ยศพัฒน์อุ้มเด็กน้อยไปอย่างแข็งกร้าว เพราะกลัวเด็กน้อยจะหาของกินบนร่างกายของภรรยาเขา นั่นเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเขา
ถึงแม้จะเป็นเด็กน้อยอายุแค่หนึ่งขวบก็แย่งพื้นที่ส่วนตัวของเขาไม่ได้!
ถึงจะมีลูกในอนาคต หลังจากที่ลูกออกมาแล้ว เขาก็วางแผนจะให้ลูกกินนมผงอยู่แล้ว
แต่ถ้าเทวิกายืนยันที่จะให้ลูกกินนมแม่ เห็นแก่ที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา เขาสามารถให้เด็กๆ ครอบครองพื้นที่ส่วนตัวของเขาเป็นครั้งคราวได้
ส่วนลูกของคนอื่น ฝันไปเถอะ!
“ว๊าๆ ……”
เด็กน้อยร้องไห้อย่างหนัก และอยากเข้าไปหาเทวิกอีก แต่ยศพัฒน์ไม่ยอม ทำให้เด็กน้อยยิ่งร้องไห้หนักขึ้นไปอีก
“แม่ เขาดูแล้วไม่เหมือนเด็กโง่ แต่ทำไม……”
เห็นผู้หญิงก็คิดว่าเป็นแม่ จะหาของกิน
เทวิกากลัวว่าเด็กจะเป็นเด็กโง่ น่าจะมีปัญหาทางด้านสมอง เลยถูกคนในครอบครัวทอดทิ้ง?
ญาณินช่วยเกลี้ยกล่อมเด็ก แล้วพูดขึ้นว่า: “เขายังเด็ก น่าจะเป็นเพราะหิวมาก แล้วคิดว่าหนูเป็นแม่ เลยอยากหาของกิน”
เทวิกากึ่งเชื่อกึ่งสงสัย ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะจะส่งเด็กน้อยไปสถานีตำรวจ เธออยากพาเด็กน้อยไปตรวจอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลเหลือเกิน ตรวจดูว่ามีตรงไหนผิดปรกติหรือเปล่า
บนรถก็ไม่มีของกินเลย ทั้งสามคนจึงทำได้แต่เกลี้ยกล่อมไม่ให้เด็กน้อยร้องไห้
เด็กที่หิว นอกจากร้องไห้ก็คือร้องไห้ เกลี้ยกล่อมยังไงก็ไม่สำเร็จ
“คนขับรถ ขับเร็วหน่อย”
ญาณินอุ้มเด็กน้อยมาจากลูกเขยอย่างสงสาร แล้วเร่งให้คนขับรถขับเร็วกว่านี้อีกหน่อย
เมื่อเด็กน้อยร้องไห้จนเหนื่อย จึงนอนหลับไปในอ้อมกอดของญาณิน และยังคงมีน้ำตาอยู่บนใบหน้าของเขา
ญาณินช่วยเขาปาดน้ำตาออกอย่างสงสาร ช่างบาปกรรมจริงๆ เด็กเล็กขนาดนี้ก็โยนทิ้งไว้บนข้างถนน
ทำให้เธอนึกถึงวิกา ตามที่สิรภพเล่าให้ฟัง ตอนนั้นวิกาก็ถูกทิ้งไว้ในร่องน้ำข้างถนนเหมือนกัน เนื่องจากเธอร้องไห้ไม่หยุดสิรภพได้ยินเสียง จึงเก็บเธอไปที่บ้านเลี้ยงเหมือนลูกสาวตัวเอง และเติบโตขึ้นมาอย่างมีความสุขที่บ้านตระกูลวาชัยยุง
บางที อาจเป็นเพราะเหตุนี้ เด็กน้อยคนนี้ถึงชอบวิกามาก เห็นวิกาเป็นแม่
“วิกา ถ่ายรูปหน่อย แล้วส่งให้พี่ชายหนู ให้พี่ชายหนูตรวจสอบอย่างละเอียดให้หน่อย”
ญาณินเก็บความคิดที่คิดไปไกลกลับคืนมา แล้วสั่งลูกสาวออกมาอย่างอ่อนโยน
เทวิกาตอบอืมออกมา แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปของเด็กน้อย จากนั้นส่งไปให้พี่ชาย
เมื่อประยสย์ได้รับรูปถ่ายที่น้องสาวส่งมา เขารีบโทรศัพท์ทันที เมื่อเทวิการับโทรศัพท์ขึ้นมา เขาได้ถามออกมาว่า: “วิกา เด็กคนนี้ลูกใครเหรอ?คงไม่ใช่ลูกนอกสมรสที่ยศพัฒน์เลี้ยงไว้ข้างนอกหรอก?ไอ้หมอนั้น เขากล้าทำเรื่องผิดต่อเธอเหรอ……”
ยศพัฒน์ที่อยู่เฉยๆ ก็โดนลูกหลงได้แย่งโทรศัพท์มาจากมือของภรรยา แล้วอธิบายออกมาอย่างจริงจังว่า: “พี่ เด็กของนี้เก็บมา ไม่ใช่ลูกนอกสมรสของผม ผมไม่มีทางมีลูกนอกสมรสเด็ดขาด มีแต่ลูกในสมรสเท่านั้น”
ประยสย์โล่งใจออกมา “เก็บมาเหรอ?ยศพัฒน์ ขอโทษด้วย จินตนาการของผมมันเยอะไปหน่อย เลยโทษไปที่ตัวคุณก่อน ไม่ใช่ลูกนอกสมรสของคุณก็ดีแล้ว เก็บได้เหรอ?พวกคุณเก็บเด็กอ้วนคนนี้ได้ที่ไหน?เหมือนเด็กน้อยร่ำรวยที่วาดในปฏิทินปีใหม่ อ้วนท้วนสมบูรณ์ น่ารักจริงๆ”
แต่ก็ไม่ใช่อ้วนมากแบบนั้น สรุปก็คือ น่ารัก
“ผมกับวิกาพาแม่ไปเอารถที่ร้าน 4S เก็บเด็กน้อยได้ระหว่างทาง ตอนนั้นเด็กนั่งอยู่ข้างถนน รอบข้างก็ไม่มีผู้ใหญ่อยู่ด้วย และไม่มีของใช้อย่างอื่น แม้แต่แพมเพิสก็ยังไม่มีเลย ไม่รู้ว่าเป็นลูกของบ้านไหน ไม่รู้ว่าถูกคนอื่นจงใจทิ้งไว้ข้างถนนหรือถูกพ่อแม่ทอดทิ้ง”
“พี่ พี่ช่วยตรวจสอบดูว่าเมืองซูเพร่ามีคนทำเด็กหายไหม”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ประยสย์ก็รู้สึกว่าเรื่องนี้แปลกประหลาด เด็กคนนี้หน้าตาน่ารักขนาดนี้ ดูแล้วก็แข็งแรงดี คนเป็นพ่อแม่จะทิ้งลูกได้ยังไง?นั่นก็คือถูกคนอุ้มไป แล้วจงใจทิ้งไว้ข้างถนน
ฉากนี้รู้สึกคุ้นเคยมาก ใช่แล้ว เหมือนน้องสาวในตอนนั้น
“ได้ เดี๋ยวผมให้คนไปตรวจสอบดู ตอนนี้พวกคุณเตรียมตัวจะไปเอารถใช่ไหม?ให้คนของร้าน 4Sส่งรถไปที่บ้านก็ได้ ไม่ต้องไปเอารถด้วยตัวเองหรอก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน