กนกอรพูดอย่างไม่มั่นใจว่า: “ฉันจำได้ว่าฉันเคยพูดไปแล้วนิ งั้นไม่เป็นไร ฟังดีๆนะ นฤเบศวร์ ฉันรักนาย!
นฤเบศวร์กอดเธอไว้แน่น “ฉันรักเธอมากกว่า รักเธอเท่าชีวิต!”
จะได้กลายเป็นสามีภรรยากันเร็วๆนี้ พวกเขาแสดงความรู้สึกต่อกันระหว่างทางไปที่ว่าการอำเภอ
ในระหว่างทางไปที่ว่าการอำเภอทักษอรก็โทรมา
“อร เธอกับเบศวร์ไปจดทะเบียนกัน ตอนเที่ยงพวกเธอจะกลับมาหรือไปทานอาหารที่บ้านของเขา ถ้ากลับมากินก็บอกแม่เร็วๆหน่อย แม่จะได้ไปซื้อผักเยอะๆและฆ่าไก่ตอนนี้เลย”
ความคิดของทักษอรเหมือนกับเบศวร์ แม้จะไม่จัดงานแต่งงาน แต่เมื่อจดทะเบียนสมรสแล้วก็คือแต่งงานกันแล้ว เป็นเรื่องที่น่ายินดีและต้องมีการเฉลิมฉลอง
สำหรับครอบครัวของพวกเขา การเฉลิมฉลองก็คือการฆ่าไก่ ซื้ออาหารเพิ่ม และทุกคนมานั่งกินอาหารอร่อยด้วยกัน
คู่ครองใหม่ต้องกินขาไก่ชิ้นโต
ขณะที่กนกรกำลังจะถามผู้ชายที่อยู่ข้างๆเธอ นฤเบศวร์ก็ตอบข้างหูเธอว่า: “แม่ครับ ตอนเที่ยงเราจะกลับไปกินที่บ้าน ผมจะบอกกับคุณปู่ด้วย และคุณปู่ของผมจะมาพร้อมกับพ่อแม่ของผมแน่นอน”
ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรสก็เปลี่ยนการเรียกก่อน ทักษอรรู้สึกไม่คุ้นชินเล็กน้อย เมื่อคิดว่านฤเบศวร์เคยเป็นลูกเขยของเธอมาแล้วครั้งหนึ่ง ไม่ได้เรียกเป็นครั้งแรก ทักษอรจึงยิ้มและพูดว่า: “ก็ได้ แม่จะไปซื้อผักตอนนี้ เบศวร์อยากกินอะไรบอกแม่ได้ แม่จะทำให้กิน”
“แม่ทำอะไรผมก็กินอันนั้นครับ ผมไม่เลือกกิน”
ที่บ้านแม่ยาย เขาไม่เลือกกินจริง
เขามีความสุขมากที่ได้กินข้าวด้วย
นฤเบศวร์รู้อยู่ในใจว่าตระกูลภูสิทธ์อุดเคารพการเลือกของกนกอร แต่จริงๆแล้วยังคงไม่ชอบลูกเขยอย่างเขาคนนี้สักเท่าไหร่
เขาจะกล้าเลือกกินได้ยังไง มีให้กินก็ไม่เลวแล้ว
“ตกลง ฉันจะไปซื้อของตามแผนของฉัน พวกเธอยังไม่ถึงที่ว่าการอำเภอเหรอ”
“ใกล้ถึงแล้วครัม”
“อืม แม่ไปซื้อผักก่อนล่ะ”
ไม่นานทักษอรก็วางสายโทรศัพท์
นฤเบศวร์หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา โทรหาปู่ของเขา และบอกว่าเขาจะไปทานข้าวที่บ้านตระกูลภูสิทธ์อุดม
คุณปู่เร็นว่า: “พ่อแม่ของหลานและปู่กำลังเดินทางไปบ้านสะใภ้แล้ว ลูกไม่จำเป็นต้องมาเตือนเราหรอก”
นฤเบศวร์สำลักและพูดกับปู่ว่า: “คุณปู่เร็วมากเลยครับ”
“ในที่สุดก็ขายหลานชายคนโตของฉันได้ ถ้าปู่ไม่รีบร้อน ปู่กลัวบ้านสะใภ้จะกลับคำและคืนสินค้า”
นฤเบศวร์: “......”
เขาวางสายไปทันที
กนกอรได้ยินสิ่งที่คุณปู่เร็นพูดด้วย และเธอก็เม้มปากและยิ้ม
เมื่อเห็นเบศวร์มองมา เธออยากจะหยุดหัวเราะ แต่เธอไม่สามารถควบคุมมันได้ จึงรีบเอามือปิดปาก หันหน้าไปมองข้างนอก เพื่อแสร้งทำเป็นว่ากำลังมองดูทิวทัศน์
“อยากหัวเราะก็หัวเราะไปเถอะ เพราะอย่างไรก็ตามฉันถูกเธอหัวเราะเยาะหลายครั้งจนชินไปแล้ว”
กนกอรหันศีรษะกลับมา ตบไหล่ของนฤเบศวร์แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “ไม่ต้องกังวล ครั้งนี้ฉันจะไม่คืนคำหรอก และจะไม่คืนสินค้าด้วย”
“ฉันต้องบันทึกเสียงไว้เป็นหลักฐาน”
นฤเบศวร์ที่เคยถูกคืนสินค้ามาแล้วครั้งหนึ่งเปิดฟังก์ชั่นการบันทึกเสียงของโทรศัพท์อย่างจริงจัง ให้กนกอรพูดยืนยันคำสัญญาอีกครั้ง และเขาก็บันทึกคำพูดสัญญาทั้งหมดของกนกอร จนทำให้กนกอรขำจนปวดท้อง
เพราะเขารักเธอมาก ดังนั้นเขาจึงกลัวเสียเธอไป
ด้วยฐานะของเขาแล้ว จริงๆเขาไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องการแต่งงานเลย
หลังจากหัวเราะ กนกอรก็เข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของเขาและพูดอย่างมีความสุขว่า: “นฤเบศวร์ ฉันจะรักนายตลอดไป แค่มีนายฉันก็รู้สึกว่าชีวิตของฉันมีสีสันและมีความสุขเป็นพิเศษ”
“เธอต่างหากเป็นคนที่เพิ่มสีสันเข้ามาในชีวิตฉัน”
นฤเบศวร์ก้มหัวของเขา จูบที่ริมฝีปากของเธอ กระชับแขนแล้วกอดเธอไว้อย่างแน่นหนาในอ้อมแขน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน