ริษยาร้ายซ่อนรัก นิยาย บท 36

เมื่อลูกค้าในร้านลุกจากโต๊ะ เดินออกจากร้านไปแล้ว

นับหนึ่งก็เดินไปเก็บถ้วยชากาแฟพร้อมกับเช็ดโต๊ะแล้วนำถ้วยชามาล้างในซิงค์ล้างถ้วยจานหลังเคาน์เตอร์

ในเวลาว่าง ช่วงที่ไม่มีลูกค้าเข้าร้าน เธอก็เช็ดถ้วยชากาแฟแล้วเก็บเข้าตู้จัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ โดยไม่อยู่นิ่งหรือนั่งเล่นโทรศัพท์เหมือนคนอื่นๆ

เธอขยันทำงาน ดูแล เช็ดร้านให้เจ้านายเหมือนกับเป็นร้านของตัวเอง

มีมี่ที่นั่งเล่นโทรศัพท์ อยู่ๆก็เอ่ยขึ้น

" นับหนึ่ง ดูนี่สิ วันที่เราไปกินข้าวที่ภัตคารน่ะ พี่ได้ถ่ายรูปคู่กับคุณอิงฟ้าด้วยล่ะ เธอส๊วยสวย ผิวดีมาก ไม่ถือตัวเลย เป็นกันเองสุดๆ "

หล่อนเอ่ยพร้อมกับยื่นรูปถ่ายในโทรศัพท์ให้นับหนึ่งดู แต่นับหนึ่งกลับไม่หันไปสนใจ

แถมยังเบะปากมองบนพร้อมกับบ่นพึมพำในใจอย่างรู้สึกไม่ค่อยรื่นหู

[ หึ สวยแต่รูปจูบไม่หอมน่ะสิ ]

" ใช่ๆ นางน่ารักทั้งในจอและนอกจอเลย ฉันชอบเธอที่สุด "

เจนเอ่ยเสริมขึ้นอย่างชื่นชม นับหนึ่งได้แต่ทำหน้ารำคาญพร้อมกับเบะปากเบาๆด้วยแววตาไม่สบอารมณ์

[ น่ารักกับผีน่ะสิ มันตอแหลชัดๆ ]

ครีมเห็นนับหนึ่งนิ่งเงียบโดยไม่หันมาสนใจในสิ่งที่พวกเขาชวนสนทนา เลยเอ่ยถามขึ้น

" เอ๋...น้องนับหนึ่งไม่ชอบคุณอิงฟ้าเหรอ "

นับหนึ่งถอนหายใจออกมาอย่างรู้สึกรำคาญใจก่อนจะปรับสีหน้าแล้วหันมายิ้มพร้อมกับเอ่ยขึ้นเพื่อไม่ให้พี่ๆรู้สึกไม่ดี

" อืม...นับหนึ่งไม่รู้จักเขาค่ะ ไม่รู้จะชอบไปทำไม นิสัยและตัวตนที่แท้จริงของเธอ เราก็ไม่เคยสัมผัสอย่างใกล้ชิด

จะดีจริงหรือเป็นแค่สร้างภาพลักษณ์ให้ตัวเองดูดีในสายตาคนอื่นหรือเปล่าก็ไม่รู้

เมื่อยังไม่รู้จักดีพอ ก็ยังไม่อยากชอบหรือคลั่งไคล้เพียงรูปลักษณ์กับภาพลักษณ์ภายนอกค่ะ

นับหนึ่งชอบคนที่นิสัยมากกว่า เหมือนอย่างพี่ๆไง นับหนึ่งชอบพี่ๆมาก ใจดี มีความจริงใจสูง ไม่จกตา

ไม่เหมือนคนที่พี่คลั่งไคล้อยู่ เธออาจจะตอแหลสร้างภาพให้ตัวเองดูดีก็ได้ ใครจะรู้ "

" เอ๋...น้องนับหนึ่งพูดแบบนี้ เหมือนจงใจกล่าวหาคุณอิงฟ้าเลยนะ อย่าไปพูดที่ไหนเซียวล่ะ เดี๋ยวเจอทัวร์ลงนี่ ซวยเลยนะ "

ครีมเอ่ยขึ้นด้วยความเป็นห่วงแต่น้ำคำกลับฟังดูแปลกๆ คล้ายตบหัวแล้วลูบหลัง ส่วนเจนก็เอ่ยเสริมว่า

" นั่นสิ อาจซวยทั้งร้านเลยนะ "

" แต่เราว่าที่น้องนับหนึ่งพูดมันก็ถูกนะ เราคลั่งไคล้ภาพลักษณ์หล่อน บางทีหล่อนอาจจะจกตาเราก็ได้ ใครจะรู้ ใช่มั้ยน้องนับหนึ่ง "

มีมี่เอ่ยอย่างเห็นด้วยกับคำพูดนับหนึ่ง นับหนึ่งมองพี่มีมี่แล้วยิ้มชอบใจ

" อื้อ ใช่ "

" ไม่รู้แหละ จะจริงหรือจกตายังไงน้องนับหนึ่งก็ห้ามพูดต่อหน้าคนอื่น เพราะตอนนี้นางดังมาก "

เจนเอ่ยเตือนอย่างจริงจังด้วยความเป็นห่วง ส่วนครีมก็เสริมเช่นว่า

" ใช่ๆ พี่ๆหวังดีและเป็นห่วงนะถึงได้เตือน "

นับหนึ่งยิ้มแล้วเอ่ย

" ค่ะ นับหนึ่งรู้ว่าพี่ๆเป็นห่วง นับหนึ่งจะไม่พูดที่อื่นให้ตัวเองเดือดร้อนแน่นอนค่ะ "

" เช่นนั้นก็...ดีมาก ลูกค้ามาแล้ว พี่ไปเก็บโต๊ะก่อน "

มีมี่ลุกขึ้นมาเอาฝ่ามือขยี้ศีรษะนับหนึ่งเบาๆก่อนจะเดินออกไปเก็บโต๊ะ

แล้วลูกค้าก็ผลักประตูเข้ามาในร้าน สามสาวเลยหันมาให้ความสนใจกับลูกค้าเพื่อรับออเดอร์

" เอาสตรอว์เบอร์รีปั่นหนึ่ง บานอฟฟี่หนึ่งแล้วก็เอาลัตเต(Latte)ร้อนหนึ่งค่ะ "

" ลูกค้าทานนี่หรือเอากลับคะ "

ครีมเอ่ยถามอย่างสุภาพ

" ทานที่นี่ค่ะ "

ลูกค้าเอ่ยตอบแล้วครีมที่รับออเดอร์ก็ทวนออเดอร์ที่ลูกค้าสั่งซ้ำ เพื่อให้ลูกค้าเพื่อเช็คความถูกต้องของออเดอร์

" โอเคค่ะ มีสตรอว์เบอร์รีปั่นหนึ่ง บานอฟฟี่หนึ่งแล้วก็ลัตเตร้อนหนึ่ง นะคะ "

" ใช่ค่ะ "

" เป็น 180 บาทค่ะ คุณลูกค้าสะดวกจ่ายเป็นเงินสดหรือสแกนจ่ายคะ "

" สแกนจ่ายค่ะ "

" สแกนตรงนี้เลยค่ะ "

ครีมผายมือให้ลูกค้าสแกนชำระเงินตามคิวอาร์โค้ดของร้าน

" เรียบร้อยค่ะ เชิญคุณลูกค้าไปนั่งรอสักครู่นะคะ "

ขณะที่ครีมรับออเดอร์สนทนากับลูกค้า นับหนึ่งก็รับหน้าที่ชงกาแฟ ส่วนเจนก็ทำน้ำผลไม้ปั่น

แล้วครีมก็หยิบถาดออกมาเตรียมไว้แล้วหยิบบานอฟฟี่กับทิชชูและน้ำเปล่าให้ลูกค้ามาเตรียมไว้ในถาด

พอเจนทำน้ำปั่นเสร็จก็มาวางลงบนถาด ตามด้วยถ้วยกาแฟร้อนฝีมือนับหนึ่ง เสร็จแล้วครีมก็ถือถาดเดินออกไปเสิร์ฟให้ลูกค้าทันที

วันนี้ลูกค้าไม่ค่อยเยอะทั้งสี่คนเลยมีเวลานั่งพูดคุยกันตามประสาเพื่อนร่วมงานบ้าง

พอถึงตอนเย็น ทุกคนก็เตรียมตัวกลับบ้าน แต่ก่อนจะกลับก็รอให้ลูกค้าออกจากร้านไปก่อน

แล้วก็ช่วยนับหนึ่งเก็บข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ จนปิดร้านเรียบร้อย พวกเขาถึงจะแยกย้านกันกลับบ้าน

หลังจากที่ทุกคนออกไปแล้ว นับหนึ่งก็ไปหยิบไม้กวาดกับที่ตักขยะมากวาดทีละชั้นๆอย่างใจเย็น

" คุณกฤตบอกว่าคุณต้องการพบผม ไม่ทราบว่าคุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมเหรอครับ "

ชายร่างสูงใหญ่ที่สวมหน้ากากครึ่งหน้ากระตุกยิ้มออกมาที่มุมปากก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงเย็นอย่างไม่รีบร้อน

" หึ ผมเพิ่งจะมาถึง ยังไม่ทันได้สั่งอะไรมาดื่มเลย คุณก็เข้าประเด็นแล้ว จะรีบร้อนไปไหนเหรอครับ "

ชายร่างสูงใหญ่นั่งจ้องหน้าธีร์ แววตาคมกริบที่อยู่ภายใต้หน้ากาก สำรวจธีร์อย่างเงียบๆเช่นกัน

[ ผู้ชายคนนี้ รูปร่างสูงใช้ได้ หน้าตา ดีไม่แพ้เราเลย แต่อาจจะหล่อน้อยกว่าเล็กน้อย ท่าทีดูสุขุม นิ่งเฉย เก็บความรู้สึกทางสีหน้าได้ดีทีเดียว ]

ได้ยินดังนั้นธีร์จึงเอ่ยตอบไปว่า

" ผมยังมีธุระต้องไปทำ คงอยู่คุยนานไม่ได้ครับ อืม...ผมรู้ว่าคุณจะมาคุยกับผม เรื่องกล้องวงจรปิด

ผมเองก็อยากจะมาบอกคุณด้วยตัวเองเหมือนกันว่า...วันนั้น...กล้องมันเสียพอดีครับ "

ธีร์เอ่ยทิ้งท้ายอย่างเนิบๆเพื่อกวนประสาทคนตรงหน้า และดูเหมือนจะได้ผล ทำให้คนตรงหน้าถึงกับขมวดคิ้วแล้วเอ่ยเสียงเย็นอย่างราบเรียบ

" หึ คุณธีร์ช่างมีอารมณ์ขันจริงๆ สั่งให้ลูกน้องบอกคนของผมว่าคุณอิงฟ้ามาลบ

ตอนนี้มาบอกว่ากล้องเสีย ถ้าผมจะบอกว่าขอให้คุณกู้ข้อมูลคืนให้ล่ะ คุณจะว่ายังไง "

สองหนุ่มบุคลิกดีนั่งประจานหน้าจ้องกันอย่างมีชั้นเชิง แบบไม่มีใครยอมใคร

" เช่นนั้นต้องขออภัยที่ทำให้คุณมาเสียเที่ยวแล้ว เพราะผมไม่สามารถกู้คืนอะไรได้จริงๆ

ขอบคุณมากที่คุณให้เกียรติมาถึงที่นี่ แถมยังประเมินความสามารถผมสูงขนาดนั้น

น่าเสียดายที่ผมไม่มีความสามารถอย่างที่คุณเข้าใจ วันนั้นกล้องมันเสียจริงๆครับ "

คำพูดของธีร์ชัดเจนว่าจงใจปฏิเสธอย่างไม่เกรงกลัวอำนาจของคนตรงหน้า

กฤตที่นั่งฟังอย่างเงียบๆ ก็รู้ได้ทันทีว่าคุณธีร์คนนี้ ต้องการปกป้องนับหนึ่ง

ตอนนี้ทำให้เขามั่นใจว่ารอยหยิกบนมือของอิงฟ้าต้องมาจากนับหนึ่งแน่นอน

ชายร่างสูงยิ้มเย็นขึ้นที่มุมปากอย่างหมดความอดทนแล้วเอ่ย

" ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวก็รู้ว่ากล้องเสียหรือไม่เอาเป็นว่าคุณเตรียมรับมือให้ดีก็แล้วกัน "

เอ่ยจบ ชายร่างสูงในชุดสูทสีดำก็ลุกขึ้นหมุนตัวเดินออกไปอย่างสง่าผ่าเผย โดยมีกฤตเดินตามหลังไป

[ หึ คิดจะเจาะเข้าระบบงั้นเหรอ มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก แต่ก็ขอบใจที่บอกล่วงหน้า ]

จากนั้นธีร์ก็ลุกขึ้นเดินออกไปที่ห้องกล้องวงจรปิดไป

จัดการกับเครื่องคอมพิวเตอร์ไล่ตรวจระบบความปลอดภัยบนคอมที่เก็บข้อมูลของกล้องวงจรปิด

พร้อมกับติดตั้งระบบป้องกันที่มีความปลอดภัยสูงสุดโดยไม่ให้คนแฮกเข้ามาได้

เขาใช้เวลาอยู่สักพักเมื่อทำเสร็จก็เดินออกมาจากห้องแล้วไปที่รถ จากนั้นก็ขับออกจากภัตคาร เพื่อกลับไปหานับหนึ่ง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ริษยาร้ายซ่อนรัก