แค่ประยสย์ได้ฟังก็รู้แล้วว่าคนเก่งๆอย่างนี้คงไม่ใช้ประโยชน์จากเขาหรอก
โชคดีที่คุณชุติภากับกัญณิศารู้จักกัน วันหน้าถ้ามีเรื่องที่ต้องไหว้วานคุณชุติภา จะได้ขอให้กัญณิศาช่วยออกหน้าชักชวนให้หน่อย
กัญณิศาไม่ได้บอกประยสย์ว่าชุติภาก็คือผู้หญิงที่นอนกับณภัทร
ในเมื่อชุติภาไม่ยินยอมพูด ตอนแรกแม้กระทั่งสืบหาก็ไม่ยอมให้เธอสืบ กว่าชุติภาจะเชื่อใจเธอ ยอมรับว่าเคยนอนกับณภัทร กัญณิศาจึงต้องช่วยชุติภารักษาความลับอยู่แล้ว
“ประยสย์ คุณนอนหน่อยเถอะ”
กัญณิศายังคงสงสารที่ประยสย์ได้รับบาดเจ็บ
ไม่ได้นอนมาทั้งคืน ประยสย์ก็ง่วงเช่นกัน
ช่วงนี้ ประยสย์นอนน้อย แต่ตอนนี้สงครามระหว่างตระกูลเลิศธนโยธาจบลงแล้ว เขาจึงสามารถหลับได้อย่างสบายใจสักตื่น
“ก่อนคุณตื่น ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น แต่ถ้าก่อนบ่ายสอง คุณยังหลับอยู่ ฉันก็ต้องไป ให้พี่ฉันรู้เรื่องพวกนี้ไม่ได้”
ประยสย์จึงรีบฝันถึงโจวกงซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งความฝัน
เขาที่ง่วงสุดขีด ไม่นานก็โดนโจวกงล่อลวงไปแล้ว
กัญณิศาไม่ได้ออกไปจากห้องคนไข้ เฝ้าประยสย์อยู่ในห้องคนไข้ตลอด จริงๆเธอก็ง่วงแล้ว ตอนที่เฝ้าประยสย์ เธอก็สัปหงกเช่นกัน
เทวิกาคิดจะมาดูพี่ชายอีกครั้ง จึงเปิดประตูเบาๆก็เห็นพี่ชายหลับไปแล้ว แม้กระทั่งกัญณิศาเองก็งีบหลับไปด้วย เธอจึงถอยออกมาเงียบๆ กำลังจะปิดประตู แต่กัญณิศากลับลืมตาขึ้นมาทันที เห็นว่าเป็นเทวิกา สายตาที่แข็งกร้าวดุดันของเธอจึงเปลี่ยนเป็นอ่อนโยน
“วิกา”
กัญณิศาลุกขึ้น เดินออกไป
เทวิกากอดเธอด้วยความซาบซึ้งใจ
หลังจากที่กัญณิศากอดกับเธอสักพัก จึงตบๆที่บ่าเทวิกา พูดด้วยรอยยิ้ม: “ใกล้ถึงวันแต่งงานของกนกอรแล้ว ในที่สุดเธอก็ได้กลับไปร่วมงานแต่งอย่างสบายใจสักทีนะ ไหนจะ งานแต่งของเธอกับคุณพัฒน์อีกต้องเตรียมการแล้วสินะ”
“ณิศา ขอบคุณนะ”
กัญณิศาหัวเราะอย่างเบิกบาน: “ฉันไม่ได้ทำเพื่อเธอ ฉันชอบพี่ชายเธอต่างหาก รู้สึกดีกับพี่ของเธอ จึงทนเห็นพี่เธอจากไปไม่ได้ เธอไม่ต้องซึ้งใจฉันหรอก”
เทวิกาก็หัวเราะ “เธอช่วยพี่ฉันก็เท่ากับช่วยฉัน ช่วยทั้งครอบครัวของฉันนั่นแหละ”
“ตัวตนของฉันยังหวังให้เธอช่วยเก็บเป็นความลับอยู่นะ”
“นี่มันแหงอยู่แล้ว”
เทวิกายังจำเรื่องที่คุณย่าจะจับคู่ณิศากับพี่ชายในบ้านได้ ก็ให้กัญณิศาตบหน้าหญิงแก่ด้วยตัวเองแล้วกัน
“พี่ฉันหลับแล้วเหรอ?”
“หลับแล้ว ช่วงนี้เขาคงไม่ได้นอนเต็มที่สินะ ความอ่อนเพลียบนใบหน้าชัดเจนขนาดนั้น รอยคล้ำใต้ตาก็ด้วย”
ในคำพูดของกัญณิศาที่มีต่อประยสย์เต็มไปด้วยความสงสารทั้งนั้นเลย
เธอยินยอมถอดหน้ากากต่อหน้าประยสย์ ยอมรับว่าตนเองคือกัญณิศาแล้ว ก็เพราะชอบประยสย์แล้วน่ะสิ
ประยสย์เองก็ชอบเธอเช่นกัน
พอดีเลยที่ทั้งสองฝ่ายชอบพอกัน
“ช่วงนี้พี่ฉันเหนื่อยมาก ทั้งยังแบกรับภาระมากเกินไปด้วย”
อันที่จริงว่าที่ผู้นำตระกูล ภาระหน้าที่ก็ไม่ได้น้อยไปกว่าพ่อเลย
เทวิการู้สึกว่าตนเองไม่สามารถช่วยอะไรพ่อกับพี่ได้ ถ้าจะพูดถึงประโยชน์จริงๆก็คงเป็นสองสามีภรรยาที่คอยเฝ้าดูแลพ่ออยู่ที่โรงพยาบาล ไม่ยอมให้พสธรแอบเข้ามาทำร้ายลอบฆ่าได้สำเร็จนี่แหละ
“วิกา เธอก็ต้องพักผ่อนด้วยนะ สภาพเธอไม่ได้ดีไปกว่าพี่เธอเท่าไหร่หรอก”
เทวิกาหัวเราะ “ฉันไม่เป็นไร ฉันต้องไปรับแม่ที่สนามบินน่ะ”
“งั้นเธอไปรับน้าณินเถอะ ระวังตัวด้วย”
เทวิกาอืมตอบรับ
มองพี่ชายที่กำลังหลับสนิทอยู่บนเตียงอีกครั้ง เธอถึงได้หมุนตัวเดินไป
สนามบินเมืองซูเพร่า
ญาณินอยากมาที่นี่ตั้งแต่แรกแล้ว ทว่ากลับโดนรั้งเอาไว้จนถึงตอนนี้ กว่าจะได้กลับมาที่เมืองซูเพร่าอีกครั้ง ประยสย์นี่แหละที่ขอร้องให้ตระกูลอริยชัยกุลทางฝั่งนั้นรั้งแม่เอาไว้ ไม่ยอมให้แม่กลับมาเสี่ยงอันตรายด้วย
ตอนนี้เรื่องราวจบลงแล้ว ญาณินถึงได้ขึ้นเครื่องบิน โดยมีเซทท์กับณภัทรคอยคุ้มกันกลับมาส่งที่เมืองซูเพร่า
เครื่องบินลงสู่พื้นดิน ญาณินจึงเอามือถือมาปิดโหมดเครื่องบิน รีบโทรออกไปหาลูกสาว
เทวิกาที่กำลังหลับอยู่บนรถ ได้ยินมือถือดังขึ้น เธอจึงสะดุ้งตื่นจากความฝัน รับโทรศัพท์อย่างรีบร้อน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน