หลังจากออกมาจากภัตคารแล้ว กฤตก็ขับรถไปส่งเจ้านายที่โรงแรมหรูสำหรับหญิงสาวทั่วไป ในห้องเชือดที่นับหนึ่งเคยไป
พอเขาเปิดประตูเข้าไปในห้องชายสวมหน้ากากก็นึกถึงวันที่สาวน้อยในความทรงจำคนนั้นเปิดประตูเข้ามาในห้องของเขาด้วยท่าทีหวาดกลัวอย่างระมัดระวัง
คิดถึงฉากสวาทอันเร่าร้อนบนเตียงใหญ่ คิดถึงเรือนร่างหอมเนียนนุ่มของหญิงสาวปริศนาคนนั้นด้วยความรู้สึกโหยหา
และนึกถึงตอนที่เธอใช้อาวุธป้องกันตัวจากเขา ถึงกับลงมือแทงเขาอย่างไม่ลังเล
ตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยโหยหาเรือนร่างหญิงสาวคนไหนขนาดนี้มาก่อน
มีเพียงหญิงสาวใจเด็ดคนนั้นที่เขารู้สึกคิดถึงเป็นช่วงๆ
การที่เขาเก็บอิงฟ้าไว้ข้างกาย ก็เพื่อหวังว่าสักวันเธอจะทำให้เขาได้เจอกับหญิงสาวคนนั้นอีกครั้ง
วันนี้ที่เขาออกไปเจอเจ้าของภัตคารด้วยตัวเองไม่ใช่ต้องการกู้ไฟล์คืนเพื่ออิงฟ้า
แต่ต้องการดูว่าหญิงสาวใจเด็ดที่กล้าทำร้ายดาราดังแห่งวงการบันเทิงคนนั้นเป็นใคร
เพราะตอนนี้ด้วยระดับความดังของอิงฟ้าแล้วไม่น่าจะมีใครกล้ามีเรื่องการเธอถึงขนาดลงมือทำร้ายแบบนั้น อิงฟ้าเองก็มีพิรุธไม่กล้าบอกว่าถูกใครทำร้าย
นั่นยิ่งทำให้เขาสงสัยและคิดว่าหญิงสาวที่ทำร้ายอิงฟ้านั้นอาจจะเป็นสาวน้อยใจเด็ดในคืนนั้นของเขา
ยิ่งคิดก็ยิ่งเสียดาย หงุดหงิดใจที่วันนั้นไม่ได้สนใจหรือหันมองกลุ่มหญิงสาวโต๊ะข้างๆ
แล้วเมื่อกี้คำพูดที่ดูรีบร้อนเข้าประเด็นของธีร์รวมถึงการปฏิเสธเด็ดขาดแบบนั้นก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกมั่นใจ
ว่าธีร์ทำลายหลักฐานเพื่อปิดบังตัวตนของหญิงสาวร่างเล็กที่ลุกไปเข้าห้องน้ำพร้อมกับอิงฟ้าในวันนั้น
ยิ่งทำให้เขาอยากจะเห็นหน้าหญิงสาวที่ไปเข้าห้องน้ำในวันนั้นมากขึ้นไปอีก เพื่อง่ายต่อการตามหา
เพื่อพิสูจว่าเธอใช่สาวน้อยใจเด็ดที่ทิ้งรอยแผลเป็นอันเป็นที่ระลึกให้เขาหรือเปล่า
[ สาวน้อยถ้าเจอคุณอีกครั้ง ผมจะจับคุณขังไว้ ไม่ให้ไปไหนอีกเลย ]
ชายสวมหน้ากากพึมพำในใจขณะเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ในห้องทำงานที่มีคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คตั้งอยู่
กฤตที่ตามเขาเข้ามาก็เดินไปเปิดไฟให้ ในห้องที่มืดมิดก็สว่างขึ้นมาทันที
ตอนนี้ชายสวมหน้ากากเปิดคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คแล้วทำการสร้างโปรแกมแฮก
จากนั้นก็พยายามเจาะเข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์ของภัตคารของธีร์เพื่อดึงข้อมูลทั้งหมดมา
เขานั่งหน้าจอด้วยสีหน้าสุขุมเคร่งขรึม แววตาจับจ้องตัวอักษรภาษาอังกฤษที่เรียงยาวกันเป็นแถวสลับกับตัวเลขบนจออย่างตั้งใจ
นิ้วมือเรียวยาววางบนคีย์บอร์ดขยับเคลื่อนไหวตลอดเวลา
ประสานกับอีกมือที่จับเมาส์แน่นคอยคลิกยามจำเป็น เขาพยายามเจาะเข้าระบบอยู่นานจนเข้าได้สำเร็จ
" หึ ระบบป้องกันห่วยๆของคุณมันป้องกันการแฮกของฉันไม่ได้หรอก "
ชายสวมหน้ากากยิ้มเย็นที่มุมปากพร้อมกับพึมพำหลังจากที่แฮกเข้าระบบภัตคารได้
ธีร์เองก็นั่งจ้องหน้าคอมด้วยแววตาจริงจังจดจ่อกับพิณตัวอักษรบนจออย่างไม่วอกแวก
โดยไม่สนใจนับหนึ่งที่นั่งอยู่ข้างเขา สองมือของเขาขยับรัวบนคีย์บอร์ดคอยสกัดคนที่พยายามดึงข้อมูลออกไป
[ ชายสวมหน้ากากคนนี้ฝีมือร้ายกาจไม่เบาเลย ]
เขาเริ่มรู้สึกหงุดหงิดที่ระบบรักษาความปลอดภัยที่เขาสร้างขึ้น ไม่สามารถป้องกันการแฮกของชายสวมหน้ากากได้
ตอนนี้เขาทำได้เพียงดักจับตัวอักษรที่เด้งขึ้นมาบนหน้าจอคอยสกัดไม่ให้อีกฝ่ายดึงข้อมูลไปได้
ขณะเดียวกันลูกน้องของเขาที่ดูแลห้องควบคุมกล้องวงจรปิดก็พยายามสร้างระบบความปลอดภัยขึ้นมาใหม่
ชายสวมหน้ากากเองก็เริ่มหงุดหงิดแต่อีกใจก็รู้สึกชื่นชมในความสามารถของธีร์เช่นกัน
" นายธีร์คนนี้ ฉลาดไม่เบา ทางหนึ่งสกัดอีกทางก็สร้างระบบป้องกันขึ้นมาใหม่ หึ น่าสนใจจริงๆ "
ตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยเจอใครที่มีความสามารถใกล้เคียงกับเขามาก่อน
เลยทำให้เขารู้สึกสนุกและท้าทายกับการแฮกเข้าระบบของคนอื่นในครั้งนี้
ขณะที่เขากำลังยิ้มอย่างชะล่าใจรอดูความสามารถของอีกฝ่ายอยู่นั้น อยู่ๆหน้าจอของเขาก็ดับไป
คิ้วของเขากระตุกทันที ดวงตาคมกริบเบิกกว้างขึ้นมาอย่างแข็งกร้าว จากนั้นเขาก็ยิ้มเย็นออกมา ที่มุมปากแล้วเอ่ยอย่างสุขุมใจเย็นว่า
" อย่าคิดว่าหยุดการแฮกของฉันได้แล้วจะปกปิดตัวตนของผู้หญิงคนนั้นได้ตลอดนะ
ฉันไม่รีบ ต้องมีสักวัน ที่ฉันต้องรู้ว่าผู้หญิงที่ทำร้ายอิงฟ้าคนนั้นเป็นใคร "
แม้อีกใจของเขาจะแอบโมโหตัวเองเล็กน้อยที่ประมาทธีร์เกินไป แต่ก็พอใจที่ได้เห็นความสามารถของอีกฝ่าย
กฤตที่ยืนห่างออกไปแอบตกใจเล็กน้อย เพราะไม่เคยเห็นเจ้านายตามหาใครอย่างบ้าคลั่งถึงขนาดแฮกเข้าระบบคนอื่นเช่นนี้มาก่อนและแอบทึ่งในความเก่งของคุณธีร์ไม่น้อย
เขาจ้องหน้าลูกน้องคนสนิทอย่างจับผิด กฤตเลยรีบค้อมตัวแล้วเอ่ยแก้ตัวไปว่า
" ขอโทษครับท่านประธาน หากผมสังเกตก็คงจะบอกท่านประธานไปแล้วครับ
ว่าคนที่คุณธีร์ปกป้องนั้นใช่หญิงสาวในคืนนั้นของท่านประธานหรือเปล่า
แต่วันนั้นผมไม่ได้สนใจเลยจริงๆครับ เพราะนึกว่าพวกเขาก็เหมือนคนอื่นที่มาทานข้าวปกติ "
" พูดได้ดี แต่อย่าให้ผมรู้นะว่าคุณโกหกผม ไม่งั้นผมจะส่งคุณไปอยู่ต่างประเทศ ให้คุณทบทวนความผิดทันที "
" ครับ "
" คุณกฤต คุณอยู่กับผมมานาน ผมหวังว่าคุณจะซื่อสัตย์ จริงใจต่อผมสมกับที่ผมเชื่อใจและไว้ใจคุณนะ "
ที่เขาต้องเอ่ยแบบนี้เพื่อดึงสติลูกน้องคนสนิท ให้คิดได้และสำนึกในสิ่งที่ทำอยู่
เพราะเขาไม่เชื่อ ว่าลูกน้องที่ช่างสังเกตทุกสิ่งรอบตัวคนนี้จะไม่เห็นหน้าผู้หญิงที่เดินออกไปเข้าห้องน้ำคนนั้น
แต่เขาก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรลูกน้องคนสนิทถึงเลือกที่จะนิ่งเงียบทำเป็นปิดตาข้างหนึ่ง
แม้เขาจะไร้หัวใจกับหญิงสาวแต่กับลูกน้องคนสนิท เขาก็ให้ใจไว้ใจเชื่อใจอย่างสนิทใจ
จากนั้นเขาก็เดินไปนั่งลงบนโซฟาแล้วเอ่ยขึ้นลอยๆด้วยท่าทีเคร่งขรึม
" ฉันจะต้องรู้ให้ได้ ว่าผู้หญิงที่กล้าลงมือทำร้ายอิงฟ้าคนนั้นใช่หญิงสาวในคืนนั้นหรือเปล่า หากใช่ฉันจะบุกไปชิงตัวเธอคืนมาทันที "
กฤตเดินมายืนตรงหน้าเจ้านายด้วยความรู้สึกผิดในใจแต่ก็ยังเลือกที่จะไม่พูดอะไร จนชายสวมหน้ากากต้องเอ่ยขึ้นด้วยความหงุดหงิดใจ
" คุณจะไปไหนก็ไปเถอะ "
ชายสวมหน้ากากเอ่ยเสียงเย็นอย่างเคร่งขรึม
กฤตที่ยืนหน้านิ่ง เอ่ยถามขึ้นอย่างสุขุม
" วันนี้ท่านประธานจะให้ผมไปรับใครมั้ยครับ "
" ไม่ต้อง วันนี้ฉันไม่มีอารมณ์ "
เขาเอ่ยตอบเสียงเย็นด้วยสีหน้าเคร่งขรึมเย็นชา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ริษยาร้ายซ่อนรัก