หลังจากแม่ของนับหนึ่งเสียชีวิตได้ไม่ถึงสามเดือน ธำรง พ่อของนับหนึ่งก็พาผู้หญิงคนใหม่เข้ามาอยู่ในบ้านพร้อมกับลูกสาวที่วัยไล่เลี่ยกันกับนับหนึ่งเข้ามาแนะนำให้รู้จัก
" นับหนึ่งนี่คือคุณรานี ส่วนคนนี้เป็นพี่สาวหนู ชื่ออิงฟ้า
จากนี้ไปพวกเขาจะมาเป็นครอบครัวเดียวกับเรานะ หนูต้องเรียกคุณรานีว่าแม่นะ เข้าใจมั้ย "
หนูน้อยจ้องหน้าพ่อแบบนิ่งๆโดยไม่กะพริบตา สักพักจึงเอ่ยถามขึ้น
" ทำไมอยู่ๆหนูถึงมีพี่สาวล่ะคะ แล้วทำไมหนูต้องเรียกคนอื่นว่าแม่ด้วยคะ "
นับหนึ่งเสียใจมากจึงเอ่ยถามออกไปด้วยความอยากรู้ตามประสาเด็ก ทำเอาผู้เป็นพ่อถึงกับกระอักกระอ่วนใจที่จะตอบ
แต่ก็ต้องพยายามอธิบายให้ลูกสาวฟังอย่างใจเย็น สมเหตุสมผล เพราะเขารู้ดีว่านับหนึ่งเป็นเด็กฉลาดมีเหตุผล
" นับหนึ่ง คืองี้นะ แม่ของเรากลับไปอยู่บนสวรรค์แล้ว เราสองคนจำเป็นต้องมีคนดูแลไงลูก หากไม่มีคุณรานี ใครจะมาดูแลงานบ้านให้พ่อกับลูกล่ะ จริงมั้ย "
แม้นับหนึ่งจะอายุแค่ 6 ขวบ แต่พอเห็นคนที่จะมาเป็นแม่เลี้ยง มีลูกสาวอายุไล่เลี่ยกับเธอ เธอก็นึกถึงตอนที่เห็นแม่แอบร้องให้เสียใจบ่อยๆ
แล้วนำเรื่องราวมาปะติดปะต่อกัน จนเข้าใจและรู้ด้วยตัวเอง ว่าพ่อแอบนอกใจแม่ของเธอมานานแล้ว จนแม่ตรอมใจตาย เธอเข้าใจแบบนั้น
เมื่อผู้เป็นพ่อเอ่ยแบบนั้น เด็กน้อยก็ฝืนกลั้นน้ำตาต่อไปไม่ไหว จึงร้องให้ออกมาพร้อมกับตัดพ้อต่อว่าผู้เป็นพ่อ
" คุณพ่อโกหกคุณแม่มาตลอดใช่มั้ยคะ คุณพ่อทำให้คุณแม่เสียใจ คุณพ่อใจร้าย
ตอนนี้ นับหนึ่งเข้าใจแล้วว่าทำไมคุณแม่ถึงแอบร้องให้ทุกวัน
ที่แท้คุณพ่อก็นอกใจคุณแม่ คุณพ่อไม่รักคุณแม่ คุณพ่อไม่รักหนู คุณพ่อใจร้าย นับหนึ่งเกลียดคุณพ่อ ฮือๆๆ.... "
หนูน้อยร้องให้พรั่งพรูออกมาด้วยความผิดหวังและเสียใจอย่างมาก เลยวิ่งกลับเข้าไปในห้องของตัวเอง แล้วขังตัวเองอยู่ในห้อง
เมื่อรานีเห็นสามีมีสีหน้าอมทุกข์ แกจึงเอ่ยปลอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
" ไม่เป็นไรค่ะคุณ อย่าคิดมากเลย ฉันเชื่อว่าสักวันหนูนับหนึ่งจะยอมรับฉันได้ ฉันเข้าใจเธอค่ะ เพราะฉันมาทีหลังจริงๆ เพราะฉันเลยทำให้คุณไม่ได้อยู่ดูแลคุณรินทร์ในวันที่แกหมดลมหายใจ "
ธำรงมองหน้าภรรยากับลูกสาวคนโตด้วยสีหน้าเหนื่อยล้า แล้วโอบไหล่ภรรยาเบาๆพร้อมกับเอ่ย
" มันไม่ใช่ความผิดของคุณเลย คุณเองก็เข้าโรงพยาบาลผ่าตัดลำไส้ติ่งกะทันหัน อย่าโทษตัวเองเลย
จากนี้ไปก็ลำบากคุณแล้วนะ ช่วยอดทนกับนับหนึ่งหน่อยนะ เธอยังเด็กเกินไป พยายามเข้าใจเธอหน่อย "
" ได้ค่ะ ฉันจะรักและดูแลหนูนับหนึ่งเหมือนลูกสาวแท้ๆเลย คุณไม่ต้องกังวลเรื่องนี้เลยค่ะ "
" อือ "
ธำรงผงกหัวเบาๆจากนั้นก็มองลงมาที่อิงฟ้าแล้วเอ่ยถามขึ้น
" อิงฟ้าล่ะ ว่าไง จะดูแลน้องได้มั้ย "
อิงฟ้ายิ้มแล้วเอ่ยตอบผู้เป็นพ่อเสียงใส
" ได้ค่ะ หนูจะรักน้องเหมือนเป็นน้องสาวแท้ๆเลยค่ะ "
" ขอบใจมากลูก "
อิงฟ้าในวัย 7 ขวบ เอ่ยตอบผู้เป็นพ่อด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แต่ในใจกลับแอบอิจฉาและไม่พอใจจนลอบกำกระโปรงแน่น
ภายใต้แววตาสดใสซ่อนความอิจฉาและความร้ายกาจเอาไว้ได้อย่างแนบเนียน
แรกๆรานีพยายามทำดีกับนับหนึ่ง เอาอกเอาใจ ตามใจทุกอย่างเพื่อให้นับหนึ่งตายใจและยอมรับแกเป็นแม่
ด้วยความเป็นเด็กเมื่อแม่เลี้ยงไม่ได้เลวร้ายอะไรกับเธอแถมยังรักและเอาใจใส่เธอมากกว่าพ่อ
เธอจึงเริ่มไว้ใจและยอมรับแกเป็นแม่เลี้ยงและเรียกแกว่าแม่อย่างสนิทใจ
หนึ่งปีต่อมา นับหนึ่งอายุได้ 7 ขวบ แม่เลี้ยงที่เคยแสนดีก็เริ่มกลายเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย
เริ่มจากไม่ให้เธอซื้อเสื้อผ้าใหม่ เริ่มใช้งานเธอหนักแบบเนียนๆ กลับมาจากโรงเรียนเธอก็จะถูกใช้ให้ทำงานบ้านทุกวัน
" นับหนึ่ง กลับมาแล้วอย่าเพิ่งทำการบ้านนะลูก มาช่วยแม่ล้างจานก่อน แม่กำลังทำกับข้าวให้ลูกๆทาน "
นับหนึ่งเป็นเด็กฉลาดรู้ทันคน พอได้ยินดังนั้นจึงเอ่ยกับแม่เลี้ยงอย่างไร้เดียงสา
" ได้ค่ะ งั้นหนูไปเรียกพี่อิงฟ้าให้มาช่วยกันล้างจานนะคะ จะได้เสร็จไวๆ "
อิงฟ้าเดินเข้ามาได้ยินจึงเอ่ยกระแทกเสียงออกมาอย่างไม่พอใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ริษยาร้ายซ่อนรัก