เทวิกาตื่นขึ้นเห็นแม่ก็ทั้งประหลาดใจทั้งดีใจ
รีบถามทันทีว่า “แม่คะ พ่อหนูล่ะคะ พ่อออกจากโรงพยาบาลแล้วเหรอคะ ทำไมทุกคนไม่บอกหนูเลย หนูจะได้ตื่นแต่เช้าไปรับพ่อที่โรงพยาบาล”
ญาณินยิ้มและพูดว่า “พ่อของลูกออกจากดรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อคืนและกลับบ้านไปแล้ว พ่ออยู่ที่คฤหาสน์เก่า แม่เป็นห่วงลูกก็เลยมาดู อีกเดี๋ยวก็จะกลับไปอยู่ดูแลพ่อของลูกแล้ว”
เทวิกากระพริบตาแล้วถามว่า “ออกจากโรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อคืน? หรือว่าพวกลุงรองกับลุงสาม...”
ญาณินลูบใบหน้าของลูกสาว ในแววตาของเธอเต็มไปด้วยความรักและสงสาร แต่ก็มีความสุขมากเช่นกัน
เธอโชคดีที่สามารถตามหาลูกสาวของเธอกลับมาได้อีกครั้งในตอนที่ตัวเองยังมีชีวิตอยู่ โชคดีที่ลูกสาวได้บังเอิญเจอคนดี ๆ และเติบโตมาอย่างปลอดภัย
“ทุกอย่างจบแล้ว”
“จบแล้วเหรอคะ” เทวิกาตกตะลึง เธอแค่นอนหลับไปตื่นเดียวเท่านั้น ทันทีที่ตื่นขึ้นมา ทุกอย่างก็จบลงแล้วเหรอ
“พวกลุงรองกับลุงสามถูกตำรวจจับตัวไปหมดแล้ว พ่อของลูกมีหลักฐาน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหลักฐานจากอาสะใภ้สามของลูกที่ทำให้หลักฐานมีน้ำหนัก ทำให้พวกเขาไม่สามารถโต้เถียงได้ แล้วพวกคนอื่นในตระกูลที่มือยืดมือยาวก็โดนพาตัวไปด้วยเหมือนกัน”
ตอนนี้เกรงว่าผู้อาวุโสในตระกูลคงจะแห่ไปโวยวายที่คฤหาสน์กันแล้วแน่ ๆ
เมื่อคืนญาณิณอารมณ์ไม่ค่อยดี เธอจึงกลับมาที่นี่ เข้ามานั่งในห้องนอนของลูกสาวและหลังจากได้นั่งก็นั่งมาจนถึงรุ่งเช้า
ดีที่ลูกเขยไม่ถือสาเธอ และไม่ได้กล่าวโทษแม่ภรรยาคนนี้ที่ทำให้เขาไม่ได้กลับเข้ามานอนพักผ่อนที่ห้องนอน
ตอนนี้เธอควรจะกลับไปหาไซม่อนที่คฤหาสน์เก่าแล้ว
“จริงเหรอคะ”
เทวิกาดีใจสุดขีด ในที่สุดก็กำจัดพวกน่ารำคาญพวกนั้นไปได้สักที
ต่อไปครอบครัวของเธอก็จะได้อยู่กันอย่างสงบสุขสักที
ญาณิณพยักหน้าเบา ๆ
“แม่คะ”
เทวิกาโผเข้ากอดแม่ “ทุกอย่างจบแล้ว ต่อไปครอบครัวของเราก็จะอยู่อย่างสงบสุขกันสักที แม่กับพ่อก็จะได้ชดเชยความอบอุ่นที่ขาดหายไปในช่วงที่ผ่านมาไงคะ หรือว่าแม่กับพ่อไปเที่ยวด้วยกันดีไหมคะ”
“ไว้หลังตรุษจีนค่อยว่ากันใหม่นะ เรื่องที่บ้านจัดการเรียบร้อยแล้ว ลูกกับพัฒน์ก็ต้องจัดงานแต่งงานแล้ว ฉะนั้นพ่อกับแม่จะไม่ไปไหนทั้งนั้น จะอยู่ช่วยเตรียมสินสอดให้ จะจัดให้งานแต่งงานของลูกออกมาอลังการงานสร้างเลย”
เทวิกาแลบลิ้นอย่างซุกซน “หนูลืมไปเลยว่าหนูกับพัฒน์ต้องจัดงานแต่งงาน แม่คะ ในเมื่อเรื่องที่บ้านก็จัดการเรียบร้อยทุกอย่างแล้ว แม่กับพ่ออยากจะไปร่วมงานแต่งงานของกนกอรที่เมืองแอคเซสซ์ไหมคะ”
หลังจากญาณิณคิด ๆ ดูแล้วก็ตอบไปว่า “คงไม่ได้ไปหรอก ถึงแม้ว่าจะจับพวกเขาได้แล้ว แต่พ่อของลูกก็ยังมีเรื่องอื่นที่ต้องจัดการอีก จริงสิ พ่อของลูกเตรียมของขวัญแต่งงานใหม่ไว้ให้กนกอรกับสามีด้วยนะ อีกเดี๋ยวให้พัฒน์กลับไปเอามาไว้แล้วกัน เดี๋ยวพวกลูกก็เอาของขวัญกลับไปมอบให้กนกอรแทนคำแสดงความยินดีของพ่อนะ”
นฤเบศวร์ก็ช่วยพวกเขาไว้มากเหมือนกัน จึงนับว่าเป็นหนี้บุญคุณนฤเบศวร์อยู่
เทวิกาผิดหวังเล็กน้อยแต่ก็เข้าใจการตัดสินใจของพ่อแม่เหมือนกัน
“แม่คะ ตอนนั้นใครเป็นคนช่วยวรันธรพาตัวหนูไปคะ”
หลังจากเทวิกาผละออกจากตัวแม่แล้วก็เอ่ยถามขึ้นมาเบา ๆ
ญาณิณพูดอย่างเกลียดแค้นว่า “ลุงรองกับภรรยาของเขา”
เทวิกาทั้งประหลาดใจและก็ไม่ประหลาดใจ
เมื่อเทวิกาเห็นว่าแม่ยังคงเกลียดแค้นไม่หาย เทวิกาก็รีบโผเข้าไปกอดแม่และปลอบโยนเธอ “แม่คะ ทุกอย่างจบลงแล้ว และตอนนี้ครอบครัวของเราสี่คนได้กลับมารวมกันอีกครั้ง และพวกเขาได้ชดใช้ความผิดของพวกเขาแล้ว เราต้องมองไปข้างหน้า ต่อไปครอบครัวของเราทั้งสี่คนจะอยู่กันอย่างมีความสุขนะคะ”
ญาณินพยายามระงับความโกรธเอาไว้ และผลักลูกสาวออกเบา ๆ แล้วพูดว่า “ในชีวิตนี้คนที่แม่รู้สึกขอบคุณมากที่สุดนอกจากตากับยายของลูกแล้ว ก็คือพ่อแม่บุญธรรมของลูก ถ้าไม่ใช่พวกเขาเจอและเก็บลูกมาเลี้ยงดู พวกเราสองแม่ลูกคงต้องแยกจากกันตลอดไป”
ตอนนั้นเทวิกาอายุเพียงขวบครึ่ง ถูกทอดทิ้งไปถึงนอกเมือง ถ้าไม่ใช่เพราะมีคนมาเจอและเก็บไปเลี้ยงคงได้หิวอดตายแน่ ๆ
สิรภพสองสามีภรรยานับว่าเป็นพ่อแม่ที่ทำให้เทวิกาได้เกิดใหม่ บุญคุณมากล้นเท่าฟ้า
“วิกา กลับไปแล้วต้องกตัญญูกับพ่อแม่ของลูกนะ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ให้กำเนิดลูกมา แต่พวกเขาเลี้ยงดูลูกมาจนโต ลูกไม่ต้องห่วงว่าพ่อกับแม่จะถือสาที่ลูกใกล้ชิดสนิทสนมกับพวกเขามากเกินไป ลูกเป็นลูกของพวกเรา และเป็นลูกสาวของพวกเขาด้วยเหมือนกัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน