บนชั้นสามของร้านนั่งชิลล์ นับหนึ่งกับธีร์กำลังจูงมือกันเดินออกมาจากห้องด้วยท่าทีสนิทสนมเหมือนคู่รักทั่วไป จากนั้นก็เดินลงไปยังชั้นล่าง
ทางด้านกฤตก็ขับรถเข้ามา จอดรถลงตรงหน้าร้านนั่งชิลล์ พอรถจอดสนิทแล้ว กวินก็ยื่นมือออกไปเปิดประตูก้าวลงจากรถ แล้วเดินเข้ามาในร้านด้วยท่าทางเคร่งขรึมสุขุม รูปร่างสูงโปร่งดูภูมิฐานส่งให้บุคลิกของเขาดูสง่าผ่าเผยอย่างน่าเกรงขาม
เขาผลักประตูเข้าไปโดยไม่สนใจป้ายที่ติดหน้าร้านที่เขียนว่า ปิดแล้ว เลยแม้แต่น้อย
เจนกับมีมี่แล้วก็ครีมต่างก็เงยหน้าขึ้นพร้อมกัน มองไปยังคนที่ผลักประตูเดินเข้ามาในร้านด้วยสีหน้าที่ดูตกใจ
มีมี่จ้องมองร่างสูงสง่าตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วบ่นพึมพำออกมาเบาๆ
" เอาแล้ว บรรลัยล่ะงานนี้ "
และในจังหวะที่กวินเดินเข้ามานั้น ธีร์กับนับหนึ่งก็กำลังเดินจูงมือกันลงบันไดมาพอดี ทำให้สีหน้าของทั้งสามดูเข้มขึ้นทันทีที่เผชิญหน้ากัน
เมื่อสายตาของกวินจรดลงบนมือใหญ่ที่กำลังจูงมือเรียวเล็กของนับหนึ่ง คิ้วของเขาก็ขมวดเข้าหากันทันที แววตาคมกริบของเขาหรี่ลง จับจ้องไปยังมือทั้งสองอย่างเงียบๆแบบไม่กะพริบ
ธีร์จับมือนับหนึ่งแน่นขึ้นราวกับจะไม่ปล่อยเธอไปอีกแล้ว แววตาสุขุมของเขาจ้องไปยังกวินอย่างไม่เกรงกลัว
ส่วนสายตาของกวินก็มองไปยังมือใหญ่ที่กำลังกุมมือเล็กไว้แน่นอย่างไม่ยอมละสายตา ในใจเต็มไปด้วยความหึงหวงโดยไม่รู้ตัว
เขารู้สึกโกรธจนแทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้ แววตาสุขุมค่อยๆแข็งกร้าวขึ้นมาอย่างดุดัน
นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเยือกเย็นจนทุกคนรู้สึกหนาวเย็นไปถึงกระดูก
เมื่อสองเจ้าป่าเผชิญหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมใคร ทำให้ทุกคนหวาดหวั่นในใจพร้อมกับลุ้นว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นต่อ
กฤตเดินเข้ามาในร้านเห็นเจ้านายยืนจ้องนับหนึ่งกับคุณธีร์ จึงเดินเข้าไปใกล้เจ้านายแล้วเอ่ยถามขึ้นเสียงเบา
" ท่านประธานจะมาดื่มชาพักผ่อนหย่อนใจไม่ใช่เหรอครับ "
เมื่อได้ยินลูกน้องคนสนิทเอ่ยแบบนั้น เขาก็ละสายตาจากนับหนึ่งกับธีร์แล้วหันมาเอ่ยกับพนักงานตรงเคาน์เตอร์
" เอากาแฟร้อนสองที่ "
" ขะ ค่ะ "
ครีมเอ่ยตอบรับตะกุกตะกักอย่างลืมตัว ทำให้มีมี่กับเจนต่างหันขวับไปมองหน้าเขาพร้อมกันแบบอึ้งๆงงๆ
ครีมได้สติ ก็ได้กะพริบตาปริบแล้วหันไปมองเพื่อนแล้วยิ้มแหยออกมาอย่างกระอักกระอ่วมใจ
กวินเห็นดังนั้นจึงเหยียดยิ้มมุมปากเล็กน้อย แล้วเดินขึ้นบันไดเพื่อขึ้นไปนั่งบนชั้นสองของร้าน
ในจังหวะที่กำลังเดินสวนธีร์กับนับหนึ่ง เขาก็คว้าข้อมือของนับหนึ่งมาจับไว้แล้วจ้องหน้าธีร์ด้วยแววตาเคร่งขรึมเย็นชาอย่างเอาเรื่อง
นับหนึ่งเองหันไปมองหน้าเขาด้วยความตกใจและรู้สึกอึดอัดลำบากใจอย่างมาก
เธอเกรงใจธีร์กลัวเขาจะคิดมากและรู้สึกไม่ดีกับการกระทำของกวิน
เธอจึงตั้งสติพร้อมกับปรับสีหน้าให้กลับมาเรียบเฉยตามปกติแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา
" คุณกวิน ปล่อยมือฉันค่ะ "
ธีร์จ้องหน้ากวินด้วยแววตานิ่งเฉยเย็นชาอย่างเงียบๆแล้วเอ่ยขึ้นเสียงเรียบอย่างสะกดกลั้นอารมณ์
" วันนี้ร้านปิดแล้ว ไม่สะดวกที่จะรับลูกค้าอีก เชิญคุณกวินกลับไปก่อนครับ "
เอ่ยจบ เขาก็เลื่อนสายตามองต่ำลงบนมือของกวินที่จับข้อมือนับหนึ่งแน่น จากนั้นก็ย้ายสายตากลับมามองหน้ากวินแล้วเอ่ยต่อเสียงเรียบ
" แล้วก็ ช่วยให้เกียรติคุณนับหนึ่งด้วยครับ ถึงแม้ว่าเธอจะเซ็นสัญญากับทางบริษัทของคุณไปแล้ว แต่คุณก็ไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้กับเธอทั้งในที่ส่วนตัวและในที่สาธารณะ "
เมื่อได้ยินดังนั้น กวินก็ยิ้มเย็นออกมาที่มุมปากด้วยแววตาสุขุมเยือกเย็น เขาจ้องหน้าธีร์อย่างท้าทายแล้วเอ่ยออกมาเสียงเย็นพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้น
" งั้นเหรอ "
เขาเอ่ยเพียงสั้นๆ จากนั้นก็ดึงนับหนึ่งเข้ามาชิดแผงอกพร้อมกับโอบไหล่เธอไว้แน่น จ้องมองหน้าธีร์อย่างยั่วยุ
นับหนึ่งที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาก็พยายามดิ้นและผลักเขาออก
" นี่คุณกวิน คุณเป็นบ้าอะไรของคุณน่ะ ปล่อยนะ "
เธอเอ่ยออกมาอย่างหน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยความโมโหและรู้สึกไม่ชอบใจในการกระทำที่เอาแต่ใจของกวินเลย
กวินมองลงมาบนใบหน้าของคนในอ้อมกอดแล้วเอ่ยตอบออกมาเสียงเย็นด้วยสีหน้าสุขุม
" ใช่ ผมเป็นบ้าและที่ผมเป็นบ้าแบบนี้ก็เพราะคุณไง คุณก็รู้ว่าผมชอบคุณ แล้วคุณจะจับมือถือแขนกับผู้ชายคนอื่นอย่างสนิทสนมต่อหน้าผมทำไม "
เขาหลุดปากเอ่ยออกมาตามความรู้สึกที่มีในใจอย่างไม่รู้ตัว
ทันทีที่เห็นเธอยอมให้ชายอื่นจับมือ มันก็ทำให้เขาไม่ชอบใจแล้วและรู้สึกโมโหมากที่เห็นผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่เขาจับมือนับหนึ่งด้วยความรักใคร่อย่างสนิทสนมแแบั้น
พอทุกคนในร้านได้ยินประธานกวินแห่งธนินกรุ๊ปผู้หยิ่งทะนงเอ่ยออกมาแบบนั้น ก็พากันยืนอึ้ง จ้องมองไปยังกวินด้วยแววตาเบิกกว้าง
คิดไม่ถึงว่า คนอย่างประธานกวินที่มากเสน่ห์ สุดแสนเย็นชาและไร้หัวใจคนนี้จะหึงเป็นกับเขาด้วย
นับหนึ่งเองก็รู้สึกอึ้งเช่นกัน ในใจ เธอรู้สึกดีแปลกๆ เมื่อเห็นท่าทีหึงหวงแบบนั้นของกวิน แต่เธอก็ไม่แสดงอาการใดๆออกมา ได้แต่ยืนทำหน้านิ่งเงียบ รอดูว่าบอสธีร์ของเธอจะรับมือยังไง
พอธีร์ได้ยินดังนั้นเขาก็ยืนจ้องหน้ากวินด้วยแววตาสุขุมเย็นชา นัยน์ตาแข็งกร้าวแบบนิ่งๆแสดงความไม่พอใจออกมาเพียงเล็กน้อย
แต่ใครจะรู้ ว่าในหัวใจของเขานั้นเต็มไปด้วยแรงหึงหวงที่กำลังคุกรุ่นพร้อมทำศึกชิงนาง
แต่ด้วยความเป็นห่วงนับหนึ่งที่อยู่ในอ้อมกอดของศัตรูหัวใจ ถูกพันธนาการแน่นด้วยลำแขนอันแข็งแกร่งอย่างยากที่จะดิ้นหลุด
เขาทำได้แค่พยายามกำหมัดแน่นอย่างสะกดกลั้นอารมณ์ เพื่อไม่ให้ตัวเองเผลอทำอะไรที่มันขาดสติเกินไป
เขาจ้องมองแววตาคู่งามของเธออย่างนึกเสียดายแล้วพึมพำออกมาในใจว่า
[ นับหนึ่งคุณเป็นผู้หญิงของผม ต่อให้คุณมีคนที่เลือกไว้ในใจแล้วผมก็ไม่ยอมให้คุณไปอยู่ข้างกายเขาเด็ดขาด ผมจะทำให้คุณเปลี่ยนใจมารักผมให้ได้ ]
จากนั้นเขาก็เอ่ยขึ้น
" แค่ได้โอกาสจากคุณผมก็พอใจแล้ว ผมจะทำให้คุณเปลี่ยนใจมาเลือกผมและยอมคบกับผมให้ได้ "
เขามั่นใจว่าจะสามารถทำให้นับหนึ่งหันมาชอบและตกหลุมรักเขาได้แน่นอน ส่วนนับหนึ่งเองก็มั่นใจว่าตัวเอง ว่ามั่นคงต่อธีร์คนเดียวโดยไม่เปลี่ยนใจ
พอได้ยินกวินเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่นแบบนั้น เธอยิ้มออกมาเล็กน้อยแล้วเอ่ยตอบเสียงเรียบ
" ถ้าคุณมั่นใจขนาดนั้น ก็ตามใจค่ะ "
แม้เธอจะรู้สึกดีกับเขาจนรู้สึกชอบเขาขึ้นมาเล็กน้อยแต่เธอก็ให้คำมั่นกับบอสไปแล้ว ให้เปลี่ยนใจไปรักคนอื่นอาจจะเป็นไปได้ แต่ให้เปลี่ยนใจไปแต่งงานกับคนอื่นที่ไม่ใช่บอสมันเป็นไปไม่ได้แล้ว
เธอไม่อยากทำผิดต่อบอสที่เป็นผู้มีพระคุณ เลยไม่อยากใส่ใจอะไรกับคำพูดของกวินนัก
มีมี่ที่ยืนอยู่ตรงนั้นได้ยินทั้งสองคุยกันทุกคำทุกประโยคเต็มสองหู
จึงยืนมองหน้าน้องด้วยสีหน้าขุ่นเคืองด้วยความรู้สึกงอนและเคืองน้องสาวมากที่ทำตัวเป็นวันทองสองใจ รักคนนั้นให้โอกาสคนนี้
[ ขืนปล่อยไว้แบบนี้ มีหวังคุณกวินได้คาบน้องไปกินก่อนบอสแน่ๆ เห็นทีคงต้องบอกความจริงกับน้องแล้ว ]
หล่อนพึมพำในใจอย่างทนดูทนฟังคำพูดของกวินต่อไปไม่ไหวจึงตัดสินใจที่จะบอกความจริงกับน้อง
จากนั้นหล่อนก็เอ่ยเหน็บขึ้นในขณะที่ทั้งสองยืนสบตากันอย่างเงียบๆ
" วันนี้ตั้งใจมาหาบอสกับทุกคนแต่ดันมีคนนอกเข้ามาแทรก ทำลายบรรยากาศจนหมด ในเมื่อบอสขึ้นไปข้างบนแล้ว งั้นมีมี่กับน้องนับหนึ่งก็คงต้องกลับไปก่อนเช่นกัน บายนะคะพี่ครีม เจน "
หล่อนเอ่ยแล้วยกมือขึ้นมาทำท่าบ๊ายบายพอเป็นพิธี จากนั้นก็เข้าไปแยกนับหนึ่งออกจากอ้อมกอดของกวินแล้วจูงมือเธอออกจากร้านอย่างไม่เกรงกลัวอำนาจของกวินอีกต่อไป
กวินยอมปล่อยนับหนึ่งไปอย่างง่ายดาย แล้วยืนมองพวกเขาออกจากร้านไปโดยไม่เอ่ยอะไรอีก
กฤตยืนมองเจ้านายอยู่ห่างๆโดยไม่เอ่ยอะไร พอนับหนึ่งขึ้นไปนั่งในรถแล้ว กวินจึงหันกลับมามองหน้าลูกน้องคนสนิทแล้วเลิกคิ้วขึ้น เอ่ยเพียงสั้นๆว่า
" กลับ "
" ครับ "
กฤตผงกหัวตอบรับเสียงเรียบอย่างสุภาพด้วยสีหน้านิ่งเฉยราวกับคนไร้อารมณ์ความรู้สึก
กวินก้าวเท้ายาวเดินนำลูกน้องออกจากร้าน ส่วนกฤตก็เดินตามหลังเขาไปติดๆ
พอเดินไปถึงข้างรถ เขาก็เปิดประตูรถให้เจ้านาย เข้าไปนั่งข้างใน จากนั้นเขาก็ขึ้นไปนั่งที่คนขับแล้วสตาร์ทรถขับตามรถของนับหนึ่งไปอย่างเงียบๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ริษยาร้ายซ่อนรัก