิ้นแล้วไม่รู้จักพูด ไม่สู้ตัดทิ้งเสียดีกว่า จะได้ไม่กินพื้นที่ในปาก”
“คุณเบศวร์ แม่คุณมาที่นี่แล้วยังไม่ได้ทำอะไร แต่ว่ามาอย่างไม่เป็นมิตร ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังพาคุณณัฏฐามาด้วย เห็นคุณณัฏฐาใช้คำพูดเหยียดหยามด่าทอกนกอร แม่คุณไม่เพียงแต่จะไม่ช่วยกนกอร ดีร้ายยังไงก็เคยเป็นลูกสะใภ้เธอ หรือว่าคนอื่นด่าลูกสะใภ้แล้ว เธอจะมีหน้ามีตาอย่างนั้นหรอ”
“เธอยังจะหันกลับมาตำหนิกนกอรว่าไม่เคารพคุณณัฏฐาที่เป็นผู้อาวุโส คุณณัฏฐาเป็นญาติฝ่ายไหนของครอบครัวคุณ? อย่าพูดเลยว่าไม่ใช่ญาติคุณ ไม่นับว่าเป็นผู้อาวุโสของกนกอร แม้ว่าจะเป็นญาติคุณ ตอนนี้กนกอรก็ยังไม่ได้แต่งงานกับคุณ วางมาดเป็นผู้อาวุโสต่อหน้ากนกอรให้น้อยๆหน่อยเถอะ”
“แถมยังจะให้กนกอรขอโทษยัยแก่สารเลวนั่นอีก คุณเบศวร์ แม่คุณ อะไรก็ไม่ได้เรื่อง ที่ได้เรื่องมากที่สุดคือกลับดำเป็นขาว ไม่สนถูกผิด”
คนแบบบัณฑิตา ถ้าไม่มีครอบครัวฝ่ายสามีให้การสนับสนุนอย่างแข็งแกร่ง จะยังใช้ชีวิตตามอำเภอใจเช่นนี้ได้อย่างไร
ถูกคนจัดการตายไปนานแล้ว
มิน่าบ้านสามตระกูลเดชอุปถึงได้กล้ำกลืนความโมโหนี้ไม่ลง มักจะหาโอกาสแย่งตำแหน่งและอำนาจตลอดเวลา
“เทวิกา!”
บัณฑิตาถูกการฟ้องของเทวิกาทำให้โมโหจนกระทืบเท้า
เหลือบไปเห็นดวงหน้าหล่อเหลาของลูกชายตัวเองที่มีอึมครึม บัณฑิตาก็รีบอธิบาย “ตาเบศวร์ ลูกอย่าฟังความจากเทวิกาข้างเดียว เธอกับกนกอรเป็นพวกเดียวกัน เธอเป็นภรรยาของยศพัฒน์ ยศพัฒน์กับลูกเป็นศัตรูกัน เธออยากให้พวกเราสองแม่ลูกทะเลาะกันใจจะขาด”
เทวิกาหัวเราะเสียงเย็น “คุณบัณฑิตาจะดูกล้องวงจรปิดมั้ยคะ ฉันสามารถให้คุณเบศวร์ดูเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ได้นะ”
บัณฑิตา : …
ตอนนี้กนกอรก็เอ่ยกับนฤเบศวร์ว่า “นฤเบศวร์ เครื่องประดับเซตนี้ล้ำค่าขนาดนี้ ฉันไม่ใส่หรอก เดิมวันนี้ฉันจะไปงานเลี้ยงเข้าสังคมเป็นเพื่อนคุณ แต่ก็เกิดเรื่องนี้ขึ้นมา ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจเกินไป ฉันจึงไม่สามารถแสร้งทำเป็นไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น แล้วไปงานเลี้ยงเข้าสังคมเป็นเพื่อนคุณได้จริงๆ”
“คุณรอก่อน ฉันจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้า คืนชุดราตรีชุดนี้ให้คุณ สวมชุดราตรีชุดนี้ทำให้ฉันถูกด่า ฉันไม่เคยอยู่ในสังคมชั้นสูง จึงไม่รู้ว่าสวมชุดราตรีที่คุณเอามาให้ฉันจะทำให้ถูกคนด่าว่าเป็นโสเภณี”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน