“ที่รัก คุณนึกถึงเรื่องที่ยศพัฒน์ตกแต่งสวนของเขาให้เหมือนสวนดอกไม้ใช่ไหม?ไอ้หมอนั่น แค่ให้ดอกไม้ก็ต้องให้จนโลกตะลึง แย่งซีนผมไปหมอ”
ให้ภรรยาของเขาจดจำฉากที่มีดอกไม้สีสันสวยงามเต็มสวนขึ้นใจ
โชคดี ที่ยศพัฒน์เป็นผู้ชายที่แต่งงานแล้ว
ไม่อย่างนั้น นฤเบศวร์คงต้องหึงหวงตายเลย แถมต้องกังวลภรรยาถูกคนอื่นแย่งไปอีก
“แสดงว่าเซลล์ความโรแมนติกของคุณสู้เขาไม่ได้”
นฤเบศวร์: “……”
“บางครั้งคุณก็ลอกเลียนแบบเขาเหมือนกัน ถึงแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แต่ก็แค่เปลี่ยนน้ำไม่เปลี่ยนยา”
นฤเบศวร์: “……ที่รัก ดูเหมือนคุณจะชื่นชมยศพัฒน์มากเลยนะ?”
“ฉันชื่นชมคุณยศพัฒน์จริง แต่ฉันชื่นชมคุณมากกว่า พอแล้ว อย่ามาหึงหวงไปเรื่อยเลย เป็นของคุณทั้งกายทั้งใจไปแล้ว แถมจดทะเบียนสมรสเรียบร้อยกันแล้วอีกด้วย ยังจะมากลัวฉันบินหนีไปอีกเหรอ?”
นฤเบศวร์ถึงเปลี่ยนจากหดหู่เป็นดีใจ ยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า: “กลัวคุณบินหนีไปจริง บนอินเทอร์เน็ตเขาพูดกันว่า เมื่อก่อนข้าวสารหุงสุกก็กลายเป็นของคุณแน่นอน แต่ตอนนี้หุงจนเละก็ไม่ใช่ของคุณเสมอไป”
กนกอรหัวเราะออกมาไม่หยุด และถูกคำพูดของเขากล่อมจนอบอุ่นหวานเต็มหัวใจ จนทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าไม่จางหายไปสักที
เมื่อเดินออกมานอกบ้าน กนกอรก็เห็นรถคันใหม่จอดอยู่ที่ลานสวน บนตัวรถมีริบบิ้นมัดเหมือนดอกไม้หุ้มรถไว้ และบนฝากระโปรงรถก็ได้วางช่อดอกกุหลาบสีแดงไว้ข้างรถบนอีกด้วย
“ที่รัก นี่คือรถที่ผมให้เป็นของขวัญกับคุณ คุณรับปากกับคุณปู่แล้วว่าจะไม่ปฏิเสธผม”
รถ คือคันเดียวกันกับครั้งที่แล้ว เพียงแต่ว่าครั้งที่แล้วไม่ได้ส่งมอบออกไป เก็บไว้ในโรงเก็บรถของตระกูลเดชอุปมาตลอด
นฤเบศวร์ส่งมอบรถคันใหม่คันนั้นให้ภรรยาอีกครั้ง
เขาเดินออกไป อุ้มดอกกุหลาบช่อใหญ่นั้นขึ้นมา แล้วเดินไปตรงหน้ากนกอร ยื่นไปให้เธอด้วยสายตารักใคร่ บวกกับกุญแจรถใหม่พวงหนึ่ง
ฐานะไม่เหมือนเดิม สภาพจิตใจไม่เหมือนเดิม สายตาที่มองดูรถคันนั้นก็ไม่เหมือนเดิม
ครั้งแรก กนกอรรู้สึกว่ารถหรูราคาแพงเกินไป เธอไม่ได้ทำอะไรเลยไม่อยากรับมันไว้ ไม่มีแม้กระทั่งใบขับขี่ด้วยซ้ำ แต่ครั้งนี้ เธอยิ้มปากกว้างอย่างดีใจ
ในขณะที่รับช่อดอกไม้และกุญแจรถ ได้เดินไปข้างหน้าและเดินวนดูรอบๆ รถมาเซราติคันใหม่ ยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า "รถคันนี้ ให้ฉันเหรอ?”
“ใช่ ให้คุณ คุณขับรถคันนี้ไปก่อน ผมได้จองรถคันใหม่ไว้ให้คุณอีกหลายคัน รอให้รถส่งมาก่อน คุณชอบคันไหนก็ขับคันนั้น ใช่แล้ว ผมได้ซื้อรถอีกคันให้พี่ชายเหมือนกัน ให้เป็นของขวัญพี่ชาย เพื่อสะดวกพี่เขาขับรถพาพ่อแม่และคุณปู่มาเที่ยวหาที่บ้าน”
นฤเบศวร์เห็นภรรยาดีใจ เขาก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข จึงได้พูดออกมาว่าตัวเองซื้ออะไรไปบ้าง
“คฤหาสน์ที่อยู่ข้างๆ บ้านเรา คุณเคยสังเกตไหม?ผมซื้อมันแล้ว ยกให้คุณพ่อคุณแม่ ให้พวกเขาย้ายไปอยู่ที่นั่น แบบนี้คุณจะได้กลับบ้านแม่คุณได้สะดวกขึ้น”
กนกอรหยุดลง แล้วมันไปมองเขา
เมื่อนฤเบศวร์เห็นเธอไม่พูดอะไร รู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมาทันที จึงถามออกมาอย่างระวังว่า: “ที่รัก คุณไม่พอใจเหรอ?”
“ผมไม่รู้ว่าพ่อแม่ฉันจะยอมรับคฤหาสน์หลังนั้นไว้หรือเปล่า เมื่อถึงตอนนั้นคุณคงต้องเกลี้ยกล่อมพวกเขาหน่อย ถ้าพวกเขาไม่รับไว้ ผมจะโอนให้เป็นชื่อของคุณ แล้วคุณค่อยให้พ่อกับแม่ย้ายเข้าไปอยู่ บางทีถ้าทำแบบนี้พวกเขาอาจรู้สึกสบายใจกว่า”
“อร ผมไม่เคยมีความรู้สึกว่าพ่อแม่คุณเอาเปรียบผม นี่เป็นความกตัญญู ของผมที่เป็นลูกเขย บ้านกับรถสำหรับผมแล้ว ไม่ได้แพงเลย จริงๆ”
เวลาต่อมา กนกอรวางดอกไม้ช่อนั้นลงบนรถ จากนั้นหันหน้าโผเข้าไปในอ้อมกอดเขา ในขณะที่เขาเพิ่งพยุงตัวภรรยาที่โผกอดเขาให้ทรงตัวได้นั้น ก็ถูกภรรยาจับหน้าไว้ แล้วเริ่มจูบเขาขึ้นมาก่อน จูบอย่างเสน่ห์หาทำเขาวิงเวียนไปหมด จูบจนจิตใจเตลิดเปิดเปิงไปหมด อยากร่วมรักกับเธอตอนนี้เลยสักครั้ง
ผ่านไปสักพัก กนกอรพูดขอบคุณเขาออกมา: “ที่รัก ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง ที่คุณทำให้ แต่ว่าพ่อแม่ฉันไม่มีทางรับคฤหาสน์ที่คุณมอบให้แน่นอน พี่ชายฉันอาจไม่รับรถที่คุณให้ก็ได้ เพราะตอนนี้เขามีรถอยู่แล้ว”
กนกอรเข้าใจนิสัยของคนในครอบครัวดี ไม่มีทางรับของขวัญชิ้นใหญ่จากคนอื่นหรอก ถึงแม้จะเป็นลูกเขยของพวกเขา ก็ไม่มีทางรับเรื่อยเปื่อยแน่นอน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน